คำว่าโรงพยาบาล HA และโรงพยาบาล HPH เมื่อเอ่ยถึงคำคู่นี้ ใคร ๆ ที่ทำงานคุณภาพโรงพยาบาล ก็อยากก้าวไปให้ถึงและเข้าไปนั่งในตำแหน่งนั้น โรงพยาบาลบ้านลาดก็เช่นกัน พวกเราทุกคนใฝ่ฝัน อยากจะคว้ามงกุฎดาราคู่นั้นมาสรวม และครอบครองตำแหน่งอันมีค่ายิ่ง พวกเราทุกคนพยายามทำทุกวิถีทาง ขยัน อดทน อ่านตำรา ไปดูงาน ขอแบบประเมินตนเองจากโรงพยาบาลที่ผ่านแล้วมาเป็นแม่แบบ เราทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ แต่ก็ยังประเมินไม่ผ่านทำไมรสชาดของโรงพยาบาลคุณภาพมันถึงขมขื่น ทุกข์ระทมและเหน็ดเหนื่อย เหมือนเราอยากตาสว่าง แต่เราต้องทนกับรสขมบาดลิ้นของกาแฟดำเช่นนี้
ฉันมีโอกาสได้เข้าร่วมงาน HA National Forum ครั้งที่ 8 เป็นครั้งแรก หัวใจของฉันพองโต เมื่อก้าวเข้าสู่ห้อง Grand Hall อันโอ่อ่า ตระการตา เหตุใดการประชุมวิชาการของพรพ. จึงมีคนสนใจล้นหลามขนาดนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนมีความกระตือรือร้น แววตามมุ่งมั่นใส่ใจใคร่รู้ ไม่ว่าจะโผล่ไปห้องย่อยห้องไหนก็แน่นทุกห้อง แน่นจนล้นออกมานอกประตู ผู้คนสนใจนั่งฟังกับพื้นบ้าง นั่งข้างเก้าอี้บ้าง นั่งหน้าเวทีบ้าง แออัดไปหมด แต่ไม่มีใครบ่น ทุกคนสนใจความรู้ใหม่ ๆ ที่วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิบรรยายให้ฟังอยู่หน้าเวที บางคนอัดเทป บางคนถ่ายรูป เป็นความแน่นขนัด ฉันจึงตั้งชื่อว่า “ตลาดนัดวิชาการ” ซึ่งคนอยากหาและซื้อ ฉันปลีกตัวออกมาดูบอร์ดนิทรรศการ ซึ่งก็แน่นขนัดไม่แพ้กัน ดูเห็นบ้างไม่เห็นบ้างก็ยังดี ฉันจึงตั้งปณิธานอยู่ในใจว่า “เออ แล้วฉันต้องเอาของโรงพยาบาลบ้านลาดมาตั้งแสดงให้พวกเธอเบียดเสียดกันเข้ามาดูผลงานของฉันให้ได้”
ฉันเองไม่ค่อยมีความรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพ HA มากนัก เพราะฉันรับผิดชอบงานส่งเสริมสุขภาพ วันหนึ่งประธานศูนย์คุณภาพมาชวนฉันว่าไปร่วมเป็นกรรมการพัฒนาคุณภาพเอาไหม ฉันตอบตกลงทันที เพราะฉันรู้ว่ามันเป็นโอกาสที่ฉันจะได้นำเสนอผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ และได้มานำเสนอผลงานใน HA Forum ดังที่ฉันตั้งปณิธานไว้ ฉันจึงสมัครเข้าร่วมกับทีม Fac. เพื่อแนะนำเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ทำงานตามระบบที่วางไว้ และสิ่งที่ฉันภาคภูมิใจมากที่สุด คือ ได้รับความไว้วางใจจากทีมนำ ให้เป็นเลขาทีมดูแลผู้ป่วย ซึ่งฉันตั้งใจจะทำงานให้เต็มความสามารถ
ฉันคิดในใจว่า ตำแหน่งนี้เหมือนนางสาวไทย คือ มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ภาพพจน์ขององค์กรบ้านลาดและประสานการทำงานของหน่วยต่าง ๆ ในโรงพยาบาล ฉันต้องเดินยิ้ม และไปชักชวนเพื่อน ๆ ให้ทำงานคุณภาพทั้งองค์กรแพทย์ ระบบยา ทันตกรรม ชันสูตรสาธารณสุข พยาบาลเยี่ยมบ้าน พยาบาลโภชนาการ พยาบาลกายภาพบำบัด พยาบาลหัวหน้างานต่าง ๆ ระบบต่าง ๆ ในโรงพยาบาล ช่วยกันวางระบบ ปฏิบัติตามระบบให้เกิดความเสี่ยงความคลาดเคลื่อนและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ให้น้อยที่สุด เพราะเราต้องการเป็นโรงพยาบาลชุมชนชั้นนำของประเทศ ฉันอ่านตำราทุกเล่ม มาตรฐานทุกเล่มของพรพ. แล้วนำมาตรฐาน HA และ HPH สู่การปฏิบัติให้ครอบคลุมทุกกลุ่มความเสี่ยง เชื่อมโยงทุกหน่วยงาน เชื่อมโยงทุกระบบ จนเกิดผลลัพธ์คุณภาพที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย โดยเน้นสิทธิผู้ป่วย จริยธรรมองค์กรจนเกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยในโรงพยาบาลของเรา ฉันเริ่มเอามาตรฐานของ HA ที่ขมเหมือนกาแฟ มาทำให้ทุกคนรู้จัก ทุกคนกระปรี้กระเปร่าขึ้น แม้จะเหนื่อยยากก็จะอดทน
แล้วความฝันของฉันก็เป็นความจริง ปี พ.ศ. 2549 โรงพยาบาลบ้านลาดของฉันผ่านการรับรองทั้ง HA และ HPH เราได้รับเกียรติไปร่วมงาน Theme ของ HA National Forum เน้นการดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ ฉันเริ่มมึนอีกแล้ว ก็เราเป็นมนุษย์ทุกคน ทำไมเราถึงไปดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์เล่า ฉันแอบเถียงพรพ.อยู่ในใจ แล้วจะให้ฉันดูแลผู้ป่วยอย่างไรอีก ผ่าน HA แล้วยังไม่พออีกหรือ ฉันส่งผลงานการดูแลผู้ป่วย COPD ซึ่งฉันคิดว่าฉันดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์แล้ว แต่ไม่ผ่านการรับเลือกให้จัดแสดง ฉันกลับมาบ่นกับผู้อำนวยการว่าฉันจะไม่ทำงานคุณภาพอีกแล้ว ทำอย่างไรก็ไม่ดี เขียนอย่างไรก็ไม่เข้าตาพรพ. ฉันไม่มีความสามารถ ผู้อำนวยการปลอบฉันว่า ให้อดทนสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ได้นำเสนอใน Form หรือไม่ หัวใจมันอยู่ที่คุณได้ดูแลคนไข้ด้วยความรัก ความเอาใจใส่และความเห็นอกเห็นใจแล้วหรือยัง ถ้าคุณทำแล้วความดีที่คุณได้รับ มีคุณค่ามากกว่าการได้แสดงนิทรรศการมากมายนัก ฉันฟังและพยักหน้าคล้อยตาม
อีกปีหนึ่งต่อมา Theme ของพรพ.พูดเรื่ององค์กรที่มีชีวิต ฉันก็งงอีก แต่คราวนี้ฉันไม่ย่อท้อ ฉันคิดว่าองค์กรที่มีชีวิตต้องมีหัวใจ โดยเฉพาะหัวใจของความเป็นมนุษย์ ฉันติดตามการประชุมของพรพ.ทุกประชุมจนได้มาฟังการนำเสนอ การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ของโรงพยาบาลตาคลี นครสวรรค์ ฉันเริ่มเข้าใจว่าการดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ คือการดูแลผู้ป่วยที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ด้วยความเอาใจใส่ และช่วยเหลือเขาด้วยความเต็มใจ จริงใจ เหมือนเราดูแล “คนที่เรารัก”
ฉันถ่ายเอกสารเรื่องเล่าของโรงพยาบาลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตาคลี ละงู เสาไห้ ลำพูน แจกจ่ายให้น้อง ๆ งานต่าง ๆ ได้ดูเป็นตัวอย่าง แล้วลองทำกับคนไข้ของเราอย่างนั้นบ้าง “ได้ผลค่ะ” น้อง ๆ ส่งเรื่องราวดี ๆ ที่เขาได้ดูแลคนไข้ของเขา เข้ามาถึง 8 เรื่อง เราส่งให้พรพ.พิจารณาได้ผล พรพ.ขอมาดูของจริงว่าเราทำอย่างที่เขียนไปจริงหรือเปล่า ปี 2550 โรงพยาบาลบ้านลาดเป็นม้ามืดคว้ารางวัล Humanized Health Care Award 1 ใน 15 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เราภาคภูมิใจมากที่การดูแลผู้ป่วยของเราเป็นการดูแลด้วยหัวใจของมนุษย์ โดยไม่ตั้งใจ
เมื่อเรามาถูกทาง น้อง ๆ ของเราทุกงานก็เริ่มเขียนผลงานที่พวกเขาดูแลคนไข้จริง ๆ มาให้เราอีก เราส่งให้พรพ.พิจารณา เรามาถูกทางแล้ว ปี 2551 โรงพยาบาลบ้านลาด ได้รับรางวัล Humanized Health Care Award เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแรกของประเทศไทยที่ทำได้ จากผลงานทั้งหมด 14 เรื่อง และนำเสนอในนิทรรศการ 8 เรื่อง ได้แสดงละครในลานนิทรรศการ ผู้อำนวยการได้รับเกียรติบรรยาย พวกเรา 4 คน ได้นำเสนอเรื่องเล่าทุกวัน ฉันดีใจที่เวลาเดินไปไหน มีแต่คนชมว่า “บ้านลาดเก่ง” หัวใจฉันพองโตจนไม่รู้สึกหิวข้าวกลางวัน
หลังจากนั้น มีคนมาขอศึกษาดูงานเรื่อง Humanized Health Care จากเรามากมาย จากโรงพยาบาลชุมชนต่าง ๆ โรงพยาบาลจังหวัด และที่เราภาคภูมิใจมากที่สุด คือ นักศึกษาแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพามาขอดูงานจากเรา เพื่อนำไปเป็นหลักสูตรเปิดการเรียนการสอนให้นักศึกษาแพทย์เรียนรู้เพื่อนำไปใช้ในการดูแลคนไข้ต่อไป
ฉันเพิ่งเข้าใจตอนนี้เองว่า การทำ HA ซึ่งมีมาตรฐาน และ CPG มากมาย ทำให้เจ้าหน้าที่เครียด เหมือนกับกินกาแฟที่ขม หากเราทำ HA ให้เป็นงานประจำ ก็เปรียบเหมือนเราเปลี่ยนมาดื่มชา รสชาติก็นุ่มขึ้นไม่ขมมาก แต่ก็ทำให้เราตาสว่างได้เช่นกัน แต่ชาก็มีรสเฝื่อนหลายคนคงไม่ชอบ ถ้าเราเติมการดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์เข้าไปในการดูแลคนไข้ เหมือนเราเติมนมข้นหวานเข้าไปในชา มันก็คงจะดีขึ้น สีของชาขาวนวลขึ้น รสชาติของชาหวานมันขึ้น หากเราใส่น้ำแข็งเข้าไปอีกหน่อย ชาใส่นมของเราก็คงจะหวานเย็น และมีรสกลมกล่อมขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ฉันจึงนิยาม “ชาใส่นม” ว่าต้องประกอบด้วย พลัง 3 ด้าน คือ พลังด้านวิชากร เป็นมาตรฐานในการดูแลผู้ป่วยที่เราต้องยึดถือปฏิบัติให้มั่นคง จะผิดพลาดไม่ได้ พลังด้านนโยบาย ผู้มีอำนาจต้องมีนโยบายสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้กำลังใจและแก้ไขปัญหาให้ผู้ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ และพลังสุดท้ายคือ พลังด้านการมีส่วนร่วม เจ้าหน้าที่ทุกคน ญาติผู้ป่วยและชุมชน ต้องมีส่วนร่วมในการดูแลคนไข้ด้วยกัน หากเรารวมพลังทั้ง 3 ด้าน ชาใส่นมถ้วยนี้คงมีรสชาติหวานกลมกล่อมซึ่งเกิดขึ้นในโรงพยาบาลบ้านลาด
SHA ใส่นม จะประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น เรามีกระบวนการดังนี้
1. การวิเคราะห์โดยใช้ System Theory โดยดูที่ผลลัพธ์ก่อน ถ้าผลลัพธ์ไม่ดี จึงย้อนกลับมาดูว่า “กระบวนการ” ใดผิดพลาด ก็ทำการปรับปรุงแก้ไข ถ้ายังไม่ดีพอต้องดูปัจจัยนำเข้าว่ายังขาดเหลือสิ่งใด โรงพยาบาลต้องปรับปรุงและสนับสนุนให้ระบบสมดุล
2. การตั้งเป้าหมาย เป้าหมายต้องชัดโดยกำหนดกลุ่มโรคที่จะดูแล และแยกเป็นรายโรคสำคัญทุกกลุ่ม
3. นิยาม SHA ให้ชัด โดยใช้ Model 3L คือ Love, Listening และ Learning ซึ่งเป็นModel ที่ฉันคิดขึ้นและนำไปใช้ในโรงพยาบาลและกำลังอยู่ระหว่างการทดลอง Model อย่างเป็นรูปธรรมและเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์
4. ความตั้งใจจริง ทีมดูแลผู้ป่วยต้องมุ่งมั่นที่จะทำให้คนไข้มีสถานะสุขภาพที่ดีขึ้น อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี ติดตามดูแลให้เหมือนกับเราดูแล “คนที่เรารัก” ปรารถนาให้เขามีความสุข
5. การเยี่ยมบ้าน เป็นเครื่องมือที่ทำให้เราทราบสภาพที่แท้จริงของคนไข้ แล้วเราจะรู้สึกสงสารเขามากขึ้นและพยาบาลทำทุกอย่างให้เขาสุขสบายขึ้น
6. คิดนอกกรอบ โดยใช้กระบวนการ CQI และนวตกรรมมาใช้ในการดูแลช่วยเหลือคนไข้ไม่ใช่ทำแบบเดิม ๆ ซึ่งคนไข้ไม่ดีขึ้น โดยผู้ป่วย ญาติ ชุมชนร่วมคิดร่วมทำ
7. แก้ไขปัญหา และลดอุปสรรค การเข้าถึง เช่น รถ EMS มีเครื่องมือ อุปกรณ์ สนับสนุนอย่างพอเพียงสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน
8. ผู้นำให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ละเลยเรื่องส่วนตัว ประสานงานกับองค์กรอื่น สร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน
ถึงวันนี้ วันที่ฉันเป็นส่วนหนึ่งที่นำพาโรงพยาบาลบ้านลาดของฉัน เข้ามายืนอยู่ในจุดที่เป็นโรงพยาบาล HA โรงพยาบาล HPH และโรงพยาบาล Humanized Health Card Award เป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน และดูแลด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ เหมือนชาใส่นม แล้ว SHA ของเราก็จะยั่งยืนต่อไป ฉันมองดูพัฒนาการของ SHA ใส่นมมาตลอดด้วยความภาคภูมิใจ เราได้นำเสนอเรื่องราวดีๆ ผ่านเรื่องเล่า และบอร์ดนิทรรศการอย่างต่อเนื่อง ปี 2550 มี 8 เรื่อง ปี 2551 มี 14 เรื่อง และในปี 2552 พวกเราส่งเรื่องดี ๆ เข้ามามากถึง 50 เรื่อง เราคิดว่าชาของเราเติมนมจนได้ที่ มีรสชาติ หวาน หอมกลมกล่อม จนเจ้าหน้าที่ของเราทุกคนได้ดื่มกินทุกวัน และพร้อมจะหยิบยื่นชาใส่นมถ้วยนี้ให้กับคนไข้ของเราทุกคน พวกเราคิดว่าเราคงพัฒนากระบวนการคุณภาพของเราไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่เพื่อเหรียญรางวัล หรือประกาศนียบัตรรับรองแต่เป็นคุณภาพชีวิตของคนไข้ของเรา ต้องดีขึ้นโดยเราจะพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลบ้านลาด โดยในหลักการที่ว่า ยืดหยุ่น และยั่งยืน (Flexible and Sustainable Development) เราหวังเช่นนั้น และจะพยายามเดินไปให้ถึง
อ่านแล้วคล้อยตามทุกตัวอักษร
ดูแลเหมือน คนที่เรารัก
นิยามได้ลึกซึ้ง กินใจ
เก่งมากค่ะ บ้านลาดเก่งจริงๆ
ขอบคุณนะคะ