เบาหวานป้องกันได้เท่าไร

การศึกษาใหม่พบว่า การสนับสนุนให้กลุ่มเสี่ยงเบาหวาน (ยังไม่เป็น แต่ใกล้เป็น) ควบคุมอาหาร และออกแรง-ออกกำลังช่วยป้องกันโรคได้มากจนถึง 60% [ Reuters ]

ผู้ใหญ่สหรัฐฯ 11% หรือประมาณ 24 ล้านคนเป็นเบาหวาน

...

เกือบทั้งหมดเป็นเบาหวานชนิดที่สอง หรือไม่ได้เป็นตั้งแต่เด็กเล็ก ทว่า... เป็นเบาหวานที่พบบ่อยในเด็กหรือผู้ใหญ่ที่อ้วน, กินอาหารกลุ่มให้กำลังงาน (โปรตีน แป้ง น้ำตาล ไขมัน) มากเกิน, หรือออกแรง-ออกกำลังน้อยเกิน

การศึกษานาน 10 ปี ทำในผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน และน้ำตาลในเลือดเพ่มขึ้นพบว่า คนที่ลดน้ำหนักได้ (ส่วนใหญ่หมายถึง 5% ของน้ำหนักแรกเริ่ม หรือมากกว่านั้น เช่น หนัก 80 กิโลกรัม ลดได้ 4 กก. ฯลฯ) ลดเสี่ยงเบาหวานลงอย่างน้อย 1/3

...

ผู้ใหญ่ที่มีอายุเกิน 60 ปีที่ลดน้ำหนักได้ ลดเสี่ยงเบาหวานลงประมาณ 1/2

อ.ดร.วิลเลียม โนวเลอร์ และคณะ จากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน และมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น (แต่ยังไม่ถึงกับเป็นเบาหวานเต็มตัว) 3,234 คน

...

ผลการศึกษาพบว่า การควบคุมอาหาร (ลดไขมัน แป้ง น้ำตาล และไม่กินโปรตีนมากเกินไป) ร่วมกับการออกแรง-ออกกำลังอย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ ลดโอกาสเป็นเบาหวานได้ 58%

กลุ่มที่ลดน้ำหนักได้ 6.8 กก.ในปีแรก มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นทีละน้อยจนถึง 2.3 กก. แต่ไม่อ้วนเท่าเดิม ลดเสี่ยงเบาหวานได้ 34% ใน 10 ปี 

...

อีกกลุ่มหนึ่งได้รับยาต้านเบาหวานที่ชื่อ "เมทฟอร์มิน (metformin)" ลดเสี่ยงเบาหวานได้ 31% ภายใน 3 ปี

กลุ่มที่ได้รับยาเมทฟอร์มินก่อน ต่อมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยควบคุมอาหาร ออกแรง-ออกกำลังลดเสี่ยงเบาหวานได้อีก 18%

...

คนที่อายุยืนมากพอ... 1/2 จะมีโอกาสเป็นโรคความดันเลือดสูง, และ 1/3 จะมีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน, การควบคุมอาหาร ระวังอย่าให้อ้วน หรือลดน้ำหนักถ้าอ้วน และออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำช่วยลดเสี่ยงเบาหวานได้

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

...

 ติดตามบล็อกของเราได้ทางทวิตเตอร์ > [ Twitter ]

ที่มา                                                         

• Thank Reuters > Diabetes can be delayed with diet, exercise. October 28, 2009. / Source > Lancet.
• นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า > 29 ตุลาคม 2552.
• ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.