จากการเข้าร่วมงาน "วิทยาลัยชุมชน:ทางเลือกอุดมศึกษาเพื่อปวงชน" เห็นว่า ความเป็นวิทยาลัยชุมชน มีกลุ่มบุคคลที่มีความเห็นต่างกันอยู่ 3 กลุ่มด้วยกัน คือ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูง (ขออนุญาตเอ่ยนามครับ ได้แก่ อาจารย์,ดร.สุเมธ,ดร.วรากรณ์)ผมเห็นว่า ทุกท่านมีความเห็นและความปรารถนาที่จะให้วิทยาลัยชุมชนเดินไปสู่เป้าหมายตามหลักการและปรัชญา
กลุ่มที่ 2 กลุ่มผู้กำหนดนโยบาย(สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน,สมาคมฯ,ที่ปรึกษา)ผมมีความเห็นว่า ความเห็นและวิธีปฏิบัติหรือการทำงานที่ไม่สอดคล้องกับหลักการ และปรัชญาของวิทยาลัยชุมชนเท่าที่ควร จะด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ
กลุ่มที่ 3 กลุ่มผู้ปฏิบัติ (วิทยาลัยชุมชนจังหวัดทั้ง 19 แห่ง)มีความเห็นว่า มีความมุ่งมั่นและมีวิธีปฏิบัติที่พยายามที่จะให้เป็นไปตามหลักการ ปรัชญา ที่กำหนด
แต่ในปัจจุบัน ก็เกิดความไม่มั่นใจในการกำหนดนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติ มีประเด็นหลายประเด็นที่ทำให้เห็นว่า การดำเนินงานของวิทยาลัยชุมชนจังหวัด ไม่ได้รับความเชื่อถือจากผู้กำหนดนโยบาย เหมือนกับว่า วิทยาลัยชุมชนจังหวัด ขาดความรู้ ไม่มีความสามารถ และก็ไม่เชื่อมั่นว่า วิทยาลัยชุมชนจังหวัด...จะสามารถทำได้ มีกระบวนการหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การสรรหาผู้อำนวยการฯ การสรรหากรรมการสภาฯ และโดยเฉพาะการร่าง พ.ร.บ.ของวิทยาลัยชุมชน คิดว่า บุคลากรภายในน้อยคนนักที่จะได้อ่าน ทำความเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการยกร่าง ซึ่งน่าจะไม่สอดคล้องกับความเป็น "วิทยาลัยชุมชน" หรือแนวคิดที่ ศ.นพ.วิจารณ์ได้นำเสนอไว้ (แต่ผู้กำหนดนโยบายอาจจะมีเหตุผลที่ไม่ต้องการให้วิทยาลัยชุมชนทราบก็ได้)
ช่องว่างของความเห็นต่างดังกล่าว เห็นว่า น่าจะเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อความก้าวหน้าของวิทยาลัยชุมชน ที่จะเดินไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งแนวทางที่ควรจะเป็น ควรที่จะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน มีความรู้สึกร่วมและความพยายามร่วมกัน ที่จะช่วยผลักดันให้วิทยาลัยชุมชนบรรลุเป้าหมายที่ทุกคนต้องการ ทั้งระดับนโยบายและระดับปฏิบัติ