ประสบการณ์การเข้าค่ายปฏิบัติธรรม


เมื่อได้ฝึกสติ จิตใจก็สงบ

     เมื่อ 2 ปีก่อน  ข้าพเจ้าเคยมีโอกาสไปเข้าค่ายปฏิบัติธรรม ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าไปนั้น เนื่องจากข้าพเจ้าเกิดความสงสัยว่า ทำไมเพื่อน(ร่วมชั้นเรียนคนหนึ่ง)ไปเข้าค่ายปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ กลับมาแล้วดูสงบ นิ่งๆและใจเย็นขึ้น  เมื่อถึงช่วงปิดเทอมต่อมาข้าพเจ้าจึงได้สมัครเข้าร่วมโครงการแสงธรรมนำชีวิต(เยาวชน)  ซึ่งเป็นโครงการที่ทางศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวันได้จัดขึ้นเอง  โดยเปิดรับสมัครเยาวชนทั่วประเทศตามความสมัครใจ  เป็นระยะเวลา 7 วัน  ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติธรรมจะต้องนุ่งขาวห่มขาว ถือศีลแปด สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็นพร้อมกับพระอาจารย์  ระหว่างวันพระอาจารย์ก็ได้สอนการนั่งสมาธิ การเดินจงกลม การกำหนดสติรวมถึงสอดแทรกคำสอนทางพุทธศาสนาต่างๆ มีการแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ทำความสะอาดโดยรอบ ระดมความคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ

     ในช่วงวันแรกๆนั้น  ข้าพเจ้ารู้สึกเบื่อหน่าย รู้สึกยากลำบาก นับวันเวลาที่จะกลับบ้าน คิดกับตัวเองว่าคิดถูกรึป่าวที่ตัดสินใจมา  แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว  "คนอื่นอยู่ได้ เราก็ต้องอยู่ได้  คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้"  หลังจากที่ได้ปฏิบัติติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน ข้าพเจ้ากลับรู้สึกแตกต่างจากช่วงแรกมาก เหมือนกับว่าเราเกิดความคุ้นชินและรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน  เมื่อจบโครงการ ข้าพเจ้ารู้สึกได้ว่าตนเองมีการเปลี่ยนแปลง  จากที่ไม่เคยใส่ใจสวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอน  ไม่เคยคิดจะตื่นแต่เช้าเพื่อตักบาตร  ไม่เคยคิดจะนั่งสมาธิ ข้าพเจ้ากลับหันมาใส่ใจทำสิ่งเหล่านี้บ่อยขึ้น  มีสติมากขึ้น  เมื่อถึงช่วงเปิดเทอม  เมื่อข้าพเจ้าทราบว่าทางโรงเรียนมีนโยบายให้นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายไปเข้าค่ายปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน  ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีที่จะได้ไปปฏิบัติธรรมอีกครั้งและยังยินดีที่เพื่อนคนอื่นๆจะได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมอีกด้วย

     นับเป็นโชคดีที่ในการไปศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวันครั้งที่สองนี้  ตรงกับช่วงวันวิสาขะบูชา ทำให้ข้าพเจ้าได้ร่วมสวดมนต์และเวียนเทียนไปพร้อมๆกับพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่ตั้งใจมาทำบุญในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวันแห่งนี้

     การเข้าค่ายปฏิบัติธรรมให้อะไรมากกว่าที่คุณคิดจริงๆ  อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสสักครั้ง  หรือหากมีเวลาว่างก็อย่าลืมนั่งสมาธิบ้างนะคะ 

 

“เมื่อไม่ได้พัฒนาด้านจิตใจ จะพัฒนาด้านใดใดก็ไร้ผล การพัฒนาจึงต้องเริ่มที่ใจคน จึงเกิดผลการพัฒนาที่ถาวร”

 

ภาพจาก : วารสารสื่อชมรมโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา2550

หมายเลขบันทึก: 296923เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2009 20:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:31 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ดีแล้วคร้าบ ~ สงบจิต สงบใจซะบ้าง

เป็นการพักผ่อนทั้งกาย และใจ

ทำให้เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น

ว่าง ๆ ก็หาโอกาสทำบ่อย ๆ นะคร้าบ สิ่งดี ๆ แบบนี้

สู้ ๆ ครับ ^^''

ดีจังเลย อยากไปบ้าง

เป็นกิจกรรมที่ดีมากๆเลยนะค่ะ

ดีจัง

อยากไปบ้าง

ค่ายธรรมมะเนี่ยยย

เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลย

จิตใจที่สงบช่วยอะไรเราได้เยอะจริงๆ

ไปมาเหมือนกานน ค่ายนี้ดีจริงๆ ทำให้เรารู้จักความสงบ สติ สมาธิมากขึ้น

แต่อยากไปค่ายแสงธรรมนำชีวิตมากกว่า อยากเจอแทนคุณ >,<

ว้าวว

พักผ่อนนๆๆๆ ทั้งร่างกายและจิตใจ

ไม่ใช่ไปหลับซะละ(ล้อเล่นๆ)

ได้เกียรติบัตรด้วยย

>,<

นี่แหละ ๆ ๆ

มันสุกยอดจริงๆ ธรรมะครองใจ

รู้สึกดีจังเลยที่มีเพื่อนแบบนี้

สาธุ !!

ไปมาด้วยกันเน๊าะเรา

ประสบการณ์ดีๆ ที่อยากไปเจออีก

อิอิ

แต่ไหงตาลได้ไป 2 ครั้งหว่า

โห เราก็ได้ไป 2 ครั้งเหมือนกาน เดวปีหน้าก็ได้ไปอีก 555 ไปด้วยกานเน้ออ

ดีจังนะ..

เราไม่ได้ไปแบบนี้มานานแล้ว...

มันช่วยให้จิตใจสงบได้จิงๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท