ภาพกองทัพว้าแดง... กองทัพที่รวยที่สุดในบรรดาชนกลุ่มน้อยพม่าทั้งหมด ถ้าบทความนี้จริง... จีนก็ขายอาวุธให้ทั้งรัฐบาลพม่าและชนกลุ่มน้อย
...
สำนักข่าวประชาไทออนไลน์ 8 กันยายน 2552 ตีพิมพ์เรื่อง "ว้า: เป้าหมายต่อไปของรัฐบาลพม่าหรือ?" เรื่องนี้แปลมาจากต้นฉบับที่เขียนโดยอาจารย์อ่อง ซอว์ (Aung Zaw) แห่งนิตยสาร "อิระวดี (Irrawaddy)" ซึ่งเอียงข้างไปทางฝ่ายค้านพม่า ไม่ค่อยเป็นกลางเท่าไร
ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟัง... ถ้าท่านได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ ขอความกรุณาแวะไปเยี่ยมเยียนเว็บไซต์ "ประชาไท" กันครับ
...
คนไทยไม่ควรลืมว่า ลาวกับพม่าเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและจริงใจกับไทยมากที่สุด ประเทศปากหวานและองค์การระหว่างประเทศที่แทรกเข้ามาในคราบนับบุญปากหวาน และยุไทยให้แตกกับเพื่อนบ้าน แต่แทบไม่เคยช่วยอะไรไทยเลย
เราควรรู้จักลาวและพม่าแบบรู้เขา-รู้เรา ซึ่งจะทำให้คนไทยเข้าใจเพื่อนบ้าน และเข้าใจเมืองไทยดีขึ้น บทความนี้ใช้ชื่อเรียกว้าแดงว่า "สหรัฐว้า" โปรดเข้าใจว่า ไม่ใช่สหรัฐอเมริกา แต่เป็นว้าแดง
...
จีนขายอาวุธให้ทั้งรัฐบาลพม่าและชนกลุ่มน้อย นี่คือ คลื่นลูกใหม่ของนักค้าอาวุธที่พร้อมเสมอที่จะทำธุรกิจกับคู่สงครามทั้งสองฝ่าย ซึ่งยิ่งรบราฆ่าฟันกันนานเท่าไร นักค้าอาวุธยิ่งรวย และจะยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นด้วย
ว้าแดงเป็นกองทัพของคนรวย มีความเป็นไปได้ว่า จะรวยจากการขายยาเสพติด จริงหรือไม่พิสูจน์ไม่ยาก ขอเพียงให้ไทยเข้มงวดกับการตรวจยาเสพติด ตรวจรถ ตรวจคนผ่านชายแดนให้มากเป็นพิเศษ จะช่วยตัดท่อน้ำเลี้ยงได้มาก
...
ทว่า... ตามหลักยุทธศาสตร์นั้น "ฝ่ายใดมีชัยบนฟ้ามักจะได้ชัยชนะในระยะสั้น ฝ่ายใดมีชัยบนแผ่นดินมักจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะในระยะยาว" ถ้า... ไม่มีมือที่สาม
... หลังจากยึดเหล่ากาย เมืองหลวงของกลุ่มโกก้างอย่างง่ายดาย มีคำถามจากทุกคนว่า กองทัพพม่าพุ่งเป้าไปยังกองกำลังว้าหรือไม่? เหตุผลเชิงตรรกะที่ว่ารัฐบาลทหารพม่ามีเป้าหมายต่อไปคือว้า เพื่อปรามฝ่ายต่อต้านอำนาจรัฐบาลที่จะจัดการเลือกตั้งในปีหน้า ... แต่เหตุผลที่มากกว่านั้นก็คือรัฐบาลทหารพม่ามีความขัดแย้งกับว้า หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ กองทัพสหรัฐว้า (United Wa State Army - UWSA) ซึ่งนักวิจารณ์เตือนว่านี่จะเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อและทำให้เกิดผลพวงที่น่าตระหนก กองทัพสหรัฐว้าเป็นกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่ใหญ่ที่สุดและเข้มแข็งที่สุดในพม่า ด้วยกำลังพล 20,000-25,000 นาย แม้จะมีการลงนามในสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลทหารพม่าเมื่อปี 2532 แต่นับแต่นั้นมา ว้าก็หมั่นซื้ออาวุธจากจีนอย่างแข็งขันและสม่ำเสมอ ... จากข้อมูลในรายงานเมื่อเดือนมีนาคม 2551 เสนอในวารสาร Jane’s Intelligence Review ระบุว่า “เมื่อความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามกับรัฐบาลทหารพม่าเริ่มปรากฏชัดขึ้น กองทัพสหรัฐว้าได้เพิ่มการประจำการอาวุธที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งมีระบบป้องกันการโจมตีจากอากาศยาน ... ราวปี 2543 ว้าได้เพิ่มปืนใหญ่จากโซเวียตรุ่น Streal-2 (SA-7) จรวดต่อสู้อากาศยานแบบประทับบ่า [MANPADS] เมื่อพวกเขาเพิ่มระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ HN-5N ซึ่งเป็นระบบที่จีนปรับปรุงมาจากระบบของโซเวียตรุ่นแรก ไว้ในประจำการ” มากกว่านั้น กองทัพว้าได้เพิ่มอาวุธหนักเข้าคลังเก็บอาวุธของพวกเขา ได้แก่ ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) ขนาด 12.7 มม. และ 14.5 มม. และปืนครก ขนาด 60 มม., 82 มม. และ 120 มม. ทั้งหมดซื้อมาจากประเทศจีน ... ในปี 2550 ที่ปรึกษาจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ได้เข้ามาอบรมการใช้ปืนใหญ่ที่เทือกเขาหลู่ฟาง ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเมืองปางซาง เมืองหลวงของรัฐว้า นี่คือการบอกเป็นนัยจากปักกิ่งว่าไม่ต้องการเห็นว้าอ่อนแอ เป็นธรรมดาที่จีนต้องการรักษารัฐกันชนนี้เอาไว้ ... และนอกจากการติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 130 มม. และ 122 มม. แล้ว ยังมีรายงานว่าทหารว้าทำการขุดกองบัญชาการใต้ดินขนาดใหญ่ใกล้กับปางซาง ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่าเพื่อป้องกันโจมตีทางอากาศจากกองทัพอากาศของพม่า แต่ทหารว้าจะต่อต้านการโจมตีทางบกจากกองทัพของรัฐบาลพม่าได้หรือ? ... นักสังเกตการณ์ประเด็นพม่าบางรายคาดว่า ว้าจะไม่สามารถปกป้องดินแดนของตนในระยะเวลานานได้ หากรัฐบาลทหารพม่าตัดสินใจเปิดการรุกใหญ่กับกลุ่มว้า พันตรีอ่อง ลิน ตุด (Aung Lynn Htut) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองซึ่งเตรียมการลี้ภัยอยู่สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เขาเชื่อว่ารัฐบาลทหารพม่าเตรียมการโจมตีกองทัพสหรัฐว้า แต่นี่เป็นการโยนหินถามทางกับจีน ซึ่งให้การสนับสนุนว้ามาอย่างยาวนาน และกองกำลังชาติพันธุ์กลุ่มต่างๆ ตามแนวชายแดนจีน-พม่า ... อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัฐบาลพม่าซึ่งเพิ่งออกมาจากรัฐฉานเพื่อพบปะและเจรจากับกองกำลังชาติพันธุ์ซึ่งเป็นกลุ่มหยุดยิงกลุ่มต่างๆ ในรัฐฉาน กล่าวว่า ถ้าจีนไม่หนุนหลังว้า กองกำลังของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในแถบนั้นคงถูกทำลายราบไปแล้ว เมื่อพิจารณาการโจมตีที่เพิ่งเกิดขึ้นระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังโกก้าง ซึ่งทำให้มีพลเรือนระหว่าง 10,000- 30,000 คนลี้ภัยเข้าไปอยู่ในพรมแดนของจีน ... ทางการปักกิ่งประกาศต่อสาธารณะเรียกร้องให้นายพลพม่าคืนเสถียรภาพและสันติภาพกลับสู่พื้นที่ชายแดน อย่างไรก็ตาม จีนล้มเหลวที่จะหยุดรัฐบาลพม่าในการโจมตีกลุ่มโกก้าง ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายฮั่น ... เท อ่อง (Htay Aung) นักวิจัยจากเครือข่ายเพื่อประชาธิปไตยและการพัฒนาซึ่งมีสำนักงานในประเทศไทย กล่าวว่า เขาคิดว่าผู้นำว้าซึ่งลงทุนด้านผลประโยชน์ทางธุรกิจในพม่าและจีนคงไม่พร้อมที่จะต่อสู้ เท อ่อง กล่าวว่า ผู้นำว้าในอดีตกล่าวว่าพวกเขาจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มเป็นอริกับทหารพม่าก่อน เขายังกล่าวด้วยว่าจีนสามารถเล่นบทนายหน้าด้านสันติภาพระหว่างผู้นำว้ากับรัฐบาลพม่าด้วยซ้ำ ... โดยผู้นำว้ามีส่วนในธุรกิจโรงแรมและสถานบันเทิงในย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ ในปางซางพวกเขาก่อสร้างโรงงานผลิตกระดาษ โรงงานผลิตบุหรี่ และโรงงานผลิตขวดแก้ว ขณะที่รัฐบาลเนปีดอส่งทหารเข้าเสริมกำลังในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของพม่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่ากองทัพพม่ามีอำนาจการยิงเหนือกว่าทหารว้า โดยไม่ต้องพูดถึงกำลังทางอากาศ ... อย่างไรก็ตาม การโจมตีกองทัพสหรัฐว้าอาจสร้างความไม่พอใจให้กับจีนซึ่งต้องจัดการแม้แต่เรื่องจำนวนผู้ลี้ภัยที่ล้นทะลัก และสิ่งนี้จะกระตุ้นให้กองกำลังหยุดยิงของชาติพันธุ์อื่นๆ อย่างกองทัพอิสรภาพคะฉิ่น (KIA) เข้าร่วมต่อต้านพม่าด้วย หากรู้ว่าตนจะเป็นเป้าหมายที่จะถูกโจมตีถัดไป ... เบอร์ทิล ลินท์เนอร์ (Bertil Lintner) นักข่าวชาวสวีเดนซึ่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับพม่าหลายเล่ม กล่าวว่า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามีการกดดันไปยังว้า “ว้าเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีปัจจุบันนี้” เขากล่าว ... “กองกำลังโกก้างเป็นกลุ่มหยุดยิงที่เป็นห่วงโซ่โยงใยกับพรรคคอมมิวนิสต์พม่า (CPB) ที่อ่อนแอที่สุด กองทัพสหรัฐว้าถือเป็นห่วงโซ่หลัก และเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดสำหรับเนปีดอที่พยายามสถาปนาอำนาจขึ้นในประเทศนี้” ลินท์เนอร์กล่าวด้วยว่า กองทัพรัฐฉานใต้ (SSA-S) (หรือกองทัพกู้ชาติไทใหญ่) และกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) ขณะนี้มีข้อตกลงเป็นพันธมิตรทางทหารร่วมกัน ... ในอดีตรัฐบาลทหารพม่าใช้ให้ทหารว้าโจมตีกองทัพรัฐฉานใต้ ซึ่งกองทัพรัฐฉานใต้เป็นหนึ่งในไม่กี่กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่ยอมลงนามในสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลพม่า และแม้ว่าจะเคยเป็นอริกัน แต่กองกำลังรัฐฉานใต้ และว้า ก็เป็นพันธมิตรกันอย่างไม่เป็นทางการมาหลายปีแล้ว “การโจมตีกองทัพสหรัฐว้าจะเป็นการเปิดกล่อง ‘แพนโดร่า’ (Pandora) ของปัญหาของรัฐบาลทหารพม่า รวมทั้งเรื่องวิกฤตผู้ลี้ภัยรอบใหม่ในจีน และความเป็นไปได้ว่าจะเกิดสงครามในหลายๆ แนวรบภายในประเทศ” ลินท์เนอร์กล่าว
ไม่มีความเห็น