วันหนึ่งเราได้ออกไปเยี่ยมบ้านคนไข้ในพื้นที่รับผิดชอบตามปกติ เราได้เดินทางไปยังพื้นที่แห่งหนึ่งอยู่ในที่ห่างไกลมาก สภาพเป็นพื้นที่สวนป่าห่างไกลจากชุมชนมาก ยานพาหนะเดินทางเข้าไปลำบากมาก มีบ้านเรือนพักคนงานโรงงาน เรียกได้ว่าเป็นชุมชนเล็ก ๆ ชุมชนหนึ่งพอเราเดินเข้าไปถึงชาวบ้านชาวบ้านเห็นเราต่างแปลกใจ ดูจากสีหน้าของชาวบ้านแล้วทุกคนตั้งคำถามว่าเราเป็นใคร เราจึงแนะนำตัวเองว่าเรามาจากหน่วยปฐมพยาบาลคามิลเลียน ฯ เป็นหน่วยงานที่ลงมาทำงานเพื่อช่วยเหลือคนไข้ที่เจ็บป่วยด้อยโอกาสไม่มีโอกาสเข้าถึงการรักษาให้มีโอกาสที่จะเข้าถึงการรักษาหรือดูแลสุขภาพของตัวเองเบื้องต้น
หลังจากที่เราแนะนำตัวชาวบ้านต่างก็ดีใจมากที่หน่วยปฐมพยาบาลเข้ามา ชาวบ้านบอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานที่ไหนมาเลยซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลและไม่สะดวกที่จะเดินทางเข้าไป ซึ่งเมื่อก่อนหน้านี้เราก็ไม่คิดว่าในชุมชนนี้จะมีคนอยู่เหมือนกันเพราะเป็นป่าที่อยู่ลึกเข้าไป ได้มีคนไข้ของเราคนหนึ่งแนะนำให้และนำทางพาเราเข้าไป ซึ่งเราก็พร้อมและเต็มใจ ตอนที่ไปตอนแรกที่เห็นทางเข้าก็แทบจะถอดใจแต่ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบและอีกอย่างหนึ่งก็คือความตั้งใจของเราที่ต้องการจะช่วยเหลือชาวบ้าน เราจึงเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านหลังจากที่เราแนะนำตัวเองเสร็จเราก็เริ่มทำการตรวจรักษาและให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพให้ชาวบ้านที่ไม่ได้ไปทำงานที่ละคน ชาวบ้านคนไหนที่มีอาการป่วยไม่ค่อยสบายต่างก็เดินทยอยเข้ามาตรวจกันชาวบ้านทุกคนให้ความร่วมมือกับเราเป็นอย่างดี
มีชาวบ้านคนหนึ่งเดินมาบอกกับเราว่ามีคนไข้คนหนึ่งนอนไม่สบายอยู่ในบ้านไม่ได้ไปทำงานมา 5 วันแล้ว เราจึงเดินเข้าไปดูในบ้าน พอเราเดินเข้าไปในบ้านเจอกับลุงคนหนึ่งกำลังนอนซมอยู่บนที่นอน เราจึงเข้าไปถามอาการลุงบอกอาการว่าปวดหัวและปวดต้นคอ ลุกนั่งไม่ไหวเวียนศีรษะมากเราจึงได้วัดความดันให้กับลุง ความดันของลุง 180/100 ซึ่งเราก็ได้บอกกับลุงว่าที่ลุงเป็นแบบนี้เพราะลุงมีความดันที่สูง ถ้าปล่อยทิ้งไว้ลุงอาจจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่น ๆ อีกหลายโรคหรืออาจจะทำให้ลุงเป็นอัมพฤต/อัมพาตได้ เราจึงบอกให้คนในครอบครัวของลุงที่ดูแลลุงอยู่ว่าจะต้องรีบพาลุงไปรักษาที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นครอบครัวของลุงก็ขอให้เราช่วยพาลุงไปโรงพยาบาลทันที เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ส่งลุงไปที่ห้องฉุกเฉินหมอได้ทำการตรวจดูอาการหลังจากที่ตรวจเสร็จ หมอสั่งยาลดความดันด่วนและให้นอนพักที่ห้องฉุกเฉิน ลุงนอนพักประมาณ 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พยาบาลในห้องฉุกเฉินมาวัดความดันซ้ำให้อีกครั้ง ความดันของลุงก็ลดลงเป็นปกติ หมอจึงให้กลับบ้านและเอายากลับไปกินที่บ้านประมาณ 1 เดือน เราจึงพาลุงกลับไปส่งที่บ้าน ไปถึงบ้านเราก็แนะนำลุงในเรื่องการกินยาที่ได้มาจากโรงพยาบาล และแนะนำในเรื่องการดูแลสุขภาพควบคุมอาหารและให้ลุงนอนพักผ่อน ก่อนที่เราจะกลับเราได้จดเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้กับลุงเผื่อว่ามีอะไรฉุกเฉิน เราจึงกลับ และได้ไปติดตามไปตรวจดูอาการของลุงทุกอาทิตย์ผลที่ดีมากก็คือลุงทำตามคำแนะนำที่เราบอก ลุงสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินและกินยาครบตามคำแนะนำที่เราบอก ทำให้อาการของลุงดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ลุงสามารถไปทำงานได้ตามปกติ
หลังจากนั้นไม่นานประมาณ 1 เดือน ลุงได้โทรศัพท์เข้ามาหาเราและบอกกับเราว่าลูกสาวของลุงไม่สบายมาก เราจึงไปดูอาการลูกสาวของลุงทัน เมื่อเราไปถึงก็พบลุงและภรรยาลุงก็พาเราไปหาลูกสาวที่นอนป่วยอยู่ในบ้าน เราจึงถามอาการของลูกสาว ลุงเล่าให้เราฟังว่าเมื่อ 2 วันก่อนลูกสาวของลุงมีอาการอั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะไหลตลอดเวลา ลุงกับป้าจึงตัดสินใจพาลูกสาวไปคลินิกแห่งหนึ่งในเมือง หมอที่คลินิกได้ให้ยามากินที่บ้าน หลังจากที่กินยาเข้าแล้วทำให้มีอาการปัสสาวะไม่ออก มีหน้าท้องที่บวมขึ้น ลุงโทรศัพท์มาปรึกษากับเราและเราก็ตัดสินใจเข้าไปดูอาการของลูกสาวลุงที่บ้าน เมื่อเราเห็นอาการของลูกสาวลุงจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปปรึกษาหัวหน้าของเราคือพี่ต้อย หัวหน้าของเราจึงแนะนำให้พาลูกสาวไปโรงพยาบาล เราจึงพาลูกสาวของลุงไปโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพาน้องเขาเข้าไปที่ห้องฉุกเฉิน หมอมาตรวจดูอาการ และหลังจากที่ตรวจเสร็จหมอให้นอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน และสั่งให้ใส่สายช่วยฉี่กับน้อง
คุณสุดารัตน์ ร่มโพธิ์
เจ้าหน้าที่โครงการหน่วยปฐมพยาบาลฯ คามิลเลียน โซเชียล เซนเตอร์ ระนอง
ไม่มีความเห็น