2.บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
สายลมโกรกเรียดผิวน้ำกลางขุมเหมือง น้ำกระเพื่อมเป็นระลอกไม่ขาดสาย แสงตะวันยามเช้าสาดระลอกคลื่นสะท้อนประกายระยิบระยับ
ฟองทะเลปีนขึ้นต้นมะม่วงหิมพานต์ไต่ไปยังกิ่งอวบใหญ่ซึ่งยื่นไปในขุมเหมือง นั่งเหม่อลอยมองระลอกคลื่นลูกแล้วลูกเล่า นัยน์ตาเริ่มพร่า เธอหวนนึกถึงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ยามเช้าก่อนตะวันทอแสง เธอค่อย ๆ ย่องออกจากบ้านเข้าไปยังบ่อน้ำฟากตรงข้ามกับบ้านของเธอ
เธอเลือกเลียบขุมเหมืองไปทางขวาเลาะชายเฟือยไม่ผ่านเข้าไปในสวนร้าง เนื่องจากไม่ว่าจะเลือกไปทางซ้ายหรือขวา ก็ต้องลัดเลาะชายเฟือยไป มิฉะนั้นต้องเดินอ้อมตามเส้นทางในสวนร้าง บุกป่าฝ่ากิ่งก้านระเกะระกะ อสรพิษ หญ้ารกเรี้ยว และระยะทางไกล หลังจากเดินไปได้ค่อนทาง เธอก้าวข้ามสายน้ำเล็ก ๆ คิดว่าพื้นทรายริมน้ำอีกฟากหนึ่งจะแน่นพอที่จะทรงตัวได้ ครั้นก้าวข้ามเหยียบปรากฏว่าทรายทรุดตัว เธอพลาดท่าล้มแผละ สะโพกจ้ำเบ้า ก้นเปียกแฉะเป็นวง เสียงเขียดกระโดดน้ำ จ๋อม ! เธอผินหน้ามองต้นหญ้าดอกอ้อ มันโบกสะบัดเสียดสี เอิ๊กอ๊าก ! เอิ๊กอ๊าก ! เอิ๊กอ๊าก !
กระทั่งใกล้ถึงบ่อน้ำ เธอก้าวขึ้นฝั่งไปยังดงมะม่วงหิมพานต์ ค่อย ๆ มุดตามกิ่งไม้ที่ขยายเกือบเรียดหน้าดิน แหวกใบไม้ ต้นหญ้า คลานไปจนสุดแนวไม้ โผล่เข้าบริเวณดงไม้หนาทึบซึ่งโอบล้อมบ่อน้ำ เธอชะเง้อชะแง้ มะม่วงหิมพานต์ป้อม ๆ สีแดงอมเหลืองหล่นบนศีรษะเธอ ตุ๊บ !
อันที่จริงบ่อน้ำนี้เป็นเพียงบ่อน้ำธรรมดาซึ่งเก่าชำรุดทรุดโทรม รอกสำหรับดึงถังน้ำก็ผุพัง เพียงแต่ว่าบ่อน้ำนี้ตั้งอยู่ภายในส่วนเว้าของขุมเหมืองที่มีไอน้ำซึมซาบท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์หนาแน่น โดยเฉพาะต้นมะม่วงหิมพานต์ที่ทำให้บ่อน้ำมีกลิ่นกรุ่น ๆ น้ำในบ่อเขียวใสดั่งกระจกโปร่งแสง เย็นฉ่ำตลอดปี ที่สำคัญที่นี่เป็นสถานที่ลับเฉพาะ มีเธอและแม่เท่านั้นที่รู้ แม้แต่เพื่อน ๆ ซึ่งมาเล่นบริเวณนี้ยังไม่มีใครเคยค้นพบ
เธอชะโงกหน้าดูน้ำในบ่อ ถอยหลังสำรวจรอบ ๆ บ่อน้ำ หาแสงประหลาด แหวกใบไม้ มุดกิ่ง เขี่ยพื้น มองท้องฟ้า ส่งเสียงเรียก วกกลับมาบ่อน้ำอีกหลายหน น้ำหยดติ๋ง ! เกิดวงคลื่น แสงตะวันสาดลอดใบไม้เป็นลำยาวกระทบผิวน้ำ น้ำหยดติ๋ง ! แสงสะท้อนเป็นสีเขียวมรกตสว่างจ้า
“นางฟ้าโปรดดลบันดาลให้เพื่อน ๆ ยอมให้หนูเล่นกับพวกเขาด้วยเถิด” เธอก้มหน้า พนมมือ อธิษฐาน
ภาพขุมน้ำเริ่มโงนเงน ไหวขึ้นไหวลง โคลงไปโคลงมาพลันร่างของเธอหล่นลงน้ำ ตูม !
เสียงเดินลากรองเท้า แกรก ! แกรก ! เสียงใส ๆ ดังเซ็งแซ่ เสียงล้อรถบังคับหมุน ฟริ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!
“เมื่อคืนใครเห็นเทวดาสีเขียวมาทางนี้บ้าง ?” วาหว่าถาม
“ไม่ใช่เทวดา ผีพุ่งไต้ต่างหาก” พู่กลิ่นท้วง
“นั้นแหละ !” วาหว่าตัดบท
“เราเห็น” ฟ้าครามยกมือ
ฟองทะเลค่อย ๆ โผล่ศีรษะขึ้นพ้นน้ำ ไล่สายตามอง โคนขายาว ๆ กึ่งวิ่งกึ่งเดินสลับไปมาสามคู่ บางคนสวมกางเกงขายาวปิดตาตุ่ม บางคนสวมกางเกงขาสั้นยาวค่อนต้นขา บางคนสวมกระโปรง
ฟองทะเลหมอบคลานซ่อนตัวใกล้พงอ้อ แหวกหญ้า ลอบมองพู่กลิ่นสาวหน้าหวาน อายุมากกว่าเธอร่วมหนึ่งปี สวมกระโปรงสีครามทรงเอ เสื้อสีฟ้าอ่อนลายดอกมะลิ ฟ้าครามชายหนุ่มรุ่นเดียวกับพู่กลิ่น สวมกางเกงยีน เสื้อยืดสีขาว วาหว่าเด็กหนุ่มอายุเท่าเธอ เสียงแตกพาน ใบหน้ามีรอยยิ้มเสมอ สวมกางเกงขาสั้น เสื้อคอโปโลเก่าซีด
วาหว่าหยุดกึก กลับตัว ใบหน้าหลุกหลิก
“มีอะไรหรือ ?” พู่กลิ่นสงสัย
“มีคนตามมา” วาหว่ากระซิบ เขาชี้นิ้วยังพงอ้อ ฟ้าครามกวาดตามองจากซ้ายไปขวา ฟองทะเลหลบหน้า หมอบต่ำ ๆ คลานกระดืบเข้าไปหลบใต้โคนมะม่วงหิมพานต์ริมตลิ่งค่อย ๆ ยกหัวขึ้นช้า ๆ จับตามองไหลน้ำ
ไหลน้ำหนุ่มรุ่นตะกอเพิ่งผ่านพ้นวัยเด็กไปไม่นาน แต่งกายทะมัดทะแมง ชูรถบังคับคันใหม่โบกไปมา สายลมโชย ชายเสื้อเชิ้ตพลิ้ว เผยเสื้อกล้ามสีขาวด้านใน ตะโกนเสียงห้าว ๆ “ผมอยู่นี่ !”
ดอกหมากเด็กหนุ่มรุ่นคราวเดียวกันกับไหลน้ำสวมกางเกงขายาวถึงหน้าแข้ง ใส่เสื้อยืดตัวใหญ่หลวมโคร่งคร่าง บ่นอุบอิบ “ไม่น่าเจอกันเลย”
“ถ้าพวกเขาถาม เราบอกว่ามาเล่นรถบังคับกันนะ” ไหลน้ำหันหน้าทันควัน พูดออมเสียง
ทั้งสองคนเดินเข้าไปสมทบยกขบวนไปเบื้องหน้า
ฟองทะเลคลานออกมา ลุกขึ้นปัดสะโพกย่างเท้าตามเพื่อนห่าง ๆ พู่กลิ่นเหลียวหน้า ยิ้มฟันขาว ฟองทะเลยกมือขึ้นโบก พู่กลิ่นเหลียวกลับ บอกเพื่อน ๆ “ฟองตามมาแล้ว”
ฟ้าครามเอี้ยวตัวมอง ฟองทะเลกระโดดหลบ เขาเอี้ยวตัวกลับ เธอก้มหยิบมะม่วงหิมพานต์ บิดเมล็ด ขว้างเนื้อทิ้ง โยนเมล็ดย้อยไปข้างหน้า หล่นกลางกระหม่อมฟ้าคราม “โอ้ย !” เขาลูบศีรษะหันตัวมอง เธอแลบลิ้นใส่ ตะโกนถาม “มาหาอะไร ?”
“อย่าบอกเธอ” ไหลน้ำสะกิดฟ้าคราม
ฟ้าครามหยุดกึกอ้าปากค้าง
“เปล่า ! มาเล่นรถ” ดอกหมากตะโกนตอบทันควัน
“โกหก !” ฟองทะเลพูดเต็มเสียง
ฟ้าครามกำมือคลายนิ้วชี้ นิ้วแม่มือ ตั้งฉากกัน เหยียดแขน กระดกข้อมือ “ปัง ! ปัง !” ฟองทะเลล้มตัวลง พวกเขาสาวเท้าเร็วจี๋ เธอทอดสายตามอง จนบรรดาเพื่อน ๆ หายลับไปในสายตา เธอลุกขึ้น เดินทอดน่องตามหลัง
* * *
ไม่มีความเห็น