ยังจำได้ดี.......เพราะเป็นความทรงจำที่ประทับใจ....ฝังลึก...หยั่งราก..เป็นความทรงจำที่มีคุณค่า....ต่อชีวิต.....ต่อสังคม......ต่อความเป็นไทย ในสมัยเด็กๆ พ่อแม่.....ปู่ย่า....ตายาย จะพาลูกชวนหลานไปร่วมด้วยช่วยกันขนทรายเข้าวัด.. เป็นทรายที่อยู่บริเวณชายหาดแม่น้ำลำคลอง ไม่ต้องซื้อ.. ไม่มีการขาย ....มีแต่การให้..มีแต่การอุทิศ..
ด้วยวิธีการ....หาบ ......ใส่ถังแล้วหิ้วหรือแบก....ใช้รถเข็น...เด็ก ๆ ใช้กระป๋องใบเล็กๆ ใส่..... เดินระยะทางใกล้บ้างใกลบ้างขึ้นอยู่กับระยะทางระหว่างวัดกับแม่น้ำลำคลองที่มีทรายบริเวณชายหาดนั้น ๆ นอกจากได้บุญได้กุศลแล้วยังเป็นความสุขของเด็กๆ ....เป็นความสุขของครอบครัว....ที่ทุกคนเต็มใจทำ ใช้เวลายามค่ำคืนเดือนหงาย....หลังจากที่ทุกคนเสร็จสิ้นภารกิจประจำวัน...เป็นอุบายของผู้หลักผู้ใหญ่พ่อเฒ่าแม่แก่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนในการสร้างความ
เข้มแข็ง......สร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัว......เป็นการจุดประกายความคิดปลุกจิตสำนึก ให้เห็นคุณค่าวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม....ที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน...เด็กๆได้ซึมซับความรักความผูกพัน........ความ
เอื้อเฟื้อ......ความเสียสละ......ความอดทน....ที่สำคัญเด็ก ๆ ได้เรียนรู้ที่ส่งผลให้เกิดองค์ความรู้จากชีวิตจริง.......เป็นเกลียวเชือกที่ถักทอร้อยรัดอย่างสมดุลย์ระหว่าง......วัด.......บ้าน......โรงเรียน......สังคม......ชุมชน....
ครอบครัว......การเรียนรู้บูรณาการ......ความสุข....ฯลฯ..เป็น Jig saw ที่สำคัญทุกตัว.. น่าเสียดายสิ่งเหล่านี้ได้
จางหายไปจากสังคมไทยแทบจะหาร่องรอยไม่ได้...เป็นของดีที่ถูกลืมเลือน...........
เมื่อวันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม 2552 เป็นวันเสาร์ที่มีค่ายิ่งเพราะได้มีโอกาสไปพบ................ไปเห็น เด็กนักเรียน+ผู้ปกครอง+ครู +ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง.. .เข้าร่วมกิจกรรมตาม ชื่อโครงการ .....................
... ”โครงการพัฒนาเด็กนักเรียนสู่ครอบครัววิถีพุทธ” องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ความสำคัญสนับสนุนงบประมาณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 เป็นแม่งานในการจัด....
.ชื่องานโครงการดี....วางแผนมาดี.......วิทยากรชั้นเยี่ยม.....แต่ที่สุดยอดกว่าต้องยกให้ผู้ร่วมกิจกรรมไม่ได้นั่งฟังอย่างที่เคยเป็น...แต่ทุกคนได้มีโอกาสเป็นผู้แสดง....เป็นตัวละครเอกของเรื่อง....มีธรรมชาติ.....สิ่งแวดล้อม...
ของวัดพนัญเชิงวรวิหารเป็นฉากที่ไม้ต้องจัด....งานนี้ต้องผางมามาบอกว่าสุดยอดที่จัดได้ดี.....คิดได้แบบนี้...ก็เพราะ
KEY JOB ศน.วันทนาและทีมงาม ที่ร่วมกันคิด...ร่วมกันทำ.....ร่วมกันแสดง ถึงแม้ช่วงแรกอาจจะ
ขลุกขลัก....เพราะคนทะลักมาเช้าอย่างไม่คาดคิด จนเจ้าภาพตั้งตัวแทบไม่ติด......แต่ใช้เวลาเพียงน้อยนิดพิชิตปัญหาได้....ทุกคนให้อภัย.......เพราะเขาทำด้วยใจ...ทำด้วยศรัทธา....ทำด้วยบนพื้นฐานของความเชื่อ.......
ทำดีต้องดี นับว่าเป็น ACTIVITESที่เปิดโอ กาสให้ผู้ร่วมกิจกรรม.... ได้เรียนรู้..เข้าใจโลกกว้างจากผู้อื่น (Learning to Understand new world from others) เป็นการประยุกต์ประสบการณ์เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น(Applying past experience for better tomorrow) เป็นการจุดประกายความคิด ....เป็น sparking ของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย......พ่อแม่....ผู้ปกครอง......ครู......นักเรียน หันหน้า..ปรึกษาร่วมมือ สร้างความเข้าใจ...ปรับความคิด....
ให้สมดุลย์อย่างเหมาะสมเพื่อสร้างสังคมให้เข้มแข็ง....เป็นบรรยากาศของความเป็นไทยแท้ที่หาดูได้ยากในสภาพปัจจุบัน....ทุกฝ่ายร้องเรียกจัดอีกทีต้องมีคนเต็มลานวัด....เพราะนี่คือ วิถีพุทธ.....วิถีไทย........
ที่ถูกลืมเลือน............................................................
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ฉบับที่ 13/2552
Loongyai
ชื่อโครงการดีมีความหมาย ให้ดูเบื้องหลัง
สนใจเข้ากลุ่ม ยาย...หลานสดชื่น
ที่ รีสอร์ท บ้านริมแคว แพริมน้ำ กาญจนบุรี เป็นรีสอร์ท ที่สวยที่สุด และประทับใจที่สุด ในลำน้ำแควน้อย ทุกๆปี ที่รีสอร์ทนี้ จะเปิดการ ปฎิบัติธรรม โดยใช้ชื่ว่า โครงการ น้อมนำ ชีวีสู่วิถีพุทธ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อะไรทั้งสิ้น พระอาจารย์ มิตซูโอะ เมตตามาเป็นอาจารย์ อำนวยการ ตลอดระยะเวลา 4 คืน 5 วัน ตั้งแต่ วันที่ 1 พย ถึง 5 พย 2553 ท่านใดสนใจ สามารถ ติดต่อ ได้ที่ บ้านริมแคว แพริมน้ำ โทร 081 9440657 หรือ ที่ 034 561052 034 561429 www.banrimkwae.com