ชีวิตที่พอเพียง : ๘๘๑. ชีวิตที่ถูกหลอก

          เมื่อวันที่ ๒๗ ต.ค. ๕๒ ผมเหตุการณ์ “ถูกหลอก” ถึง ๒ เหตุการณ์พร้อมๆ กัน   เหตุการณ์แรกคือ มีมิจฉาชีพส่ง อี-เมล์ มาล้วงตับ    ดังได้เล่าไว้แล้วในบันทึกเมื่อวันที่ ๒๘ ต.ค. ๕๒ เพื่อเตือนผู้คนไม่ให้หลงกล

          เหตุการณ์ที่ ๒ เป็นการหลอกลวงคนทั้งโลก เพื่อการครองอำนาจเหนือโดยคนขาว หรือตะวันตก   ผมได้จากการไปฟัง รศ. ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ นำเสนอสาระในหนังสือเล่มใหม่ที่ท่านกำลังเขียน ชื่อ “ตะวันออก – ตะวันตก”   ในการประชุม “ปฏิรูปประเทศไทย” ครั้งที่ ๒๑ จัดโดย สสส.  มี ศ. นพ. ประเวศ วะสี นั่งหัวโต๊ะ

          สาระสำคัญที่ ดร. เอนกค้นคว้ามาบอกคือ “กระบวนทัศน์ ตะวันตกเหนือกว่าตะวันออก” นั้น เป็นมายา   เป็นการสร้างภาพด้วยเหตุการณ์ข้อเท็จจริงบางส่วน บางช่วง

          พลเอกเอกชัย ศรีวิลาส บอกว่า ภาพผู้ร้ายของอิหร่าน ก็เป็นมายา    ในความเป็นจริงคนอิหร่าน สังคมอิหร่าน ไม่ได้เป็นอย่างที่สื่อมวลชนและนักการเมืองตะวันตกประโคม   ท่านไปดูมาแล้วกับคณะหลายคน ทุกคนเห็นตรงกัน    อ่านบันทึกเรื่องอิหร่านได้ที่นี่ 

 

          ทำให้ผมนึกกลับไปที่เหตุการณ์สมัยผมเป็นเด็ก   ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อให้เห็นว่าคอมมิวนิสต์เป็นยักษ์มาร

          และยังทำให้คิดต่อ ว่าที่จริงคนเราอยู่ในสภาพ “ถูกหลอก” ทั้งสิ้น   ไม่มีใครหลอกเรา เราก็หลอกตัวเอง    คนอื่นหลอกเราด้วยข่าวสารโฆษณาชวนเชื่อ สร้างมายาขึ้นมากระตุ้นกิเลสตัณหาของเรา   เราหลอกตัวเองด้วยกิเลสตัณหาภายในตัว    เป็นการสร้างมายาขึ้นครอบงำตนเองด้วยอวิชชา

          ในการประชุมเดียวกัน ศ. (พิเศษ) ไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ บอกว่า แม้สังคมไทยจะกำลังอยู่ในหน้าสิ่วหน้าขวาน ด้วยการเผชิญวิกฤตทั้งเศรษฐกิจและการเมือง   แต่การค้าปลีกของเราเข้มแข็งมาก   สะท้อนภาพความเข้มแข็งของสังคมไทยฐานราก   เราถูกครอบงำว่าเวลานี้เศรษฐกิจไม่ดี   แต่ อ. ไกรฤทธิ์ ได้ข้อมูลมาว่าเศรษฐกิจค้าปลีกดี

          ผมมีโอกาสไปเยี่ยมกิจกรรมรวมกลุ่มกันเรียนรู้ ของชาวบ้านในชนบทเป็นระยะๆ   ได้เห็นการก่อตัวสร้างความเข้มแข็งของชุมชนมากมายในสังคมไทย    ในท่ามกลางสภาพวิกฤตเศรษฐกิจการเมืองภาพใหญ่ของประเทศ เรามีสิ่งดีๆ ผุดบังเกิดขึ้นมากมาย ในชุมชนที่เป็นหน่วยย่อยเล็กๆ    เมื่อวันที่ ๒๖ ต.ค. ก็ไปเห็นที่นครสวรรค์  

          เรามีชีวิตแบบที่มองสิ่งต่างๆ ผ่านแว่นมายา ที่คนอื่นเอามาสวมให้ และที่ตัวเองสวมให้ตนเอง    ทำให้เห็นภาพบิดเบี้ยวไปตามมายา    ทั้งที่เป็นมายาที่ก่อขึ้นจากภายนอก   และที่ก่อขึ้นเองภายในจิตใจของเรา

          เราจึงต้องการเครื่องมือช่วยให้เราเห็นสิ่งต่างๆ ผ่านแว่นปัญญา   เห็นสิ่งต่างๆ ในหลายมิติ เห็นแจ้งแทงทะลุ เห็นเชื่อมโยงเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมด เห็นภาพเคลื่อนไหวเป็นพลวัต เห็นความเป็นเหตุเป็นผล (เหตุปัจจัย) ซึ่งกันและกัน

 

 

 

วิจารณ์ พานิช
๒๘ ต.ค. ๕๒
       
         
         
             

[ครูตา ลป.]

กราบเรียนอาจารย์หมอค่ะ 

•  อย่างนี้กระมั้งค่ะ  เราจึงต้องส่งเสริมกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งต้องมีข้อมูลจากหลายแหล่ง   และมีปัญญาเป็นเครื่องกำกับ 
• กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ

[โหน่ง สคส.]

กราบเรียนอาจารย์วิจารณ์

   อาการถูกหลอกด้วยสื่อนี้  ดูจะเป็นกันมานานและก็ไม่ใคร่ได้รับการเอาใจใส่แก้ไข จริงจัง  ที่เห็นได้ง่ายในปัจจุบันเช่น  การโฆษณาชวนเชื่อโฆษณาเกินจริงที่มีอยู่มากมาย  สำหรับข่าวสารเราก็ไม่มีสำนักข่าวในต่างประเทศอย่าง CNBC CNN ฯ  ถูกหรือผิดก็ต้องตามนักข่าวต่างประเทศให้ข่าวมา

  ต้องใช้วิจารณญาณอย่างมาก  ในการตัดสินว่าจะเชื่อข่าว เชื่อสื่อโฆษณา ดีหรือไม่  และน่าจะเป็นผลเสียกับเด็กไทยในอนาคตด้วยครับ

[Ka-Poom]

เชื่อในศรัทธาที่ว่า "พึงมีเครื่องมือนำพา"...เราออกจากมายานั้นค่ะ

เครื่องมือที่ว่านี้ ได้มีผู้มอบให้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเป็นผู้ตัดสินใจนำเครื่องมือนั้นมาใช้หรือไม่เท่านั้นเอง...

เครื่องมือนี้ได้มีผู้ทดลอง ทดสอบใช้...และมีการบอกต่อมากว่าสองพันห้าร้อยห้าสิบสองปีแล้ว และผู้ที่ได้ทดลองทดสอบ แลฝึกฝนตนในการใช้...ต่างได้มีการบอกกล่าวผ่องถ่ายกันต่อต่อมา คนที่รู้ซึ้ง คือ บุคคลที่ได้ตัดสินใจนำตนเองเข้าไปใช้เครื่องมือนั้นด้วยตนเอง แต่คนที่ได้ แต่ดู แต่ฟัง แต่อ่าน แต่ไม่ลงมือใช้เครื่องมือนั้น ก็จะยังไม่ซึ้งจะยังคงติดอยู่ใน "ภาพมายา" ที่หลอกตนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันค่ะ...

ขอบพระคุณค่ะ...

(^___^)

กะปุ๋ม

[Archanwell]

ถูกหลอกบ่อยๆ เหมือนกันค่ะ