พระพุทธทำนาย


ลอกจากศิลาจารึกในเขตวัดมหาวิหาร ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดยคณะฑูตไทย ที่ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕

เมื่อหลายเดือนก่อนได้เอกสารเป็นแผ่นพับขนาดใหญ่มากจากศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเคยอ่านเมื่อนานมาแล้วไม่เคยได้เก็บไว้ หรือเก็บไว้แล้วก็เก่ามากแล้ว เป็นข้อมูลหรือข้อความจากพุทธพจน์ ซึ่งเป็นจารึกที่ผู้รู้ได้เคยไปลอกมาจากจารึกโบราณในประเทศต้นกำเนิดพุทธศาสนา คือ อินเดียมา ซึ่งเมื่อตอนเป็นเด็กเคยอ่าน คราวนี้เลยคิดจะบันทึกไว้ เพื่อเผยแพร่เป็นวิทยาทานให้กับทุกคนที่อยากเปิดอ่านเมื่อไหร่ก็ได้จากทั่วทุกมุมโลกที่อ่านภาษาไทยได้ ซึ่งตามคำแปลเป็นภาษาไทยว่าไว้ดังนี้

สาธุอะหังตาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาสรรพสัตว์ทั่วโลกที่เกิดมาแล้วแต่ลำบากยิ่งนัก ในคราวพระองค์ถึงอายุเข้าสู่พระนิพพานตามกาลเวลา จึงตรัสแก่พระอานนท์เถระผู้เป็นศิษย์อันสนิทพากเพียรพยายามอยู่ใกล้ จึงว่าดูก่อนพระอานนท์ สัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาล้วนแต่ลำบากทั่วหน้าทุกชาติศาสนาตามธรรมชาติ  เมื่ออาตมาตายไปแล้วครบห้าพันปี เป็นที่สุดโลกจะหมุนไปใกล้จะถึงจำนวนที่อาตมาทำนายไว้สองพันห้าร้อยปี มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยวิบัติเสียครึ่งหนึ่ง ในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยเห็นไม่เคยพบจะได้พบ  ยักษ์หินที่ถูกสาปให้กลับตื่นขึ้นอาละวาดยิ่งนัก ใกล้พ.ศ.๒๕๐๐ ปี ยิ่งทวีกันใหญ่ยิ่งขึ้นทุกทิวาราตรี แล้วมนุษย์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดเต็มแผ่นดินพื้นน้ำจะลุกลามเผามนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลายเหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินจะเป็นเปลวไฟ  จะตายไปฝ่ายละครึ่งหนึ่งจึงจะเลิกล้ม  ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยยักษ์ร้ายนอนศาสนา  ซึ่งถือกำเนิดจากป่าอำมหิต  ส่วนพุทธศาสนิกชนผู้ขวนขวายแต่ทางบุญ เดินตามทางอาตมาสามารถจะระงับร้อนไม่รุนแรง  บ้านใดได้บูชาพระโพธิสัตว์และผ้ากาสาวพัตร์ก็ได้รับภัยวิบัติเบาบาง  แต่จะหนีธรรมชาติหาพ้นไม่ เริ่มแต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๕  เป็นต้นไป  ไฟจะลุกลามมาทางทิศตะวันออก  ไหม้วัดวาอาราม  สมณะชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ  คนบ้านจะออกจากป่า  ช้างม้าจะเข้ากรุง  กรุงศรีอยุธยาจะร้อนเป็นเปลวไฟ  ลูกไฟจะตกจาฟ้า  เหล็กกล้าจะผุดจากน้ำ  สงครามจะเกิดทั่วทิศ  พระยานาคจะพ่นพิษเป็นเพลิงลามทหารจะเป็นเจ้า  ข้าวสารจะขาดแคลน  ทุกแคว้นจะอดอยาก  พลูหมากจะหมดเปลือง  พวกสีเหลืองจะชนะ  พระยังอยู่คู่เมืองอีกต่อไป  สีขาวจะแพ้ภัย  ในที่สุดครุฑจะบินกลับถิ่นฐาน คนจะกลับบำรุงพระพุทธศาสตรา  ผู้ใดยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติ  คาถาพระพุทธเจ้าตรัสว่าดังนี้ "ข้าพเจ้ายกมือขึ้นหว่างคิ้วต่างธูปเทียนทอง จักษุทั้งสองของข้าพเจ้าดังดอกประทุมชาติ" บูชาพระธรรมนี้ และกาลไกลยิ่งนี้แปดหมื่นสี่พันประการ  ข้าพเจ้าบูชาพระคาถาของพระพุทธเจ้าว่าดังนี้ (ชาตะมะ สะละวา) พระพุทธชิณลิตท่านให้เขียนใส่กระดาษหรือผ้าขาวติดไว้หน้าบ้านหรือหัวนอนดังนี้  จะมีอายุยืนนาน จะทันผู้มีบุญชื่อธรรมิกราชา เมื่อแรกสถิตย์อยู่กรุงศรีอยุธยา  บัดนี้ท่านเสด็จอยู่ลานช้าง  พระองค์มีโอรสสองพระองค์ ถ้าพระองค์ไม่ตายจะเข้าเมืองด้วย  พระธรรมิกราชา  เข้ามาปีกุน เดือน ๑๑ เป็นเที่ยงแท้นักหนา พุทธศักราช ๒๕๐๐ ปี ท่านเสด็จมาในปีระกา  แรม ๕ ค่ำ มหากษัตริย์มาทางทิศตะวันตก สมณะชีพราหมณ์ตามมาพอประมาณได้ ๗๖,๔๐๐ รูป ทั่วอาณาประเทศ สมเด็จพระบรมนักปราชญ์ได้ประกาศคาถาว่าดังนี้ (นสัจจังฑะคะนังนะสากำบัง) คอยดูในปีมะโรง คนจะเดินโก้งโค้งคลาน ผู้ใดอยากจะพบผู้มีบุญชื่อธรรมิกราชา ให้ภาวนาให้มั่น รักษาศีลสดับตรับฟังพระธรรมเทศนา คอยดูปีมะเส็งตะลิ่งจะพัง  มหาสมุทรจะชอบช้ำ พระเจ้าจะเศร้าหมอง ศึกจะติดบ้าน ลูกจะพลัดแม่ แม่จะพลัดลูก โคกจะเป็นน้ำ ผีป่าจะเข้าเมือง ผีเมืองจะเข้าไพร  พระคาถาว่าดังนี้ (ฑิสะทิวาธรรมหัง เทวาโสกิ ลาอาระยาทะละทิศจะมาตามน) ถ้าผู้ใดรู้แล้วจงบอกกันต่อไปด้วย ผู้นั้นจะมีอายุยืนนาน ถ้าไม่บอกผู้นั้นจะได้รับอันตราย  ผู้นั้นจะไม่เป็นผู้มีบุญ มีอสรพิษพ่นในอากาศ รู้แล้วต้องให้กลัวตาย อย่าไปเที่ยวกลางแจ้ง ท่านเข้ามาปีกุนเดือน ๘ เป็นเที่ยงแท้  ผู้ใดไม่เชื่อจะได้รับอันตราย  คอยดูปีจอคนจะไปสู่ท้องทะเล  คอยดูปีระกามืดเจ็ดวันเจ็ดคืน เทวดาเรียกผีเสื้อโกฏิหนึ่ง ยักษ์แสนหนึ่ง ให้เร่งรักษาศีลเจริญเมตตา  กรุณา  ภาวนาสดับตรับฟังพระธรรมเทศนา  บัดนี้ให้ยำเกรงบิดามารดาจะพ้นภัย (สะโรนะกาโททายโมพุทธตะยะ) ภาวนาทุกเช้าค่ำผู้นั้นจะมีอายุยืนนาน  จะได้เห็นผู้มีบุญ ในปีกุน ท่านจะเข้ามาอีก พระจันทร์จะเรืองแสง ถ้าไม่เห็นหนังสือบ้านใดผู้นั้นอาจจะได้รับอันตราย  รู้แล้วให้บอกกันต่อไปด้วย พระเจ้าธรรมิกราชา เข้ามาข้าวของจะแพงอีก ๓ เดือน พระจันทร์จะทับพระสมุทร จะได้รับความลำบากทางเหนือและทางใต้  ในปีจอ เดือน ๕ และเดือน ๖ คนจะเกิดมาเป็นอันมาก จะหาอาหารยาก ด้วยอาหารการกินข้าวสารจะแพงเพิ่มขึ้นเกวียนละ ๒ ชั่ง ตามพระบาลี กล่าวว่า (ทิสะตะลาธรรมมัน ทะโอกะ สิลากะสะสาอะริติ โทมะเตกะสะโรนะ กาโททายโม พุทธตะยะ) จงเก็บบูชาไว้ในที่อันควรเถิดจะเกิดสิริมงคลและคุ้มภยันอันตราย

แพ้เป็นพระ  ชนะเป็นมาร

แพ้เป็นพระ  แพ้ด้วยเมตตาปรารถนาให้เข้ามีความสุขเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป

แพ้ด้วยกรุณา  ปรารถนาช่วยให้เขาพ้นทุกข์ทั้งปวง

แพ้ด้วยมุทิตา  เมื่อเห็นเขาได้ดีมีความสุขพลอยยินดีอนุโมทนาด้วย

แพ้ด้วยอุเบกขา  เมื่อเห็นเขาเกิดอุบัติเหตุหรือทุกข์เกิดขึ้น ช่วยเหลือเขาได้ก็รีบช่วยเขาทันที

ถ้าสุดวิสัยไม่สามารถช่วยได้ก็วางใจเป็นกลาง  แพ้ด้วยรู้จักให้อภัยที่เขาเคยล่วงเกินไม่คิดจองล้างจองเวร  ไม่คิดอาฆาต  รู้จักให้อภัยแก่เขาได้ทั้งสิ้น สมดังพุทธสุภาษิตทรงไว้เป็นภาษาบาลีว่า

เย เวรํ อุปนยฺหนฺติ เวรํ  เตสํ น สมฺมติ

(เย  เวรัง  อุปะนัยหันติ เวรัง เตสัง นะ สัมมะติ)

ซึ่งแปลว่า  เวรของผู้จองเวร  ย่อมไม่ระงับ

เย เวรํ นูปนยฺหนฺติ  เวรํ ตูสูปสมฺมติ

(เย เวรัง นูปะนัยหันติ เวรัง ตูสูปะสัมมะติ)

ซึ่งแปลว่า เวรของผู้ไม่จองเวร  ย่อมระงับได้

แพ้ด้วยการให้อภัยผู้ด้อยโอกาส  ไม่ซ้ำเติมไม่กดขี่  ไม่ยกตนข่มท่าน มีแต่เมตตาสงสาร  คิดช่วยเขาให้เขามีชีวิตที่ดีมีความสุขจะได้อยู่ในสังคมเหมือนบุคคลอื่นๆ ต่อไป แพ้ด้วยเมตตาธรรมต่อมนุษย์ ซึ่งเป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น แพ้ด้วยคุณธรรม แพ้ด้วยจริยธรรม แพ้ด้วยเมตตาธรรม เป็นสายขาว สายพระโพธิสัตว์ "แพ้เป็นพระ" ชนะเป็นมาร มุ่งอาฆาต จองล้าง จองผลาญ จองเวร จองกรรม มุ่งอาฆาตให้หมดทั้งครอบครัวอาฆาตหมดทั้งหมู่คณะ จิตใจเต็มไปด้วยบาป อกุศล จิตใจถูกบาปอกุศลเข้าสิงจิต  จิตใจมืดบอดไปด้วยบาปอกุศล ไม่มีแสงธรรมแสงเทียนอยู่ในจิตใจแม้แต่นิดแต่น้อย เมื่อทำบาปทำชั่วสำเร็จแล้วก็สะใจ ชนะดังกล่าวนั้น เป็นสายดำเป็นพวกพญามาร "ชนะเป็นมาร"

ที่มาจาก พุทธมามกะท่านหนึ่ง

หมายเลขบันทึก: 300350เขียนเมื่อ 24 กันยายน 2009 11:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 15:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท