1. ชื่อเรื่อง การศึกษาความต้องพัฒนาคุณภาพโรงเรียนตามทัศนะของ
ข้าราชการครู โรงเรียนศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
2. ผู้วิจัย ว่าที่ร้อยตรี เมฆิน ลิ้มเจริญ
3. ปีที่วิจัย มีนาคม 2544
4. วัตถุประสงค์
5. วิธีดำเนินการวิจัย
ประชากร ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ศึกษาจากประชากร ซึ่งเป็นข้าราชการครูของโรงเรียนศรีมโหสถ ปีการศึกษา 2543 จำนวนทั้งสิ้น 30 คน
6. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นแบบสอบถามที่สอบถามเกี่ยวกับความต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียน ตามทัศนะของข้าราชการครูโรงเรียนศรีมโหสถ จังหวัดปราจีน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามแนวคิดของลิเคอร์ท (Likert Scale) คือมากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด
1. ลักษณะของแบบสอบถามแบ่งออกเป็น 2 ตอนได้แก่
ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบ
ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับความต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนตามทัศนะข้าราชการครู โรงเรียนศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ตามมาตรฐานเพื่อการประเมินคุณภาพภายนอกสำหรับระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3 ด้าน คือ ด้านผู้เรียน ด้านกระบวนการ และด้านปัจจัย
1.1 การศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฏีการบริหารและการจัดการศึกษา มาตรฐานการศึกษาเพื่อประเมินคุณภาพภายนอก ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
1.2 ศึกษาการสร้างเครื่องมือ จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยสร้างเครื่องมือมีลักษณะเป็นแบบสอบถามสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นแบบตรวจสอบรายการจำนวน 3 ข้อ แบบสอบถามเกี่ยวกับความต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนตามทัศนข้าราชการครูโรงเรียน ศรีมโหสถ ลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 32 ข้อ
6. วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
8. การวิเคราะห์ข้อมูล
ระดับความต้องการพัฒนามากที่สุด ให้ 5 คะแนน
ระดับความต้องการพัฒนามาก ให้ 4 คะแนน
ระดับความต้องการพัฒนาปานกลาง ให้ 3 คะแนน
ระดับความต้องการพัฒนาน้อย ให้ 2 คะแนน
ระดับความต้องการพัฒนาน้อยที่สุด ให้ 1 คะแนน
ค่าคะแนนเฉลี่ย 4.15 – 5.00 หมายถึง ความคาดหวังของผู้ปกครอง
อยู่ในระดับมากที่สุด
ค่าคะแนนเฉลี่ย 3.51 - 4.50 หมายถึง ความคาดหวังของผู้ปกครอง
อยู่ในระดับมาก
ค่าคะแนนเฉลี่ย 2.51 - 3.50 หมายถึง ความคาดหวังของผู้ปกครอง
อยู่ในระดับปานกลาง
ค่าคะแนนเฉลี่ย 1.51 - 2.50 หมายถึง ความคาดหวังของผู้ปกครอง
อยู่ในระดับน้อย
ค่าคะแนนเฉลี่ย 1.00 - 1.50 หมายถึง ความคาดหวังของผู้ปกครอง
อยู่ในระดับน้อยที่สุด
9. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
การใช้สถิติที่จะวิเคราะห์ข้อได้เลือกใช้สถิติตามข้อมูลที่วิเคราะห์ และวิธีการที่สอดคล้องกับการทดสอบสมมติฐานดังต่อไปนี้
1. วิเคราะห์ระดับความต้องการพัฒนาคุณภาพ โรงเรียน ตามทัศนะของข้าราชการครูโรงเรียนศรีมโหสถ โดยหาค่าเฉลี่ย (mean) ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation)
2. เปรียบเทียบความต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียน ตามทัศนะของข้าราชครู โรงเรียนศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี โดยจำแนกตามเพศ ประสบการณ์ และตำแหน่ง
10. สรุปผลการวิจัย
1. วิเคราะห์ความต้องการการพัฒนาคุณภาพโรงเรียน ตามทัศนะของข้าราชการครูโรงเรียนศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี จำแนกตามเพศ ประสบการณ์ในการทำงาน และโดยรวมและรายด้าน พบว่าความต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนอยู่ระดับมากโดยรวมและรายด้านโดยวิธีเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาค่าเฉลี่ยน้อยได้แก่ ด้านผู้เรียน ด้านกระบวนการ และด้านปัจจัย เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเป็นรายด้านและรายข้อได้ดังนี้
1.1 ด้านผู้เรียน ในการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนพบว่าอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าที่มีคะแนน
มากเป็นอันดับแรก ได้แก่ นักเรียนที่มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ และข้อนักเรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้ และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
1.2 ด้านกระบวนการ ความต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียน อยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อ
ที่มีคะแนนมากเป็นอันดับแรกได้แก่ ข้อสถานศึกษามีการจัดการเรียนการสอนสอดคล้องกับหลักสูตร ความต้องการของนักเรียนและท้องถิ่น
1.3 ด้านปัจจัย ความต้องการการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่มี
คะแนนมากเป็นอันดับแรกได้แก่ ข้อชุมชนและผู้ปกครองมีศักยภาพในการสนับสนุนการาจัดการและพัฒนาการศึกษา
2. ผลการเปรียบเทียบความต้องการการพัฒนาคุณภาพโรงเรียน ตามทัศนะคุณภาพโรงเรียนศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี จำแนกตามเพศ ประสบการณ์ และตำแหน่ง เป็นรายด้าน และรวมทุกด้านพบว่า
2.1 ข้าราชการครูเพศชายและเพศหญิงต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนอยู่ในระดับมาก ทั้งโดยรวมและรายด้าน โดยข้ารายการครูเพศหญิงมีความต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนมากกว่าข้าราชการครูเพศชาย
2.2 ข้าราชการครูที่มีประสบการณ์มากและประสบการณ์น้อยมีความต้องการในการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนอยู่ในระดับมาก ทั้งโดยรวมและรายด้าน โดยข้าราชการครูที่มีประสบการณ์น้อยกว่า 15 ปี ต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนมากกว่าข้าราชาการครูที่มีประสบการณ์มาก
2.3 ผู้บริหารและครูผู้สอนต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนอยู่ในระดับมากทั้งโดยรวมและรายด้าน โดยครูผู้สอนมีความต้องการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนมากกว่าผู้บริหาร
น้องอัจ...ยังหารูปไม่ได้เหรอ เอารูปที่ไปอุดร ตอนใส่ชุดสวย...ดีไหมครับ เดี๋ยวพี่ลงรูปให้
มาเรียนรู้เกี่ยวกับวิจัยค่ะ วิจัยยิ่งทำยิ่งอยากรู้ค่ะ
เสร็จสองเล่มแล้วยังไม่มีรูปอีกนะจ๊ะ...ไม่เห้นหน้าเลย
มาเยี่ยมชมผลงานครับ