กราบหลวงตา..พระธุดงค์
สวัสดีครับกัลยาณมิตร
เมื่อวานนี้วันที่ 1 ตค 2552
ผมอยู่ที่ปาย แล้วได้มีโอกาสเดินทางลงไปที่ตัวจังหวัดไปราชการที่ศาล แล้วเดินทางเลยต่อไปที่อ.ขุนยวม รวมใช้เวลาทั้งหมดจากปาย4 ชม.
การเดินทางครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมากครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะนอกจากจะไปส่งคุณยายที่มาช่วยดูหลานคนใหม่แล้ว
ที่สำคัญคือการไปกราบนมัสการหลวงตารูปหนึ่ง
ผมไม่เคยเห็นท่าน ไม่เคยรู้จักท่าน
ได้ข่าวว่าท่านมาจำพรรษาที่พระธาตุแห่งหนึ่งในหมู่บ้านที่อยู่ก่อนถึงอ.ขุนยวม ชื่อบ้านแม่สุรินทร์
ข่าวที่ได้ เป็นข่าวที่มาจากพี่หมอศัลย์โรงพยาบาลจังหวัด ซึ่งเป็นกัลยาณมิตรที่สำคัญ
และท่านก็ได้ไปกราบมาหลายครั้งพร้อมทั้งได้ยินได้ฟังเรื่องราวการสอนธรรมของท่านจากที่พี่ๆมาเล่า และจากคุณยายของผมที่อยู่ขุนยวม...
เรื่องราวของท่านก่อนที่จะได้ไปกราบคือ ท่านเป็นพระธุดงค์ สายพระป่าอีสาน ท่านเคยธุดงค์มาเส้นทางสายนี้หลายครั้งแล้ว ปีที่แล้วท่านก็เคยมาที่พระธาตุนี้.... และท่านก็ได้ชักชวนชาวบ้านเพื่อร่วมกันบูรณะพระธาตุ และเทศนาธรรมโปรดญาติโยมในพื้นที่นี้
พี่หมอท่านหนึ่งที่ไปกราบท่านบ่อยๆ ว่าการสอนธรรมของท่านเสมือนท่านจะรู้วาระจิตของผู้ถูกสอน... และแนะนำการปฏิบัติที่ตรงกับจริต เส้นทางของเรา
ผมเดินทางถึงพระธาตุ11.45 น แต่ต้องเลยไปส่งคุณยายที่อยู่ตัวอำเภออีก12 กิโลเมตร และพักเหนื่อย 13.20 น จึงเดินทางออกมาเพื่อกราบท่าน และแวะซื้อชุดสังฆทาน 2 ชุด
บ้านแม่สุรินทร์ เป็นชุมชนโบราณ ข้างลำน้ำเล็ก กลางป่าและดอยมากมายก่อนถึงอ.ขุนยวม ที่นี่มีพระธาตุเก่าแก่อยู่... ก่อนหน้านี้ดูรกร้าง
เมื่อผมเดินทางไปถึงก็ขึ้นไปที่พระธาตุ มีชาวบ้านผู้สูงอายุ และช่างหลายสิบคนกำลัง ช่วยกันบูรณะพระธาตุและสิ่งปลูกสร้างโดยรอบ
ผมเดินไปพบกับชายที่นุ่งขาว วัยกลางคน ท่านถามว่าผมไปไหน....ผมจึงเรียนไปว่า จะมากราบหลวงตาครับ....
ท่านจึงแจ้งว่าหลวงตาอยู่ที่กุฎฏิ เดียวจะไปเรียนท่านให้ทราบ....
สักพักผมก็เห็นหลวงตา เดินออกมาดูชาวบ้านที่กำลังทำพระธาตุจำลองเล็กๆ จากเนื้อไม้ต้นโพธิ์ของกิ่งบางส่วนที่ได้ตกเเต่งเพื่อบูรณะสถานที่นี้
ผมเข้าไปกราบท่าน แล้วท่านให้ชีปะขาวชายพาผมไปรอที่ใต้ลานโพธิ์ พร้อมน้ำที่มามาเตรียมให้หลวงตาและผม ระหว่างรอผมก็ระลึกว่าให้ตนเองทำจิตให้สงบ เพื่อจะได้เตรียมจิตใจให้พร้อมรับฟังคำเทศนาธรรมของท่าน
จากนั้นท่านก็มา...
และการแสดงธรรมที่เปี่ยมด้วยเมตตาก็เริ่มต้นขึ้น
ทุกครั้งที่ผมพบพ่อแม่ครูบาอาจารย์
ก็จะแนะนำตัวเองเหมือนเด็กนักเรียน
ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ที่ทำงาน พ่อแม่ ภูมินำเนา
เรื่องราวที่แบ่งปันทำให้จิตใจผมรู้สึกถึงความสงบ และสภาวะที่ทรงธรรมและความบริสุทธิ์ของท่าน
- พระธาตุนี้..พระอริยะสงฆ์ เป็นผู้สร้างไว้นานมากเเล้ว มีสิ่งที่คุ้มครองไว้
- พระไตรปิฏกอยู่ที่ในตัวของเราเองนะ
- อย่าอ่านมาก ให้ภาวนา ให้ปฏิบัติมากๆ
- ดูจิตดูใจ ดูกายของเรามากๆ
- ฯลฯ
จากนั้นก็ถวายสังฆทานแบบเรียบง่าย ท่านเมตตาให้พร และให้ผมไปจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป(2 ขั้นตอนท่านให้อธิฐานจิต ผมขอให้ตนเองมีความเจริญในทางธรรมและการปฏิบัติจนเป็นผู้ที่ไม่ต้องย้อนกลับ และขอผลบุญครั้งนี้ต่อเจ้ากรรมนายเวร...)
หลวงตาเล่าให้ฟังถึงการเดินทางธุดงค์ที่ยาวนานหลายสิบปี ประสบการณ์มากมายที่ยกมาสอนเราระหว่างธุดงค์
และขณะนั้นก็มีอบาสิกามากราบท่านอีก 3 ท่าน เป็นคนในหมู่บ้าน ... ท่านก็ได้คั่นด้วยการไปสอนธรรมกับท่านทั้งสามนั้น แต่ผมผู้ฟังก็เหมือนถูกสอนและได้รับฟังเทศนาธรรมนั้นด้วยความปีติ...
เป็นเรื่องราวที่หาได้ยากยิ่งในชีวิต ที่ได้มากราบและพบกับผู้เจริญในธรรม...
พอออกพรรษาหลวงตาท่านก็จะกลับที่อิสานวันที่6 นี้แล้ว
ผมกราบถามท่านว่าหลวงตาจะมาอีกหรือเปล่าครับ...ท่านยิ้มๆ
เป็นเรื่องดีที่อยากแบ่งปันกัลยาณมิตรครับ
ความเห็น (7)
ขอบพระคุณมากครับ คุณหมอ
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนได้ไปกราบหลวงตาด้วยครับ
อนุโมทนาสาธุครับ
หวัดดีคับ คุณหมอ..
กู๊ดดี้อ่านแล้ว เห็นภาพตามเลยคับ...
สาธุด้วยคับ...กราบบบบบบบบบ...
(ฝากความคิดถึงพี่สบายด้วยนะคับ)
มุ่งมั่นต่อไปนะครับคุณหมอ
สวัสดีค่ะ
- ไม่ได้ติดต่อนานมากเลยค่ะ
- " อย่าอ่านมาก ให้ภาวนา ให้ปฏิบัติมากๆ " ฟังแล้วรู้ กระจ่างขึ้นค่ะ
- ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยคนค่ะ
- อ่านแล้วหัวใจพองโต ..เบา - ขอบคุณค่ะ
สาธุครับ
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
มารับฟังเรื่องราว เหมือนได้ไปกราบหลวงตาด้วยคน
ดีจัง อ่านแล้วรับถึงพลังได้เลย ^ ^
อนุโมทนาด้วยค่ะสุพัฒน์
พี่วี