เมื่อพูดถึงความดี...ทุกคนก็คงเข้าใจเป็นอย่างดีแล้วว่า...
ความดี...คือ...ความอ่อนน้อมทางกาย...
ความดี...คือ...ความอ่อนหวานทางวาจา...
ความดี...คือ...ความอ่อนโยนทางใจ
ความดี...คือ...ความงดงามทั้งกาย วาจา และจิตใจ...
ความดี...คือ...คุณธรรมที่น้อมนำให้เราเป็นคนดี...(ความดีคู่กับคุณธรรม)...
ความดี...คือ...สภาพของความรู้สึกแสดงความปลาบปลื้มเป็นสุขให้กับผู้กระทำ...
ถ้าจะถามว่า...ระหว่างความดีกับความชั่วอะไรจะทำได้ง่ายกว่ากัน??? หลายต่อหลายเหตุผล...แล้วแต่เราจะตอบ...แต่มีพระพุทธพจน์ของพระพจน์ ของพระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ว่า...
ความดี......คนดี......ทำได้ง่าย
ความดี......คนชั่ว....ทำได้ยาก
ความชั่ว.....คนดี.....ทำได้ยาก
ความชั่ว.....คนชั่ว....ทำได้ง่าย
ดังนั้นเราก็พอจะวัดคุณภาพความดีของเราได้ว่า...เราจัดอยู่ในความดีประเภทใด...เพราะฉะนั้นเครื่องวัดคุณธรรม คือความดีของเรา...สามารถวัดได้จาก...เกรดแห่งคุณธรรม 4 ระดับ คือ...
เกรด D เป็นการทำความดีเพื่อตนเอง...ไม่สนใจผู้อื่นว่าจะเป็นอย่างไร...คิดเห็นแต่ประโยชน์ตนเป็นหลัก...เป็นความดีระดับเบื้องต้น...คือ...(ดี)...ธรรมดา...
เกรด C เป็นการทำความดีเพื่อผู้อื่น...โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ตนเองเลยสักนิด...แต่สนใจและคำนึงถึงการทำเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา...เป็นความดีระดับปานกลาง...คือ...(ดีมาก)...
เกรด B เป็นการทำความดีเพื่อตนเองและผู้อื่น...ประเภทนี้ก็ถือว่า...ยกระดับความดีควบคู่กัน...คือ...ทำดีเพื่อตนแล้ว ยังทำเพื่อคนอื่น รวมถึงสังคมด้วย...เป็นความดีระดับสูง...คือ... (ดีที่สุด)...
เกรด A เป็นการทำความดีที่ไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น... เมื่อมีโอกาสก็ทำทันที ไม่ต้องเดี๋ยว ไม่ต้องรอ...ถ้าเป็นเรื่องดี...คิดแล้วทำทันที...ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี...ต้องคิดแล้วคิดอีก...คิดเป็นร้อยครั้ง...พันครั้ง...จนลืมไปเลยว่า...เราคิดเรื่องไม่ดี...(ลืมความชั่ว...ทำแต่ดี...มีคุณจริง)...เป็นความดีระดับที่สูงกว่าที่สุด...จนหาประมาณมิได้...(ดีแท้แน่นอน...ประเสริฐสุด...สุดยอด)...และไม่หยุดทำความดี...ทำดีตลอดไป...
เพราะฉะนั้น...การที่เราวัดใครเป็นคนดี...มีคุณธรรม...ก็วัดได้จาก 4 เกรด ดังที่กล่าวแล้ว...
เกรด ((A)) ดีที่สุดกว่าที่สุด...จนหาประมาณมิได้...ทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทน
เกรด ((B)) ดีที่สุด...ทำเพื่อประโยชน์ของตน ของผู้อื่น และสังคม...
เกรด((C)) ดีปานกลาง...ทำเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นเป็นหลัก...
เกรด((D)) ดีธรรมดา..เพราะทำเพื่อประโยชน์ตนโดยส่วนเดียว...
ดังบทกลอนที่ว่า...
อยากได้ดี ไม่ทำดี นั่นมีมาก
ดีแต่อยาก ไม่ยอมทำ น่าขำหนอ
อยากได้ดี ไม่ทำดี มีแต่รอ
ดีแต่ขอ รอแต่ดี เดี๋ยวค่อยทำ...ฯ
คัดจากคอลัมน์อินไซด์ มจธ. : สกู๊ป ธรรมะรักษา หน้า 20
แวะมาเติมความดีครับ