กรรมการสิทธิลงพื้นที่นครศรีธรรมราชรับฟังปัญหาชาวบ้านค้านนิคมอุตสาหรรม แกนนำยันค้านทุกโครงการเชื่อส่งผลกระทบกับวิถีชีวิต-สิ่งแวดล้อม

กรรมการสิทธิลงพื้นที่นครศรีธรรมราชรับฟังปัญหาชาวบ้านค้านนิคมอุตสาหรรม  แกนนำยันค้านทุกโครงการเชื่อส่งผลกระทบกับวิถีชีวิต-สิ่งแวดล้อม

 กฤษณะ ทิวัตถ์สิริกุล / นครศรีธรรมราช / 19 พฤศจิกายน 2552 / 081-891-1948 , 080-537-0101 

ที่มา     http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=66105  (สามารชมคลิปได้)

  เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 19 พ.ย.52 นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ในฐานะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะทำงานกรรมการสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณริมหาดคอเขา ม.5 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อร่วมเวทีเสวนาและรับฟังปัญหาในข้อร้องเรียน จากชาวบ้านในพื้นที่เกี่ยวกับแนวโน้มผลกระทบที่จะได้รับถ้าหากมีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม และ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ รวมทั้งการก่อสร้างศูนย์สนับสนุนของบริษัทเชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด ในพื้นที่ อำเภอท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยมีเครือข่ายผลกระทบจากนโยบายสาธารณะ เป็นผู้ดำเนินการ นำโดยนายทรงวุฒิ พัฒแก้ว แกนนำกลุ่มกลุ่มศึกษาการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีนครศรีธรรมราช และ นายทวีผล พรหมคีรี ประธานกลุ่มรักษ์ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มคัดค้าน และ ราษฎรจาก ต.ทุ่งปรัง และ ต.สิชล อ.สิชล กว่า 100 คน

       นายทรงวุฒิ พัฒแก้ว เปิดเผยว่าชาวบ้านในพื้นที่ได้รวมตัวกันเป็นเครือข่ายที่เข้มยืนยันว่าปฏิเสธทุกโครงการที่จะมาลงในพื้นที่ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งผลกระทบเช่นโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โครงการนิคมอุตสาหกรรม โครงการก่อสร้างของบริษัทเชฟรอน ประชาชนในพื้นที่ไม่ต้องการโครงการเหล่านี้ต้องการที่จะดำรงชีวิตอยู่ตามแบบวิถีดั้งเดิมและสนับสนุนที่จะดำเนินระบบเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น หากมีการดำเนินการโครงการยืนยันว่าจะมีการคัดค้านจนถึงที่สุด

       ขณะที่ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ในฐานะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า เราได้ติดตามลักษณะเรื่องเช่นนี้มาโดยตลอดเช่นกรณีที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่ จ.ระยอง และที่นครศรีธรรมราช เราลงพื้นที่เพื่อต้องการข้อมูลข้อเท็จจริง โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่จะต้องมีความรับผิดชอบ และต้องคำนึงถึงสิทธิ การมีส่วนร่วมของประชาชน

       สำหรับการเฝ้าติดความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรตมขนาดใหญ่เหล่านี้ ประชาชนและเครือข่ายได้มีการเฝ้าติดตามในโครงการต่างๆเช่นการขุดเจาะปิโตรเลียมในอ่าวไทย การก่อสร้างท่าเรือเชพรอน สนามบินเชฟรอน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โรงกลั่น นิคมอุตคสาหกรรมปิโตรเคมีสิชล และท่าศาลา นิคมอุตสาหกรรมสิชล การจัดวางผังเมืองใหม่ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่คลองท่าทน และอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ ซึ่งกลุ่มเครือข่ายและประชาชขนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามลำดับมาแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 ซึ่งนครศรีธรรมราช ถือเป็นจังหวัดที่ถูกจับตามองในการลงทุนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง.////