วันที่31 กรกฎาคม 2552 ชมรมจิตอาสารพ.พุทธชินราช ได้ไปศึกษาดูงานจิตอาสาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน แห่งประเทศไทย วัตถุประสงค์การดูงานครั้งนี้เพื่อให้สมาชิกจิตอาสาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานจิตอาสากับอาสาสมัครของโรงพยาบาลหรือหน่วยงานอื่นๆที่ทำงานจิตอาสา แล้วนำความรู้ที่ได้มาพัฒนางานจิตอาสาในโรงพยาบาลพุทธชินราช และเพื่อเสริมสร้างพลังการทำงานจิตอาสาให้กับสมาชิกจิตอาสา รวมทั้งเพื่อสร้างความสนิทสนม ความสามัคคีระหว่างสมาชิกจิตอาสาแต่ละแผนก และระหว่างเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่เป็นพี่เลี้ยงกับสมาชิกจิตอาสา มีผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ทั้งหมด 36 คน ประกอบด้วย สมาชิกจิตอาสาและเจ้าหน้าที่พยาบาลของศูนย์สุขภาพเมือง แผนกผู้ป่วยนอก หอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 1(ดูแลผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็ง) และศูนย์มิตรภาพบำบัดจิตอาสา
การศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นและเป็นอย่างดีจากทีมของรศ.ดร.พรรณวดี พุธวัฒนะ รองคณบดีฝ่ายสร้างเสริมสุขภาพและกิจการสังคม ที่รับผิดชอบงานจิตอาสา และจิตอาสาของโรงพยาบาลรามา
อ.พรรณวดี ได้เล่าถึงการดำเนินงานจิตอาสาในโรงพยาบาลรามาธิบดีว่า เริ่มเมื่อปี 2549 โดยคณะบริหารของโรงพยาบาลได้ไปศึกษาดูงานที่มูลนิธิพุทธฉือจี้ ที่ประเทศไต้หวัน และนำแนวความคิดมาดำเนินการจัดตั้งงานจิตอาสาในโรงพยาบาลรามาฯ กิจกรรมประกอบด้วย งานจิตอาสาช่วยเหลือผู้ป่วยที่มารับบริการในโรงพยาบาล หรือที่รู้จักกันในนาม Blue Angle โดยจิตอาสาจะเข้ามาช่วยทำบัตร วัดความดัน ให้คำแนะนำผู้ป่วย และนำพาผู้ป่วยไปตามแผนกต่างๆ งานผู้ป่วยอาสา เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เข้ามาช่วยให้กำลังใจ และให้คำปรึกษากับผู้ป่วยโรคเดียวกัน (เพื่อนช่วยเพื่อน) โดยเริ่มที่ชมรมผู้ป่วยไร้กล่องเสียง และขยายมาในกลุ่มชมรมผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม ชมรมเลิกบุหรี่ ฯลฯ งานนักดนตรีอาสา เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีใจรักเสียงดนตรี ได้เข้ามาขับกล่อมร้องเพลงให้ผู้ป่วยและญาติฟัง ขณะรอพบแพทย์ในช่วงพักเที่ยง การสมัครเข้ามาทำงานจิตอาสา ผู้ที่สนใจต้องมาติดต่อที่ศูนย์เสริมสร้างพลัง ของโรงพยาบาลรามา จิตอาสาจะได้รับเสื้อกักสีฟ้าใส่ปฏิบัติงานคนละ 1 ตัวพร้อมบัตรประจำตัว โดยมีกฎเกณฑ์ที่เหมือนกันคือ ทำงานจิตอาสาด้วยใจอาสา ห้ามแฝงเรื่องการขายของ ห้ามรับเงินหรือสิ่งของที่ผู้ป่วยและญาติหยิบยื่น ปัจจุบันโรงพยาบาลมีอาสาสมัครทั้งหมด 500 คน โดยหมุนเวียนกันมาทำงานวันละ 10 คน
ความสำเร็จของงาน คีอ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลให้การสนับสนุน อาสาสมัครที่มาทำงานด้วยใจ ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ที่ร่วมงานกับจิตอาสามีความพึงพอใจ ปัญหาอุปสรรค บางครั้งมีดาราหรือผู้มีชื่อเสียงมาสมัครมาสมัครเป็นจิตอาสาเป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความแตกตื่นให้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ผู่ป่วยและญาติเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นคุณรัชนี คุณนันทา และคุณสุนทรีตัวแทนจิตอาสา ได้มาเล่าถึงเหตุจูงใจของการมาเป็นจิตอาสา และสิ่งที่ได้รับจากการมาทำงานจิตอาสา
คุญสุนทรี เป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลรามา ปัจจุบันเกษียณแล้วได้เล่าว่า "เริ่มทำงานจิตอาสากับอ.พรรณวดีมาตั้งแต่เป็นพยาบาลอยู่แผนกหู คอ จมูก ทำชมรมคนไร้กล่องเสียง มีความสุขมากที่ได้มาทำงานนี้ พอเกษียณจึงขอมาช่วยต่อ"
คุณนันทา เป็นข้าราชการครู "เริ่มสนใจงานจิตอาสาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนป่วยเป็นมะเร็งเต้านมมารักษาที่โรงพยาบาลรามา เคยได้รับกำลังใจจากเพื่อนร่วมโรคเดียวกัน รู้สึกดี พอรักษาหายอยากมาช่วยเพื่อนโรคเดียวกันบ้าง ปัจจุบันยังทำงานอยู่แต่จะแบ่งเวลามาทำงานจิตอาสาสัปดาห์ละ1ครั้ง รู้สึกดีใจและภูมิใจที่มาเป็นจิตอาสา"
คุณสุนทรี ทำธุรกิจขายหนังสือ "เริ่มสนใจงานจิตอาสา เมื่อครั้งพาคุณแม่มารักษาที่โรงพยาบาล เห็นจิตอาสามาช่วยผู้ป่วย รู้สึกประทับใจ อยากเป็นบ้างเลยมาสมัคร ตอนแรกที่บ้านถามว่าจะทำได้หรือ เพราะตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้อน พอทำได้ระยะหนึ่งรู้สึกชอบ และรู้สึกอารมณ์ตัวเองเย็นขึ้น เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น จะมาช่วยโรงพยาบาลทุกวัน หลังทำงานส่งหนังสือพิมพ์ตามบ้านเสร็จแล้ว"
หลังจากนั้นคุณบ๋วย น้องปู และจิตอาสาได้พาคณะดูงานไปดูการทำงานของจิตอาสาแต่ละแผนก วันนั้นมีคุณธวัชชัย(บิ๊กหอย) มาร่วมเป็นจิตอาสาร้องเพลงให้ผู้ป่วยให้ญาติฟัง จิตอาสาของเรายังร่วมร้องเพลงกับคุณธวัชชัย(บิ๊กหอย)ด้วย..... ตื่นเต้นและปลื้มเป็นสุดๆ ทีมดูงานได้มอบของที่ระลึกเป็นพระพุทธชินราชแก่รศ.ดร.พรรณวดี พุธวัฒนะ และคณะโรงพยาบาลรามาด้วย
เจี้ยบได้ร้องเพลงกับบิ๊กหอยรึเปล่า
หากทุกคนคิดเอาความไม่เห็นแก่ตัวเป็นที่ตั้ง เราก็จะให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ตรงนี้นี้แหละสุขที่สุด