ลอยกระทง " ตำนานลอยกระทง"


สันนิษฐาณว่าเป็นเรื่องนี้แน่นอน

           มีเรื่องเล่า คติความเชื่อเกี่ยวกับที่มา ที่ไป เรื่องราว ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมาหลายเรื่อง ที่เล่าต่อ ๆ กัน มาแตกต่างกันออกไป

     เชื่อว่าการลอยกระทงเป็นการบูชา และขอขมาเจ้าแม่คงคา เป็นการสะเดาะเคราะห์ เป็นการการบูชาพระเจ้าในศาสนาพราหมณ์ หรือเป็นการบูชารอยพระพุทธบาท  เป็นต้น

     การลอยกระทงนิยมกัน ในวันเพ็ญดือน 12 ของทุก ๆ ปี อันเป้ฯช่วงที่น้ำในแม่น้ำลำคลองสูงขึ้น และอากาศเริ่มเย็นลง  ตามพระราชนิพนธ์พระราชพิธี 12 เดือน และตำหรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์  พระสนมเอกในพระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย เป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์กระทงสำหรับลอยประทีป เป็นรูปดอกบัวบานขึ้น ซึ่งคนทั่วไปนิยมทำตามสืบต่อมา นอกจากนั้นในศิลาจารึก หลักที่ 1 ยังได้กล่าวถึงการเผาเทียนเล่นไฟ ของกรุงสุโขทัยไว้ด้วยว่า   เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของกรุงสุโขทัย ทำให้ผู้รู้ทั้งหลายสันนิษฐาน ตรงกันว่างานดังกล่าวเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน

 

    ลอยกระทงพิธีหลวงเรียกว่า " พระราชพิธีจองเปรียงลดชุดลอยโคมส่งน้ำ"

    ต่อมาเรียก                        " ลอยพระประทีป"

 

 

      สมัยกรุงศรีอยุทธยา ถึงกรุงรัตนโกสินธิ์ เดิม ทำกันในวันเพ็ญ เดือน 11 และวันเพ็ญดือน 12  ( 2 วัน ) ปัจจุบันทำกันแค่วันเดียวเท่านั้น

 

     สันนิษฐานกันอีกว่า  ลอยกระทง  รับมาจากอินเดีย 

ลัทธิพราหมณ์

       " เชื่อว่าลอยกระทงเพื่อบูชาแม่น้ำคงคา อันศักสิทธิ์  และลอยเพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้า " พระนารายน์" ที่บรรทมสินธ์อยู่กลางเกษียรสมุทร

 

 พุทธศาสนา เชื่อว่า

          ++ บ้างเชื่อว่าการลอยกระทงเป็นการลอยเพื่อต้อนรับ พระพุทธเจ้าในวันเสด็จจากเทวโลก ภายหลังเทศนาโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

          ++ บ้างเชื่อว่าเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ที่บรรจุในพระจุฬามณี พระเจดีย์บนสวรรค์

          ++ บ้างเชื่อว่าเพื่อบูชา พระพุทธบาทที่ทรง ประทับไว้ ณ. หาดทราย ริมฝั่งแม่น้ำนัมมหานที ในแคว้นทักขิณาบท ของประเทศอินเดีย ( ปัจจุบันเรียกแม่น้ำเนรพุทธา)

          ++ บ้างก็เชื่อว่า ลอยกระทงเพื่อขอบพระคุณแม่น้ำคงคา ที่ให้เราได้อาศัยน้ำกินน้ำใช้  และขออภัยพระแม่คงคา ที่ท้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆลงน้ำ

          ++ บ้างเชื่อว่าเป็นการบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวิธีหนึ่งโดยการให้น้ำไหลเป็นพาหนะนำกระทง ไปสักการะพระองค์ท่าน

          ++ บ้างเชื่อว่าเป็นการลอยทุกข์โศกของตัวเองออกไปจากตัวกับสายน้ำที่ไหล  พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอพระกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ตนและครอบครัวได้รับแต่สิ่งที่ดี

          ++บ้างเชื่อว่าเป็นการขอขมาต่อแม่น้ำลำคลองที่มีคุณกับคนสมัยก่อนอย่างเอนกอนันต์  ทั้งเรื่องการใช้ชำระร่างกาย การดื่มกิน การเพาะปลูก การคมนาคม ฯลฯ  จึงได้ทำพิธขอขมาปีละครั้ง

 

  คนสมัยก่อนมีความกตัญญูต่อสรรพสิ่งที่ตนเองต้องพึ่งพา พอมาสมัยนี้ สลับกลับเปลี่ยนเป็นว่า ลอยกระทงเพื่อประกวดนางนพมาศ และ จุดประทัด จุดพลุ เป็นงานรื่นเริงโดยไม่สนใจวัฒนธรรมที่คนสมัยก่อนปลูกฝังมากันเนิ่นนาน......เฮ้อ

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 306075เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2009 11:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 10:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท