ทุกคนคงเคยได้ยิน กฎ 80/20 มาบ้าง(Pareto law) ที่มาจากนักเศรษฐศาสตร์ ชาวอิตาลี (Vilfredo Pareto) พบว่า สิ่งที่สำคัญ 20 เปอร์เซ็นต์ แรก มักมีคุณค่าคิดเป็นผลรวม 80 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด สินค้า20 เปอร์เซ็นต์ แรก มียอดขาย 80เปอร์เซ็นต์ ทำให้ร้านค้าที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ร้านหนังสือ จะมีพื้นที่ ให้วางหน้าร้าน เห็นหน้าปกเฉพาะหนังสือใหม่ และหนังสือขายดี ติดอันดับ ต้นๆ ถ้าคุณติดอันดับหนังสือขายดี ยอดขายหนังสือคุณจะ ทวีคูณไป แต่ถ้าไม่ติดอันดับ หนังสือคุณจะหลุดจากชั้นโชว์หนังสือภายในไม่กี่วัน ทำให้เกิดวัฒนธรรม ซีเอ็ดขึ้น คนมาซื้อที่เวลาน้อยจะดูรายชื่อที่อันดับหนังสือขายดีอย่างเดียว เพราะกลัวไม่ in trend คนเขียนหนังสือหรือสำนักพิมพ์พยายามโปรโมต ให้ติดอันดับในช่วงแรกให้ได้ ร้านหนังสือทุกร้านจะมีอันดับหนังสือขายดีของร้าน เพื่อกระตุ้นยอดขาย และอันดับหนังสือขายดี ซึ่งเดิมส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือคอมพิวเตอร์ ทำให้ร้านบางร้านแยกหมวดหนังสือเป็น 2 หมวด ทำให้กระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้น แต่ช่วงนี้หนังสือขายดีอาจมีแต่หมวดตาทิพย์ เห็นกรรม กันทั้งแผง
การที่หนังสือดี ๆ หรือหนังสือบางหมวด ไม่มีพื้นที่ในร้านหนังสือ ทำให้เกิดร้านหนังสือทางเลือก ซึ่งยังเสี่ยงอยู่เหมือนกัน เลยเป็นเวทีของ ร้านค้าอินเทอร์เน็ต ที่การขายของผ่านอินเทอร์เน็ต ที่สินค้าเฉพาะกลุ่มหรือหนังสือที่ไม่ยอดนิยม เป็นกุญแจสำคัญของธุรกิจออนไลน์ เนื่องจากพื้นที่สินค้าที่เพิ่มแทบไม่มีค่าใช้จ่ายใดแต่ยังมีผู้ต้องการสินค้าเหล่านี้ซึ่งไม่ใช่สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ เช่นใน amazon.com ยอดขายหนังสือทางเลือกรวมไม่แพ้หนังสือยอดนิยม
คล้ายกับการทำงานสาธารณสุข ที่มุ่งตอบสนองต่อคนส่วนมาก 80 เปอร์เซ็นต์ แรก จะทำอย่างไรที่เราจะเปิดพื้นที่ เพิ่มการเข้าถึง เปิดช่องทางให้กับ กลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคม เช่นคนพิการ ชนกลุ่มน้อย การพัฒนา primary care อาจร่วมเป็นคำตอบหนึ่ง ในหลายวิธี
จากหนังสือ The Long Tail ( Chris Anderson)
เข้ามาให้กำลังใจ เห็นด้วยครับบบบบบ