ตั้งแต่เกิดเรื่อง ได้เล่าเองนี้ให้คนรอบข้างที่เมืองลาวฟัง ทุกคนก็แสดงความเห็นอกเห็นใจและบอกว่าโชคดีแล้วที่ไม่ถูกทำร้ายร่างกาย เพราะปกติมักจะเอามีดกรีดแขนด้านที่จะโดนแย่งให้เจ็บและฉกเอากระเป๋าไป ผู้จัดการโรงแรมที่เป็นผู้หญิงเองก็บอกว่าเคยโดนกระชากสร้อยขณะขับรถมอเตอร์ไซด์ที่หน้าสถานทูตไทย ดีว่าสร้อยเส้นเล็ก หลุดจากคอง่าย ถ้าเป็นสร้อยเส้นใหญ่ ดึงไม่หลุดเธอจะเจ็บมากกว่านี้ เราสองคนก็คิดเหมือนกันว่าโชคดีที่ไม่เจ็บ
เนื่องจากคนร้ายที่ทำการมีสี่คน เหมือนวางแผนล่างหน้า ถ้าเห็นเราชั่วระยะที่เดินออกจากโรงแรมไปถ่ายรูปที่อนุสาวรีย์และเดินกลับมาถึงจุดเกิดเหตุไม่น่าเกิน 10 นาที คนร้ายเพิ่งวางแผนเมื่อเห็นเราออกจากโรงแรมหรือวางแผนตั้งแต่วันแรกที่เราเข้าพักที่โรงแรม และออกมาเดินเล่น เที่ยวงานออกพรรษา อันนี้เราก็สงสัย ถ้าโดนจับตามองตั้งแต่วันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันแรกที่เรามาถึงและออกมาเดินงานออกพรรษา ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง วันจันทร์ที่เรารอดมาได้เพราะสอนจนเย็นและเหนื่อยมากเลยไม่ได้ออกมาหาข้าวเย็นกิน ส่วนวันอังคารที่โดนเพราะเลิกยังไม่มืด มีเวลาหาของกิน จึงเกิดเหตุขึ้น ถ้าเป็นการวางแผนแสดงว่าเราเป็นที่จับตามองโดยที่เราไม่รู้ตัว คนร้ายรอแค่จังหวะดีๆ เท่านั้นเอง เพราะยังงัยเสียสองคนนี้ต้องออกมากินข้าวเย็น เพราะโรงแรมที่พักเป็นแถบที่ไม่มีร้านอาหารอยู่ใกล้เหมือนในดาวทาวน์ ฝั่งตรงข้างโรมแรมที่พักเป็นโรงแรมอีกแห่ง อีกด้านที่ติดกับโรงแรมที่พักเป็นโรงเรียน อย่างน้อยต้องเดินอีกร้อยกว่าเมตรกว่าจะถึงที่กิน และทางที่จะเดินผ่านเป็นย่านที่เป็นตึก ไม่ใช่ย่านการค้าที่คนพลุกพล่านเหมือนในเมือง โอกาสจะเกิดเหตุมีสูง เนื่องจากถ้าอยู่ในย่านดาวทาวน์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติพลุกพล่านมักจะมีตำรวจประจำสี่แยกอยู่ตอนกลางคืนด้วย และใจกลางเมืองมีตลาดโต้รุ่ง หาของกินง่าย มีทั้งแบบรถเข็น ร้านอาหารแขก อาหารเกาหลี ญี่ปุ่น ให้เอาเลือกกินเหมือนอยู่เมืองไทย
ดังนั้นเพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดเหตุ มีแนวความคิดหนึ่งที่พูดกันคือ ให้เลือกที่พักที่ใกล้ที่กิน ใกล้ที่ทำงาน สามารถไปได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น แน่นอนว่าที่พักในเมืองอาจจะราคาแพง แต่สิ่งที่เรามองไม่เห็นคือ ราคาของความปลอดภัยที่เราไม่รู้ว่าต้องจ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่ถ้าได้ที่พักราคาถูก แต่อยู่ไกล หาของกินลำบาก เราเองไม่ใช่วัยแสวงหา ยังมีครอบครัว ลูกเต้า พ่อแม่ต้องดูแล การจ่ายแพงเพิ่มอีกนิดเพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยน่าจะดีกว่า ในกรณีนี้เราว่าการพักที่ Lao Plaza Hotel น่าจะเหมาะสม เพราะใกล้ที่สอน เดินไปเองก็ได้ เดินไปอีกนิดหน่อยเป็นตลาดโต้รุ่ง อีกที่คือ โรงแรมล้านช้าง อยู่ติดกับริมน้ำโขงและที่พักนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร้านอาหารเยอะ เดินมา ววส.ได้เอง แต่อยู่คนละทิศกับลาวพลาซ่า และแน่นอนว่าการพักในเมือง ไม่มีใครรับประกันว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น แต่เป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิด เราไปทำงานชั่วเพียงไม่กี่วัน น่าจะซื้อความสะดวกสบายมากกว่า – อันนี้เป็นข้อคิดเรื่องการเลือกโรงแรม
เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการระยะยาว ไม่ว่ากลุ่มวิชาไหนที่ไปสอนจะพักที่โรงแรมนี้ (เป็นโรงแรมที่สถานทูตไทยใช้บริการเป็นประจำ) ดังนั้นกำหนดการเดินทาง การจองห้องได้ถูกส่งให้โรงแรมเพื่อจองที่พักเรียบร้อยแล้ว เราทราบเพราะได้ไปแจ้งทางโรงแรมเพื่อเลือกห้องให้กับอาจารย์ที่จะเดินทางมาอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า เค้าบอกชื่อได้ บอกห้องได้ แถมรู้อีกว่าวันจันทร์ที่จะถึงจะมีอาจารย์ท่านใดเดินทางมาบ้าง แน่นอนในแง่การจัดการอาจต้องทำแบบนั้น แต่ในแง่ความปลอดภัย? ในกรณีนี้เราเห็นว่าการผูกติดกับโรงแรมใดโรงแรมหนึ่งมากเกินไปไม่ส่งผลดีมากนักในเรื่องความปลอดภัย แต่อาจได้ประโยชน์บ้างในแง่การต่อรองราคา
เนื่องจากช่วงเวลาที่เราไปเป็นช่วงงานเทศกาล ถ้าจะว่าไปคือหยุดยาวตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันพุธ แต่เนื่องจากเราแจ้งความจำนงจะไปสอน นักศึกษาก็มาเรียนครบ ไม่มีใครขาดเรียน เหมือนทุกอย่างไม่มีปัญหา จนกระทั่งมีเหตุเกิดขึ้น ถึงได้รู้ว่าการมาช่วงเวลาที่เป็นวันหยุดเทศกาลยาวหลายวันแบบนี้ไม่เหมาะ เพราะติดต่อราชการลำบาก และหลังเทศกาลคนมักหมดเงินไปกับการเที่ยวงาน ไม่ว่าจะเป็นจับจ่ายใช้สอย หรือเป็นการเสียพนัน เมื่อคนหมดตัว คนที่คิดไม่ดีก็มักฉกชิงวิ่งราว และเหตุอาจมาเกิดกับเราซึ่งเป็นผู้มาเยือน
เวลาที่ไปต่างประเทศมีข้อคิดเรื่องการพกพาสิ่งของสำหรับคนทั่วๆ ดังนี้
เรื่องถูกวิ่งราวกระเป๋าในเวียงจันทร์คงจบเพียงเท่านี้ ต่อไปจะพูดถึงการเรียนการสอน วันครู และการขยายตัวทางการศึกษาของสปป.ลาวบ้าง
เป็นข้อมูลที่ดีมากครับ