พุทธศานากับความเป็นมาถึง 2600 ปี


“เมื่อชีวิตของแต่ละคนไม่ยาวนักแล้วเราจะเบียดเบียนกันไปอยู่ใย ไม่หันหน้าเข้าหากัน ทำความดี มีความสุขกับการใช้ชีวิตที่เป็นธรรมดาตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติหละครับ”

สรุปผลการเรียนรู้ ครั้งที่ 13 Lord Buddha as a excellent CEO for 26 centuries
“ทำไมพุทธศาสนายังคงดำรงอยู่ได้มาถึงเกือบ 2600 ปี?”

     พุทธศาสนา(Buddhism) เป็นศาสนาที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระบรมศาสดา มีพระธรรมที่พระองค์ท่านตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง เป็นคำสอนเกี่ยวกับความจริงตามธรรมชาติของทุกข์และวิธีการดับทุกข์ ซึ่งการเรียนรู้ธรรมคือการรับรู้ธรรมดาโลก

     พุทธศาสนา เป็นศาสนาที่มุ่งเน้นเรื่องการพ้นทุกข์ และสอนให้รู้จักทุกข์และวิธีการดับทุกข์ ให้พ้นจากอวิชชา (ความไม่รู้ความจริงในธรรมชาติ) อันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์จากกิเลสทั้งปวงคือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เน้น การศึกษาทำความเข้าใจด้วยปัญญา และพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงเห็นเหตุผลว่าสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี และความเป็นไปตามธรรมชาติ และสัตว์โลกที่เป็นไปตามกฎแห่งกรรม ด้วยความไม่ประมาทในชีวิตให้มีความสุขในทั้งชาตินี้ ชาติต่อๆไป
     หลักคำสอนในพุทธศาสนามีทั้งหลักปฏิบัติที่เป็นหลักการพื้นฐานจริยธรรมสากลคือการรักษาหน้าที่ตามบทบาทที่สมมุติของสังคม เช่น กตัญญูกตเวที  คุณธรรมสากลคือความดีของจิตใจตามที่สังคมคาดหวัดยึดถือ เช่น พรหมวิหาร 4 เมตตา (ความปรารถนาอยากให้ผู้อื่นมีความสุข) กรุณา (ความปรารถนาอยากให้ผู้อื่นพ้นทุกข์) มุทิตา (ความยินดีที่ผู้อื่นประสบความสุขในทางที่เป็นกุศลหรือประกอบเหตุแห่งสุข) อุเบกขา (การวางจิตเป็นกลาง ศีลธรรมสากลคือการไม่ทำร้ายกันความประพฤติถูกต้องตามที่วัฒนธรรมนั้นๆยอมรับได้ เช่น โอวาทปาติโมกข์ คือ " การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญแต่ความดี การทำจิตให้สะอาดบริสุทธิ์" และ ปรมัตถธรรมสากล คือหลักปรัชญาหลักวิทยาศาสตร์หรือหลักวิชาการ คือ "อริยสัจ 4" หรือความจริงอันประเสริฐ 4 ประการทุกข์ที่ทำให้เราเข้าใจปัญหาและลักษณะของปัญหา สมุทัยสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ นิโรธความดับแห่งทุกข์ มรรควิถีทางอันประเสริฐที่จะนำให้ถึงความดับทุกข์
     ลักษณะเด่นของพุทธศาสนา คือ ศาสนาแห่งเหตุผล ศาสนาแห่งอิสรเสรีภาพ ศาสนาอเทวนิยม และศาสนาแห่งสันติภาพ
     อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธ์อันยิ่งใหญ่ หลังจากที่ได้ศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งแล้วก็ออกมายอมรับว่า “การสัมผัสรับรู้ความจริงแท้ของจักรวาลทางศาสนา เป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุดของการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์"
     ฟริตจอฟ คาปรา ผู้เขียนหนังสือ “เต๋าแห่งฟิสิกส์” บอกว่า ทฤษฎีควอนตัม และทฤษฎีสัมพันธภาพ ทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกของเราคล้ายคลึงกับความเข้าใจของชาวพุทธและเต๋า เมื่อเอาสองทฤษฎีนี้มาใช้อธิบายปรากฏการณ์ของอนุภาคที่เล็กกว่าอะตอม เราพบว่า “อนุภาคเหล่านี้มีความไม่เที่ยง แปรเปลี่ยนไปตลอดเวลาและไม่มีตัวตนที่แท้ คล้ายคลึงอย่างยิ่งกับหลักแห่ง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา”
     “เมื่อชีวิตของแต่ละคนไม่ยาวนักแล้วเราจะเบียดเบียนกันไปอยู่ใย ไม่หันหน้าเข้าหากัน ทำความดี มีความสุขกับการใช้ชีวิตที่เป็นธรรมดาตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติหละครับ”

สรุปเรื่องราวครั้งนี้ผ่านการถ่ายทอดจากท่านอาจารย์ ผศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์

หมายเลขบันทึก: 293269เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2009 11:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 21:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ทุกคนรู้ว่าทำไมทุกข์ ทุกคนรู้ทางดับทุกข์ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ลงมือปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ จึงต้องทนทุกข์กันต่อไป

ขอบคุณที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นครับผม

หนทางดับทุกข์ไม่มีขาย อยากได้ต้องปฏิบัติเอง เหมือนสุขภาพดีไม่มีขายอยากได้ต้องปฏิบัติเอง มันก็เป็นเช่นนั้นแล

เข้ามปรับแก้สีตัวอักษรแล้วครับ ขอบคุณที่เสนอแนะ

หัวใจธรรมะ ในการทำงานในคืนนี้ ให้เสร็จสิ้นชีพ แวะมาทักทายเป็นงัยบ้างอาจารย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท