หน้าแรก
สมาชิก
Venus Seesuk
สมุด
การจัดการเรื่องสถ...
การแจ้งตาย
Venus Seesuk
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การแจ้งตาย
การจดทะเบียนการตาย
การจดทะเบียนการตาย
หลักการทั่วไป
ทะเบียนคนตายเป็นทะเบียนราษฎรอีกประเภทหนึ่งที่นายทะเบียนสามารถรับแจ้งและออกหลักฐานการตายให้กับทุกคนที่เกิดเหตุเสียชีวิตในดินแดนของประเทศไทย โดยหลักการทั่วไปจะไม่แตกต่างกับการจดทะเบียนการเกิด กล่าวคือพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้กำหนดในเรื่องการจดทะเบียนการตายโดยเมื่อมีคนตายไม่ว่าจะตายในสถานพยาบาล ตายในบ้าน ตายนอกบ้าน ตายโดยมีสาเหตุ หรือตายผิดธรรมชาติ ไม่ว่าคนตายจะมีชื่อในเอกสารการทะเบียนราษฎรหรือไม่ คนตายเป็นคนสัญชาติไทยหรือคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยในสถานะใดก็ตาม ผู้มีหน้าที่แจ้งการตาย คือ เจ้าบ้าน บุคคลที่ไปกับผู้ตาย หรือผู้พบศพ หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าวจะต้องแจ้งการตายต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่มีคนตายหรือที่พบศพภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยถ้าคนตายเสียชีวิตในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลไม่ว่าของรัฐหรือเอกชน ผู้รักษาก่อนตายจะต้องออกหนังสือรับรองการตายตามแบบ ท.ร.๔/๑ ให้เป็นหลักฐานสำหรับนำไปแจ้งการตายและขอมรณบัตร แต่ถ้าการเสียชีวิตเกิดจากเหตุผิดธรรมชาติหรือเกิดจากโรคติดต่ออันตราย การออกมรณบัตรจะต้องรอให้เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายได้ชันสูตรและมีความเห็นก่อน นายทะเบียนจึงจะสามารถออกมรณบัตรให้ได้
การแจ้งการตายแบ่งออกเป็น
๑. การแจ้งคนตายในบ้านหรือตายนอกบ้าน
๒. การแจ้งการตายต่างสำนักทะเบียน
๓. การแจ้งการตายเกินกำหนด
๔. การแจ้งการตายกรณีตายผิดธรรมชาติ
ก. การแจ้งการตายของคนสัญชาติไทย
๑. การแจ้งคนตายในบ้านหรือตายนอกบ้าน
กฎหมาย
พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
มาตรา ๒๑ เมื่อมีคนตายให้แจ้งการตายดังต่อไปนี้
(๑) คนตายในบ้าน ให้เจ้าบ้านแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีคนตายภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาตาย ในกรณีไม่มีเจ้าบ้าน ให้ผู้พบศพแจ้งภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาพบศพ
(๒) คนตายนอกบ้าน ให้บุคคลที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีการตายหรือพบศพ แล้วแต่กรณี หรือแห่งท้องที่ที่จะพึงแจ้งได้ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาตายหรือเวลาพบศพ ในกรณีเช่นนี้จะแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจก็ได้
มาตรา ๒๓ เมื่อมีคนเกิดหรือคนตาย ผู้ทำคลอดหรือผู้รักษาพยาบาลต้องออกหนังสือรับรองการเกิดหรือการตายตามแบบพิมพ์ที่ผู้อำนวยการทะเบียนกลางกำหนดให้แก่ผู้มีหน้าที่ต้องแจ้งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๑
ขั้นตอนการปฏิบัติ
๐ ผู้มีหน้าที่แจ้งการตาย ได้แก่
(๑) เจ้าบ้านที่มีคนตาย กรณีคนตายในบ้าน (รวมถึงสถานพยาบาล) หากไม่มีเจ้าบ้านให้ผู้พบศพเป็น ผู้แจ้ง
(๒) บุคคลที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพ กรณีคนตายนอกบ้าน
๐ ระยะเวลาแจ้งการตาย
(๑) คนตายในบ้าน ต้องแจ้งภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตาย หรือเวลาพบศพแล้วแต่กรณี
(๒) คนตายนอกบ้าน ต้องแจ้งภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตายหรือเวลาพบศพ เว้นแต่กรณีท้องที่ ที่การคมนาคมไม่สะดวก ผู้อำนวยการทะเบียนกลางสามารถขยายเวลาการแจ้งตายได้แต่ต้องไม่เกิน ๗ วัน นับแต่เวลาตายหรือพบศพ
๐ สำนักทะเบียนที่แจ้งการตาย
(๑) สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่มีคนตายหรือพบศพ
(๒) ถ้าไม่ทราบท้องที่ที่ตายหรือมีเหตุจำเป็นไม่อาจแจ้งในท้องที่ที่ตายได้ (กรณีคนตายนอกบ้าน) ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่พบศพหรือที่พึงจะแจ้งได้ แล้วแต่กรณี
ขั้นตอนการแจ้ง
๐ กรณีคนในท้องที่สำนักทะเบียนตายในบ้านหรือตายนอกบ้าน
๑. ผู้แจ้งแสดงหลักฐานต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง ได้แก่
(๑) บัตรประจำตัวผู้แจ้ง
(๒) บัตรประจำตัวของคนตาย (ถ้ามี)
(๓) หนังสือรับรองการตายตามแบบ ท.ร.๔/๑ (กรณีคนตายในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล)
(๔) ใบรับแจ้งการตายตามแบบ ท.ร.๔ ตอนหน้า (กรณีแจ้งต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน)
(๕) รายงานการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานนิติเวช (กรณีตายผิดธรรมชาติ หรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ)
(๖) สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่คนตายมีชื่อและรายการบุคคล (ถ้ามี)
๒. นายทะเบียน
(๑) ตรวจสอบหลักฐานของผู้แจ้ง
(๒) สอบถามผู้แจ้งเกี่ยวกับการจัดการศพว่า จะเก็บ ฝัง เผาหรือทำลาย และสถานที่จัดการศพเพื่อลงรายการในใบรับแจ้งการตายหรือมรณบัตร
(๓) ออกมรณบัตร (ท.ร.๔)
(๔) จำหน่ายรายการคนตายในทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านโดยประทับคำว่า “ตาย” สีแดงไว้หน้ารายการคนตาย
(๕) มอบมรณบัตร ตอนที่ ๑ และหลักฐานประกอบการแจ้งคืนให้ผู้แจ้ง
๐ กรณีคนต่างท้องที่สำนักทะเบียนตายในบ้านหรือตายนอกบ้าน
๑. ผู้แจ้งแสดงหลักฐานต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง ได้แก่
(๑) บัตรประจำตัวผู้แจ้ง
(๒) บัตรประจำตัวของคนตาย (ถ้ามี)
(๓) สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อคนตาย (ถ้ามี)
(๔) หนังสือรับรองการตายตามแบบ ท.ร.๔/๑ (กรณีคนตายในสถานพยาบาล)
(๕) ใบรับแจ้งการตายตามแบบ ท.ร.๔ ตอนหน้า (กรณีแจ้งต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน)
(๖) รายงานการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานนิติเวช (กรณีตายผิดธรรมชาติ หรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ)
๒. นายทะเบียน
(๑) ตรวจสอบหลักฐานของผู้แจ้ง
(๒) ตรวจสอบรายการบุคคลของคนตายในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร
(๓) ดำเนินการเช่นเดียวกับกรณีคนในท้องที่ตาย แต่ให้ระบุในมรณบัตรด้านบนซ้ายมือว่า “คนต่างท้องที่”
(๔) ส่งมรณบัตร ตอนที่ ๒ ไปยังสำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่คนตายมีชื่อในทะเบียนบ้าน
๓. สำนักทะเบียนที่คนตายมีชื่อในทะเบียนบ้าน
(๑) กรณีเจ้าบ้านนำมรณบัตร ตอนที่ ๑ และสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านมายื่นเรื่องขอจำหน่ายรายการคนตายในทะเบียนบ้าน ให้นายทะเบียนตรวจสอบรายการคนตายในมรณบัตร สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านและฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร หากถูกต้องตรงกันให้จำหน่ายรายการคนตายตามคำร้อง
(๒) กรณีได้รับมรณบัตร ตอนที่ ๒ จากสำนักทะเบียนต้นทาง ให้นายทะเบียนตรวจสอบรายการ คนตายในมรณบัตร และฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎรหากถูกต้องตรงกัน ให้จำหน่ายรายการคนตายในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร แล้วแจ้งเจ้าบ้านให้นำสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านมาดำเนินการปรับปรุงรายการให้ถูกต้อง
(๓) กรณีคนตายมีชื่อและรายการบุคคลในทะเบียนบ้านกลาง ให้จำหน่ายรายการคนตายในทะเบียนบ้านกลาง
๐ กรณีได้รับแจ้งการตายโดยไม่ทราบว่าคนตายเป็นใคร
๑. ผู้แจ้งแสดงหลักฐานต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง ได้แก่
(๑) บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง
(๒) เอกสารที่เกี่ยวข้องกับคนตาย (ถ้ามี)
๒. นายทะเบียน
(๑) สอบสวนผู้แจ้งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีการตายและสถานที่เกิดเหตุ ลักษณะทางกายภาพของ คนตาย ความสัมพันธ์ระหว่างผู้แจ้งกับคนตาย
(๒) สอบถามผู้แจ้งเกี่ยวกับการจัดการศพว่า จะเก็บ ฝัง เผาหรือทำลาย และสถานที่จัดการศพเพื่อลงรายการในใบรับแจ้งการตาย
(๓) ออกใบรับแจ้งการตายตามแบบ ท.ร.๔ ตอนหน้า ให้ผู้แจ้งโดยรอการออกมรณบัตรไว้จนกว่าจะทราบว่าคนตายเป็นใคร จึงจะออกมรณบัตรให้
๐ กรณีได้รับแจ้งโดยมีเหตุเชื่อได้ว่ามีการตายแต่ไม่พบศพ
๑. ผู้แจ้งแสดงหลักฐานต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง ได้แก่
(๑) บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง
(๒) สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อคนตาย (ถ้ามี)
(๓) หลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคนตาย (ถ้ามี)
๒. นายทะเบียน
(๑) สอบสวนผู้แจ้งให้ทราบถึงมูลเหตุที่ทำให้เชื่อว่ามีการตายของบุคคล และ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้แจ้งกับคนตาย
(๒) ออกใบรับแจ้งการตายตามแบบ ท.ร.๔ ตอนหน้า ให้ผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐาน
(๓) กรณีบุคคลที่เชื่อว่าตายมีชื่อในทะเบียนบ้านของสำนักทะเบียน ให้จำหน่ายรายการในทะเบียนบ้านและฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎรตามแบบ ท.ร.๙๗ โดยหมายเหตุด้วยข้อความว่า “รับแจ้งการตายไว้แต่ยังไม่พบศพ”
(๔) กรณีคนตายมีชื่อในทะเบียนบ้านของสำนักทะเบียนอื่น ให้นายทะเบียนแจ้งเป็นหนังสือไปยังสำนักทะเบียนนั้นเพื่อดำเนินการจำหน่ายรายการบุคคลเช่นเดียวกัน
๒. การแจ้งการตายของคนที่ตายในท้องที่สำนักทะเบียนอื่น
กฎหมาย
พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
มาตรา ๒๑ เมื่อมีคนตายให้แจ้งการตายดังต่อไปนี้
(๑) คนตายในบ้าน ให้เจ้าบ้านแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีคนตาย...
(๒) คนตายนอกบ้าน ให้บุคคลที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีการตายหรือพบศพ...
มาตรา ๒๑ วรรคสี่ ให้นำความในวรรคสามของมาตรา ๑๘ มาใช้บังคับกับการแจ้งตามวรรคหนึ่งด้วยโดยอนุโลม
(ความตามมาตรา ๑๘ วรรคสาม “ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน การแจ้งตามวรรคหนึ่งจะแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่อื่นก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง”)
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งการเกิดหรือการตายต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่อื่น พ.ศ. ๒๕๕๑
ข้อ ๒ ในกรณีผู้มีหน้าที่แจ้งการตายตามมาตรา ๒๑ (๑) หรือ (๒) ยังมิได้แจ้ง การตาย แต่มีการย้ายศพไปอยู่ต่างท้องที่สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่มีการตายหรือพบศพ เจ้าบ้านของบ้านที่มีการตาย บุคคลที่ไปกับผู้ตายขณะตาย ผู้พบศพ หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี จะแจ้งการตายต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง ณ สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่ศพอยู่ หรือท้องที่ที่มีการจัดการศพโดยการเผา ฝัง หรือทำลายก็ได้
การแจ้งการตายตามวรรคหนึ่ง ผู้แจ้งต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือรับรองการตายของผู้ตายซึ่งออกให้โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่บุคคลนั้นตาย และพยานบุคคลไม่น้อยกว่าสองคนซึ่งสามารถยืนยันตัวบุคคลของผู้ตายได้
ในกรณีไม่มีหนังสือรับรองการตาย ผู้แจ้งการตายอาจใช้ผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์ เช่น การตรวจสารพันธุกรรม ที่ตรวจพิสูจน์จากหน่วยงานของรัฐหรือสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือใช้เป็นหลักฐานประกอบ การแจ้งแทนได้
ขั้นตอนการปฏิบัติ
๐ ผู้มีหน้าที่แจ้งการตาย ได้แก่ เจ้าบ้านของบ้านที่มีการตาย บุคคลที่ไปกับผู้ตายขณะตาย ผู้พบศพ หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าว
๐ ระยะเวลาแจ้งการตาย
(๑) คนตายในบ้าน ต้องแจ้งภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตาย หรือเวลาพบศพแล้วแต่กรณี
(๒) คนตายนอกบ้าน ต้องแจ้งภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตายหรือเวลาพบศพ เว้นแต่กรณีท้องที่ ที่การคมนาคมไม่สะดวก ผู้อำนวยการทะเบียนกลางสามารถขยายเวลาการแจ้งตายได้แต่ต้องไม่เกิน ๗ วัน นับแต่เวลาตายหรือพบศพ
๐ สำนักทะเบียนที่แจ้งการตาย ได้แก่ สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นแห่งที่ศพอยู่หรือที่มีการจัดการศพโดยการเก็บ ฝัง เผา หรือทำลาย
ขั้นตอนการแจ้ง
๑. ผู้แจ้งแสดงหลักฐานต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง ได้แก่
(๑) บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง
(๒) บัตรประจำตัวของคนตาย (ถ้ามี)
(๓) สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่มีชื่อคนตาย (ถ้ามี)
(๔) หนังสือรับรองการตายตามแบบ ท.ร.๔/๑ ของโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่คนตายเข้ารับการรักษาก่อนตาย หรือผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ที่สามารถบ่งบอกตัวบุคคลของคนตาย อย่างใดอย่างหนึ่ง
(๕) พยานหลักฐานอื่น (ถ้ามี) เช่น รูปถ่ายงานศพของคนตาย เป็นต้น
(๖) พยานบุคคลที่น่าเชื่อถือซึ่งสามารถให้การรับรองตัวคนตายได้ จำนวน ๒ คน
๒. นายทะเบียน
(๑) ตรวจสอบความถูกต้องหลักฐานของผู้แจ้ง
(๒) ตรวจสอบรายการบุคคลของคนตายในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
(๓) เปรียบเทียบปรับ (กรณีการแจ้งการตายภายใน ๑ ปีนับแต่วันถัดจากวันที่ตาย)
(๔) สอบสวนผู้แจ้งให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุการตาย สาเหตุที่ไม่แจ้งการตายที่สำนักทะเบียนท้องที่ที่มีการตายหรือพบศพ ประวัติและภูมิลำเนาของคนตาย ความสัมพันธ์ระหว่างผู้แจ้งกับคนตาย การจัดการศพ และสถานที่จัดการศพ
(๕) สอบสวนพยานบุคคลให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติและภูมิลำเนาของคนตาย รวมถึงบิดามารดาของคนตาย
(๖) ออกมรณบัตร ท.ร.๔ ตามหลักฐานของผู้แจ้งและผลการสอบสวนของนายทะเบียน
(๗) ถ้าคนตายมีชื่อในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนบ้านกลางของสำนักทะเบียนที่แจ้งการตาย ให้ นายทะเบียนจำหน่ายรายการบุคคลของคนตายในทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านและฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร แต่ถ้าคนตายมีชื่อในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนบ้านกลางของสำนักทะเบียนอื่น ให้นายทะเบียนส่งมรณบัตร ตอนที่ ๒ ไปยังสำนักทะเบียนที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจำหน่ายรายการบุคคล
(๘) มอบมรณบัตร ตอนที่ ๑ และหลักฐานประกอบการแจ้งคืนให้ผู้แจ้ง
(๙) เก็บค่าธรรมเนียมฉบับละ ๒๐ บาท
๓. การแจ้งการตายเกินกำหนด
การแจ้งการตายเกินกำหนด หมายถึง การที่ผู้มีหน้าที่แจ้งการตายได้แจ้งการตายหรือการพบศพต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เช่น กรณีคนตายในสถานพยาบาล ญาติผู้ตายได้รับหนังสือรับรองการตายจากสถานพยาบาลแล้วไม่ได้แจ้งการตายต่อนายทะเบียนภายในเวลา ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตาย ต่อมาภายหลังจัดการศพแล้วจึงไปแจ้งการตายต่อนายทะเบียน ถือเป็นการแจ้งการตายเกินกำหนด
ขั้นตอนการปฏิบัติ
๐ ผู้มีหน้าที่แจ้งการตาย ได้แก่
(๑) เจ้าบ้านของบ้านที่มีคนตาย กรณีคนตายในบ้าน (รวมถึงสถานพยาบาล) หากไม่มีเจ้าบ้านให้ ผู้พบศพเป็นผู้แจ้ง
(๒) บุคคลที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพ กรณีคนตายนอกบ้าน
(๓) ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากบุคคลตาม (๑) หรือ (๒)
๐ ระยะเวลาแจ้งการตาย
ถ้าแจ้งการตายภายในระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันถัดจากวันที่ตายหรือพบศพ เป็นเวลาที่ยังอยู่ในช่วงอายุความ ผู้แจ้งจะต้องเสียค่าปรับตามมาตรา ๔๗ (๒) แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔
๐ สำนักทะเบียนที่แจ้งการตาย
(๑) สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่มีคนตายหรือพบศพ
(๒) ถ้าไม่ทราบท้องที่ที่ตายหรือมีเหตุจำเป็นไม่อาจแจ้งในท้องที่ที่ตายได้ (กรณีคนตายนอกบ้าน) ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่พบศพหรือที่พึงจะแจ้งได้ แล้วแต่กรณี
(๓) สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นแห่งที่ศพอยู่หรือที่มีการจัดการศพโดยการเก็บ ฝัง เผา หรือทำลาย (กรณีแจ้งการตาย ณ สำนักทะเบียนอื่นที่ไม่ใช่ท้องที่ที่ตายหรือพบศพ)
ขั้นตอนการแจ้ง
๐ กรณีคนตายเป็นคนในท้องที่สำนักทะเบียน
๑. ผู้แจ้งแสดงหลักฐานต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง ได้แก่
(๑) บัตรประจำตัวผู้แจ้ง
(๒) บัตรประจำตัวของคนตาย (ถ้ามี)
(๓) หนังสือรับรองการตายตามแบบ ท.ร.๔/๑ (กรณีคนตายในสถานพยาบาล)
(๔) ผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ของคนตาย (กรณีแจ้งการตายต่างสำนักทะเบียนและไม่มี ท.ร.๔/๑)
(๕) รายงานการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานนิติเวช (กรณีตายผิดธรรมชาติ หรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ)
(๖) สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่คนตายมีชื่อและรายการบุคคล (ถ้ามี)
๒. นายทะเบียน
(๑) ตรวจสอบความถูกต้องหลักฐานของผู้แจ้ง
(๒) เปรียบเทียบปรับ (กรณีการแจ้งการตายภายใน ๑ ปีนับแต่วันถัดจากวันที่ตาย)
(๓) สอบสวนผู้แจ้งให้ทราบถึงสาเหตุที่ไม่แจ้งการตายภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ตายหรือ พบศพ และการจัดการศพว่า จะเก็บ ฝัง เผาหรือทำลาย และสถานที่จัดการศพเพื่อลงรายการในมรณบัตร
(๔) สอบสวนพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือซึ่งรู้เห็นการตาย
(๕) ออกมรณบัตร (ท.ร.๔) โดยระบุข้อความไว้ด้านบนซ้ายมือว่า “เกินกำหนด”
(๖) จำหน่ายรายการคนตายในทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านโดยประทับคำว่า “ตาย” สีแดงไว้หน้ารายการคนตาย
(๗) มอบมรณบัตร ตอนที่ ๑ และหลักฐานประกอบการแจ้งคืนให้ผู้แจ้ง
๐ กรณีคนตายเป็นคนต่างท้องที่สำนักทะเบียน
- ปฏิบัติเช่นเดียวกับการแจ้งการตายของคนในท้องที่ โดยในส่วนของนายทะเบียนให้เพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบรายการบุคคลของคนตายในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรเพื่อตรวจว่าคนตายมีชื่อและรายการบุคคลในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรหรือไม่ ภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ที่ใด
- ส่งมรณบัตรตอนที่ ๒ ไปยังสำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่คนตายมีชื่อในทะเบียนบ้านเพื่อจำหน่ายรายการบุคคล
๔. กรณีคนตายโดยมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะตายด้วยโรคติดต่ออันตรายหรือตายโดยผิดธรรมชาติ (ถูกคนอื่นฆ่า ตายจากอุบัติเหตุ ฆ่าตัวตาย สัตว์ทำร้ายตาย หรือตายไม่ทราบสาเหตุ)
กฎหมาย
พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔
มาตรา ๒๕ ถ้ามีเหตุอันควรสงสัยว่าคนตายด้วยโรคติดต่ออันตรายหรือตายโดยผิดธรรมชาติ ให้ นายทะเบียนผู้รับแจ้งรีบแจ้งต่อเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่ออันตรายหรือพนักงาน ฝ่ายปกครองหรือตำรวจ และให้รอการออกมรณบัตรไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากเจ้าพนักงานดังกล่าว
ขั้นตอนการปฏิบัติ
๐ ผู้มีหน้าที่แจ้งการตาย ได้แก่
(๑) เจ้าบ้านของบ้านที่มีคนตาย กรณีคนตายในบ้าน (รวมถึงสถานพยาบาล) หากไม่มีเจ้าบ้านให้ ผู้พบศพเป็นผู้แจ้ง
(๒) บุคคลที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพ กรณีคนตายนอกบ้าน
(๓) ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากบุคคลตาม (๑) หรือ (๒)
๐ ระยะเวลาแจ้งการตาย
(๑) คนตายในบ้าน ต้องแจ้งภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตาย หรือเวลาพบศพแล้วแต่กรณี
(๒) คนตายนอกบ้าน ต้องแจ้งภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตายหรือเวลาพบศพ เว้นแต่กรณีท้องที่ ที่การคมนาคมไม่สะดวก ผู้อำนวยการทะเบียนกลางสามารถขยายเวลาการแจ้งตายได้แต่ต้องไม่เกิน ๗ วัน นับแต่เวลาตายหรือพบศพ
๐ สำนักทะเบียนที่แจ้งการตาย
(๑) สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นแห่งท้องที่ที่มีคนตายหรือพบศพ
(๒) ถ้าไม่ทราบท้องที่ที่ตายหรือมีเหตุจำเป็นไม่อาจแจ้งในท้องที่ที่ตายได้ (กรณีคนตายนอกบ้าน) ให้แจ้งที่สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่พบศพหรือที่พึงจะแจ้งได้ แล้วแต่กรณี
ขั้นตอนการแจ้ง
๑. ผู้แจ้งแสดงหลักฐานต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง ได้แก่
(๑) บัตรประจำตัวของผู้แจ้ง
(๒) สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อคนตาย (ถ้ามี)
(๓) หลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคนตาย (ถ้ามี)
๒. นายทะเบียน
(๑) สอบสวนผู้แจ้งให้ทราบถึงมูลเหตุที่ทำให้มีการตายของบุคคล ลักษณะทางกายภาพของคนตาย และความสัมพันธ์ระหว่างผู้แจ้งกับคนตาย
(๒) สอบถามผู้แจ้งเกี่ยวกับการจัดการศพว่า จะเก็บ ฝัง เผาหรือทำลาย และสถานที่จัดการศพเพื่อลงรายการในใบรับแจ้งการตาย
(๓) ออกใบรับแจ้งการตายตามแบบ ท.ร.๔ ตอนหน้า ให้ผู้แจ้งไว้เป็นหลักฐาน
(๔) ทำหนังสือแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่ออันตราย หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
(๕) เมื่อได้รับแจ้งผลการพิจารณาหรือผลการชันสูตรศพจากเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องแล้ว จึงออกมรณบัตรให้ผู้แจ้ง
(๖) จำหน่ายรายการคนตายในสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านและฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร
ข. การรับแจ้งการตายของคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
กฎหมาย
พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔
มาตรา ๒๑ เมื่อมีคนตายให้แจ้งการตายดังต่อไปนี้
(๑) คนตายในบ้าน ให้เจ้าบ้านแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีคนตายภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาตาย ในกรณีไม่มีเจ้าบ้าน ให้ผู้พบศพแจ้งภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาพบศพ
(๒) คนตายนอกบ้าน ให้บุคคลที่ไปกับผู้ตายหรือผู้พบศพแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีการตายหรือพบศพ แล้วแต่กรณี หรือแห่งท้องที่ที่จะพึงแจ้งได้ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาตายหรือเวลาพบศพ ในกรณีเช่นนี้จะแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจก็ได้ฯลฯ
มาตรา ๒๓ เมื่อมีคนเกิดหรือคนตาย ผู้ทำคลอดหรือผู้รักษาพยาบาลต้องออกหนังสือรับรองการเกิดหรือการตายตามแบบพิมพ์ที่ผู้อำนวยการทะเบียนกลางกำหนดให้แก่ผู้มีหน้าที่ต้องแจ้งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๑
กฎกระทรวงกำหนดให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎรและกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. ๒๕๕๑
ข้อ ๓ เมื่อมีคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยเกิดหรือตาย ให้บุคคลตามมาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ มาตรา ๑๙/๑ หรือมาตรา ๒๑ แจ้งการเกิดหรือการตาย แล้วแต่กรณี
ขั้นตอนการปฏิบัติ
การรับแจ้งการตายของคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยจะปฏิบัติเช่นเดียวกับคนสัญชาติไทย ส่วนแบบพิมพ์มรณบัตรที่นายทะเบียนออกให้แบ่งตามประเภทของบุคคลแต่ละกลุ่ม ดังนี้
๑. ถ้าเป็นคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และคนต่างด้าวที่มีชื่อในทะเบียนบ้าน ท.ร.๑๓ จะออกมรณบัตรตามแบบ ท.ร.๕
๒. ถ้าเป็นคนต่างด้าวที่มีชื่อในทะเบียนประวัติ ท.ร.๓๘ เลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข ๐๐ จะออก
มรณบัตรตามแบบ ท.ร.๐๕
๓. ถ้าเป็นคนต่างด้าวที่มีชื่อในทะเบียนประวัติ ท.ร.๓๘ ก เลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข ๐ และคน ต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต จะออกมรณบัตรตามแบบ ท.ร.๐๕๑
ตัวอย่างกรณีศึกษา
กรณีที่ ๑ ผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบในศูนย์อพยพจังหวัดแม่ฮ่องสอนเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุโดยแพทย์ผู้ตรวจลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากโรคหัวใจล้มเหลว กรณีดังกล่าวจะสามารถแจ้งการตายและขอ มรณบัตรได้หรือไม่เพราะผู้อพยพไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร หรือต้องออกเอกสารประเภทใดเพื่อเป็นหลักฐานการตาย
แนวการวินิจฉัย พื้นที่ศูนย์อพยพฯ เป็นดินแดนของประเทศไทย ส่วนผู้อพยพย่อมมีสถานะเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ฉะนั้นเมื่อมีคนต่างด้าวเสียชีวิตในประเทศไทย การแจ้งการตายจึงต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๒๑ ประกอบกับกฎกระทรวงกำหนดให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎรและกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๓ นายทะเบียนผู้รับแจ้งจึงสามารถรับแจ้งการตายและออกมรณบัตรให้แก่ผู้แจ้งการตายได้
สำหรับการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าผู้ตายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่อยู่ในศูนย์อพยพแพทย์ผู้รักษาพยาบาลก่อนตายจะต้องออกหลักฐานหนังสือรับรองการตายตามแบบ ท.ร.๔/๑ จากนั้นผู้อำนวยการโรงพยาบาลหรือหัวหน้าสถานพยาบาลในฐานะเจ้าบ้านหรือผู้พบศพจะต้องเป็นผู้แจ้งการตาย แต่ถ้าการเสียชีวิตไม่ได้เกิดขึ้นในสถานพยาบาลก็ไม่ต้องมีขั้นตอนการออกหนังสือรับรองการตาย ส่วนผู้มีหน้าที่แจ้งการตายได้แก่ผู้พบศพ โดยผู้มีหน้าที่แจ้งสามารถแจ้งการตายกับปลัดอำเภอซึ่งรับผิดชอบศูนย์อพยพในฐานะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอ สำหรับประเด็นที่ว่าผู้ตายไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร ไม่มีเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก มีแต่เลขประจำตัวที่ศูนย์อพยพจัดทำให้นั้น ไม่เป็นอุปสรรคต่อการ แจ้งการตายและการออกมรณบัตร ทั้งนี้เพราะระบบปฏิบัติงานในการรับแจ้งการตายและการออกมรณบัตรสามารถดำเนินการได้โดยการบันทึกรายการลงในมรณบัตรจะบันทึกเฉพาะรายการที่ทราบเท่านั้น สำหรับแบบพิมพ์มรณบัตรที่จะออกให้กับผู้อพยพ ได้แก่ ท.ร.๐๕๑
กรณีที่ ๒ เหตุการเสียชีวิตของชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองในรถบรรทุกปลาที่ถูกดัดแปลงเพื่อการนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จำเป็นต้องใช้หลักฐานการตายเพื่อแจ้งไปยังประเทศต้นทางและการขอรับเงินช่วยเหลือจากองค์กรพัฒนาเอกชนที่เกี่ย
เขียนใน
GotoKnow
โดย
Venus Seesuk
ใน
การจัดการเรื่องสถานะบุคคล
คำสำคัญ (Tags):
#การจดทะเบียนการตาย
#การแจ้งตาย
หมายเลขบันทึก: 308253
เขียนเมื่อ 24 ตุลาคม 2009 15:31 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:44 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
Venus Seesuk
สมุด
การจัดการเรื่องสถ...
การแจ้งตาย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท