โครงการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและควบคุมป้องกันโรคโดยระบบพี่เลี้ยง( 9) การคัดเลือกแพทย์และนักวิชาการโครงการสร้างผู้เชี่ยวชาญ
18-11-52
โครงการTMมีการคัดเลือกน้องเลี้ยงเมื่อ13-11-52ค่ะ
(ร่าง) สรุปผลการดำเนินการคัดเลือกผู้เข้าประชุม13-10-52
การคัดเลือกจัดที่สำนักระบาดวิทยาโดยกำหนดให้ผู้สมัครไปลงทะเบียนในช่วงเช้า ท่านผู้ทรงนพ. จรูญกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมและแสดงความยินดีที่มีผู้สมัครมากเกินกว่าจะรับได้ ท่านกล่าวถึงความจำเป็นของกรมที่จัดหลักสูตรนี้ขึ้นมาเพราะกรมมีภารกิจมากมายซึ่งต้องอาศัยบุคลากรที่มีสมรรถณะ นอกจากความรู้แล้วเราควรมีกลเม็ดที่จะทำให้งานของกรมสำเร็จโดยดูสิ่งแวดล้อมภายนอกด้วย สำหรับกลุ่มคนที่ไม่ได้รับการคัดเลือกก็จะมีการพัฒนา เป็นครั้งแรกที่กรมจัดทำระบบพี่เลี้ยงโดยตั้งสมมุติฐานว่าจะมีการสื่อสารดี สามารถทำงานร่วมกับผู้ว่าได้จนทำให้เกิดแผนยุทธศาสตร์ระดับตำบลซึ่งเป็นแผนของตำบลเอง ในพื้นที่ทำงานเราต้องการนักเจรจาต่อรอง นักพฤติกรรมศาสตร์ นักการตลาด นักยุทธศาสตร์ การมาเรียนกับผู้ทรงคุณวุฒิไม่พอ ควรหาความรู้เพิ่มเติม
นพ.โสภณกล่าวเพิ่มเติมว่าเป็นโครงการที่ทำครั้งแรกโดยทำร่วมกัน3หน่วยงานคือสำนักระบาดวิทยา โครงการTalent Management และกองการเจ้าหน้าที่ โครงการนี้เป็นโครงการระยะยาวโดยมีวัตถุประสงค์ผลิตบุคลากรทางการแพทย์50ท่าน นักวิชาการ100ท่าน มีการทำงานร่วมกับทีมพี่เลี้ยงโดยเริ่มจัด 5 ทีมโรคหลัก จะเริ่มปฐมนิเทศ 26-27 พย. ตัวชี้วัดคือผลการศึกษาโดยประเมินจากผลงานวิชาการที่สามารถเผยแพร่ จะมีการพบกันทุก3เดือนพร้อมประเมินผลการดำเนินการ ลักษณะเป็นโครงการที่เน้นทางวิชาการแนวลึกและมีทักษะที่ต้องพัฒนาแนวขวางเช่นการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร การประเมินอาจประเมิน360องศา โดรงการจะอบรมทางระบาดวิทยาในเดือนมค.53 จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการทุก 3เดือน และมีการทำดครงการ 1โครงการ มีการให้เข้าร่วมประชุมวิชาการระดับนาๆชาติและนำเสนอผลงาน ในปี่แรกเป็นการสร้างพื้นฐาน ปีที่2 ไปต่างประเทศ ปีที่3 เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ปีที่4,5 ทำงานหลัก ปี ที่ 6 ,7, 8 จะอยู่ที่หน่วยงานมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น
การดำเนินการจะทำทุกปี ปัจจัยความสำเร็จอยู่ที่น้องเลี้ยง พี่เลี้ยง และรูปแบบเป็น3C component
นพ.จีรพัฒน์ เสริมว่ากรมควรมีโครงการรองรับและผู้ที่ได้ควรมุ่งมั่นศึกษาเพราะได้ประโยชน์ คนที่ไม่ได้ปีต่อไปอาจรับเพิ่มเพราะกรมขากแคลนผู้เชี่ยวชาญมาก
มีผู้ให้ความเห็นว่าคนของสำนักวัณดรคอายุเกิน40มากทำให้ไม่เข้าเกณฑ์
หลังจากลงทะเบียน มีการแจกคำถาม2ข้อเพื่อให้ผู้เข้ารับการคัดเลือกตอบคำถาม ผู้รับการคัดเลือกแบ่งออกเป็น5กลุ่มโรคโดยมีการแยกกันไปสัมภาษณ์ที่ห้องต่างๆ ส่วนกรรมการมีการเชิญเข้าร่วมกันประชุมเพื่อทราบกติกาและส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้กรรมการพิจารณาในเวลา15.00น.
ในช่วง15.00 มีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกคณะกรรมการคัดเลือกแพทย์และนักวิชาการโครงการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและควบคุมป้องกันโรคโดยระบบพี่เลี้ยง ปี 2553
1 .เรื่อง ผลการคัดเลือกแพทย์และนักวิชาการ
นพ. จรูญ ปิยะวราภรณ์ ประธานคณะกรรมการคณะกรรมการคัดเลือกแพทย์และนักวิชาการโครงการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและควบคุมป้องกันโรคโดยระบบพี่เลี้ยง ปี 2553 กล่าวเปิดการประชุม
นพ.โสภณ …….. เชิญให้แต่ละทีมนำเสนอผลการสัมภาษณ์ผู้สมัครและผลการคัดเลือกโดยเริ่มจาก
1 ทีมวัณโรค พญ. นาฏพธู …… นำเสนอว่ามีผู้สมัคร 3คน แพทย์1ท่านคือนพ.ไพโรจน์ ……จากสคร 8 ซึ่งเคยทำงานร่วมกันมาก่อน ส่วนคุณธีรนันท์ ……ยังไม่มั่นใจเพราะเคยทำวัณโรค แต่ขณะนี้ย้ายมาทำโรคติดต่อทั่วไป
2 ทีม NCD และ EN-OCT ……………….รายงานว่า มีผู้สมัคร9คน สละสิทธิ1คน มีแพทย์ 1คน คือ นพ……. ทำให้ไม่มีตัวเลือก แต่จากการสัมภาษณ์ทราบว่าเคยอยากเรียนระบาดวิทยาและเข้าใจchronic disease ดี จากการสัมภาษณ์นักวิชาการน่าจะรับนักวิชาการ2คน นักวิชาการที่สมัครบางคนทำวิจัยเก่ง แต่บางคนคิดเชิงระบบเก่ง
3 ทีม โรคติดต่อนำโดยแมลง นพ. จีรพํฒน์ ……… นำเสนอว่ามีผู้สมัคร 18คน มาสัมภาษณ์ 14 คนโดยตั้งอยู่ในสมมุติฐานว่าหน่วยงานสนับสนุนและส่วนใหญ่เคยสัมผัสงานมาแล้ว จะใช้วิธีดูความตั้งใจและวิธีresponse กับปัญหา คะแนนประมาณ 50-70กว่าจาก100 การตัดสินจะขึ้นกับผลการตอบคำถาม เนื่องจากมีลูกน้องทั้งเก่าและใหม่จึงมอบให้หมอโสภณตรวจให้
4 ทีมเอดส์ นำเสนอโดย…………. มีแพทย์สมัคร 2คนจากสถาบันบำราศนราดูร เป็นสูติแพทย์และแพทย์อายุรกรรม ทั้ง2คนมีหัวข้อที่ชัดเจน และมีข้อดีแต่ละอย่าง กรรมการเลือกพญ.ปิยวรรณ ส่วนนักวิชาการ 3คน มี2 คนที่ทำlab อีก 1คนเป็นพยาบาลทำเรื่องcost กรรมการเลือกคุณพนมพรที่จะมาทำเรื่องcost effective
5 โรคติดต่อทั่วไปและEID……………
ท่านประธานให้ความเห็นว่า จากการอ่านบันทึกการประชุมครั้งแรกคิดว่าคณะทำงานจะปั้นTalent นักระบาด แต่เริ่มต้นเราคิดมากกว่าเรื่องระบาดวิทยา กระบวนการสร้างTM ไม่ใช่มาสรรหาแบบนี้อย่างเดียว ต้องดู CSF โดยดูความสนใจ ตั้งใจ และมีแผนเตรียมจากกรมซึ่งกรมมีส่วนร่วมโดยมีผู้ทรงมาร่วมเป็นกรรมการและพี่เลี้ยง ต้นสังกัดต้องดูแลอย่างไร การไปต่างประเทศต้องเตรียมการเขียนขอในแผนปี 54 เราต้องให้ชัดเจนว่าโครงการนี้ต่างจากFETPอย่างไร
นพ.โสภณ นำเสนอว่าแนวคิดในการพัฒนาเราต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคโดยเริ่ท5สาขา แต่จะไม่ใช่เป็นนักระบาดเพราะจะมีการพัฒนาทางleadership System thinking communication
พญ . ฉายศรีให้ความเห็นว่า………ควรแยกNCD ออกจาก EN OCT เพราะไม่เหมือนกัน……
พญ.อัจฉรา ชี้แจงว่าเพราะขาดพี่เลี้ยง NCD แต่สามารถแยกได้ถ้ากรรมการเห็นชอบ
ท่านประธานให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า น่าจะยืดหยุ่นได้ตามความสนใจของผู้สมัคร กลุ่มที่ไม่ถูกคัดจะทำกิจกรรมเครือข่าย พัฒนาเป้นแม่ทัพโดยมีภารกิจอื่นๆนอกจากระบาด ให้สำนักใส่ใจและติดตามสนับสนุนเรื่องงบประมาณ การพัฒนาสถาบันราชประชาอาจจะเป้นบำราศ2 เพื่อตอบสนองภารกิจกรม
นพ.โสภณ เพิ่มเติมว่าการทำข้ามหน่วยงานทำให้เพิ่มโอกาสของการเรียนต่อเพราะบางครั้งเรามีทุนมากแต่ไม่มีผู้เรียน
ประธานแนะนำให้มีDraft ของหลักสูตร คนที่ถูกเลือกจะได้มีกำลังใจ
พญ.นาฏพธุเพิ่มเติมว่าสบร.มีแพทยืหลายคนที่เก่งแต่ไม่รู้จักoperational research เราอาจจะพัฒนาได้อีกมาก
คุณวันทนีย์ นำเสนอแผนการดำเนินการอย่างคร่าวๆโดยงบที่จะทำโครงการตั้งไว้ประมาณ 1.5ล้านบาทโดยการทำงานมีส่วนร่วม3ส่วนคือTM กองการเจ้าหน้าที และสำนักระบาด
มติที่ประชุม
1 คณะกรรมการคัดเลือกแต่ละทีมจะแจ้งรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกที่กองการเจ้าหน้าที่ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 และจะแจ้งผู้ได้รับการคัดเลือกทางE –mail ในวันที่17 พย.52
2 จำนวนผู้รับการคัดเลือกอาจเพิ่มนักวิชาการบางสาขา ขึ้นกับแต่ละทีมงาน
3 แยกสาขา NCD ออกจาก EN-OCT
4 การประชุมรวมทีมพี่เลี้ยงและน้องเลี้ยงคง เป็นในวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2552เหมือนเดิม
5 จะมีการประชุมติดตามใน วันที่ 23-24 เดือนธันวาคม 2552
ปิดประชุม เวลา 11.55 น.
ความเห็น (4)
สวัสดีค่ะ
ตามมาจากบ้านครุเตือนค่ะ
มาทักทายค่ะ
ขอบคุณ คุณณัฐรดาที่มาเยี่ยมค่ะ หมอสรุปจากเทปเพราะเข้าร่วมประชุมในช่วงใกล้ปิดการประชุมเนื่องจากมีภารกิจเร่งด่วนค่ะ
สวัสดีครับคุณ หมอ ตอนนี้สมาคมลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุขเกิดแล้วครับที่นี้ครับ
ขอบคุณ คุณวอญ่าที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ