อ่านเจอข้อความใน นสพ. แล้วโดนใจมาก ข้อความมีดังนี้ค่ะ
''เคยหรือไม่เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร วันๆ นอกจากกิน นอน ทำงาน เที่ยวเตร่ อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง คุยกับเพื่อนกับแฟน ฯลฯ ซ้ำไปซ้ำมาแล้ว ชีวิตมีอะไรเป็นแก่นสารบ้าง สมมติว่าเรามีเงินมากมายจนไม่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง มีเกียรติยศชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือ มีตำแหน่งหน้าที่การงานดี มีครอบครัวที่ดี เรียกว่ามีครบไปซะทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรมีแล้ว คนคนนั้นยังจะมีความสุขโดยไม่มีทุกข์หรือไม่ ถ้ายังมีทุกข์อยู่อีก เช่นนั้นคนเราต้องมีแค่ไหนจึงจะเพียงพอ แค่ไหนจึงจะทำให้มีความสุข โดยไม่เกิดความทุกข์ใจขึ้นอีก"
ในฐานะปุถุชน ดิฉันต้องยอมรับว่าบางครั้งก็เคยมีเหมือนกันที่รู้สึกแว๊บขึ้นมาตามข้อความข้างต้น ซึ่งต้องกำหนดสติอย่างรวดเร็ว ผู้เขียนคอลัมน์แนะนำให้อ่านหนังสือ "คู่มือมนุษย์" ของท่านพุทธทาส ฉบับที่ คุณปุ่น จงประเสริฐ ผู้ก่อตั้งองค์การฟื้นฟูพุทธศาสนาได้ย่นใจความ พร้อมตัดทอนและเปลี่ยนแปลงถ้อยคำจากคำวัดมาเป็นคำบ้าน เพื่อความสะดวกแก่ผู้อ่านและผู้เริ่มอยากศึกษาพุทธศาสนาจริงจัง (เช่นดิฉันด้วย) ในเล่มคู่มือมนุษย์ ท่านพุทธทาสได้บรรยายเรื่องอันสำคัญที่สุดที่มนุษย์ทุกคนควรจะรู้ เพื่อจะทำให้ได้รู้เคล็ดลับของการมีชีวิตอยู่ในโลกอย่างไม่มีความทุกข์ มีแต่ความสุขใจ ไม่ว่าชาวโลกจะวุ่นวายไปอย่างไร
ดิฉันตั้งใจว่าจะต้องหามาอ่านอย่างแน่นอนและต้องบอกกล่าวคนคอเดียวกันด้วย แต่ตอนนี้อยากบอกผู้ที่แวะมาเยี่ยมเยียนใน Blog ก่อน เผื่อใครสนใจจะได้พบความสุขใจก่อน รู้สึกว่าช่วงนี้ ทั้งสังคมประเทศและสังคมเราวุ่นวายจริงๆ นะคะ
มีอยู่เล่มหนึ่งค่ะฉบับที่ คุณปุ่น จงประเสริฐ รวบรวมด้วย วันจันทร์จะเอาไปให้ค่ะ
Many Thanks ค่ะ รู้และเผื่อแผ่ไม่เก็บไว้คนเดียว เป็นกุศลนัก ๆ เน้อ
สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจมิใช่หรือ! คนเราจะมีความสุขหรือมีความทุกข์อยู่ที่ตัวเราเองทั้งสิ้น สิ่งแวดล้อมเป็นเพียงส่วนประกอบแต่ถ้าใจคนเราคิดในแง่บวกได้ตลอด เห็นทุกอย่างเป็นของสวยงาม เป็นธรรมะ หรือธรรมชาติที่มีความเป็นไปอย่างนั้นเอง ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ปล่อยวางเป็น ไม่มาแบกไว้ รับรองชีวิตนี้มีแต่ความสุข แต่ทำได้ยาก จิตต้องได้รับการฝึกจนมีความเข้มแข็ง อดทน มั่นคง หนักแน่นไม่หวั่นไหว นั่นแหละจะพบความสุขที่แท้จริง