“เมื่อรายการเด็กคิดเล็กไม่ได้”
ในวันที่ 10 กันยายน 2552 มีการประชุม TV for kids ที่จัดขึ้นบริเวณ TK park central would สิ่งที่สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากต่อผู้ที่ได้เข้าร่วมการประชุมสิ่งหนึ่งก็คือ การบรรยายเรื่อง “ถอดรหัสจากแผ่นฟิล์ม” การตีความภาพยนต์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดย คุณทิชา ณ นคร หรือ ครูมลจากบ้านกาญจนาภิเษก ครูมลได้ใช้ภาพยนตร์เป็นสื่อในการที่จะสอนให้เด็กรู้จักคิด เข้าใจคนอื่น และรู้จักที่จะคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากผลของการกระทำของตนเอง โดยใช้ภาพยนตร์เป็นสื่อ ท่านจะให้เด็กๆ ที่อยู่ในบ้านกาญจนาได้ดูภาพยนตร์ แล้วตั้งคำถามให้เด็กตอบว่า ตัวละครในเรื่องทำถูกหรือไม่ แล้วเขาสมควรที่จะได้รับผลของการกระทำนั้นหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งมีความสอดคล้องกับหลักของพัฒนาการมนุษย์ เนื่องจากเด็กที่อยู่ในวัยรุ่นนั้นสมองส่วน prefrontal cortex นั้นยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งสมองในส่วนนี้มีหน้าที่หลักในการที่จะแยกแยะถูกผิด การที่จะควบคุมการกระทำของตนเอง และการที่จะทำนายผลของการกระทำ ดังนั้นหากเด็กในวัยนี้ได้รับการฝึกฝนให้รู้จักคิด และแยกแยะผิดถูกได้ด้วยตนเอง จะส่งผลให้ช่วยในเรื่องของพัฒนาการเกี่ยวกับสมองส่วนนี้ได้ดียิ่งขึ้น และยิ่งเด็กได้รับการสอนด้วยวิธีที่ให้รู้จักคิดเอง ไม่ถูกบังคับ โดยการใช้ภาพยนต์ที่เป็นสิ่งดึงดูดใจให้เด็กๆ มีความอยากที่จะดู อยากที่จะศึกษาและร่วมกิจกรรมที่ผู้ใหญ่จัดไว้ให้ ยิ่งจะเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ พ่อแม่บางคนอาจใช้วิธีการบอกกล่าว สอนให้ว่าอะไรไม่ดี อะไรไม่ควรทำนั้น ทำให้เด็กไม่ได้รู้จักคิดเอง ไม่ได้ฝึกฝนสมองส่วน higher function นี้ และการที่เด็กได้เห็นภาพ ได้เห็นสถานการณ์ที่เหมือนจริง ก็ทำให้เด็กเข้าถึงและเกิดความเข้าใจในโลกและชีวิตได้มากกว่า
จากกรณีของครูมลนี้ทำให้เราต้องตระหนักว่าจริงๆ แล้ว สื่อโทรทัศน์ หรือ ภาพยนตร์ ก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสียเสมอไป หากแต่ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะนำสื่อมาใช้ว่าจะใช้สื่อไปในทิศทางใด บางครั้งนอกจากเราจะมัวพะวงว่าผู้ผลิต ผลิตอะไรออกมาให้เด็กดู เราอาจต้องมาคำนึงถึงว่า เราให้เวลาในการที่จะอยู่เป็นผู้ปกครอง ผู้ให้คำแนะนำ และคอยอยู่เคียงข้างระหว่างทางที่เด็กกำลังใช้ความคิด กำลังวิเคราะห์หรือประเมินสิ่งที่ตาเห็นและสิ่งที่ได้ยินไปในทิศทางใด ผู้ใหญ่อย่างเราทุกคนมีหน้าที่ไม่ใช้การปกป้องไม่ให้เด็กเจอกับสิ่งเลวร้าย แต่เป็นผู้คอยชี้แนะแนวทางให้เด็กเรียนรู้ที่จะคิด เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา เรียนรู้ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด และเข้าใจถึงความรู้สึกของคนอื่นซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กต้องเรียนรู้และเข้าใจมันด้วยตนเอง จึงจะสามารถนำมาใช้เพื่อการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคตโดยไม่ก่อปัญหาต่อสังคม และเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างสิ่งดีๆ ให้สังคมต่อไป
โดย นางสาวอุสา บุญเพ็ญ
รหัสประจำตัว 5236722
ไม่มีความเห็น