จิตที่ปราศจากการฝึกฝน

 

 

 

จิตที่ปราศจากการฝึกฝน

ก็ไม่ต่างจากมีดที่ไม่ลับคม

จะแผ้วถางรกถางพงให้เห็นทางสว่างก็ช่างยากเหลือเกิน

จะตัดต้นไม้สักต้นที่ทำให้เกิดเงามืดตลอดเวลาก็ทำไม่ได้

จะนำมาใช้หั่นผัก ผลไม้ ก็ทำให้สิ่งเหล่านั้นไม่น่าดู

. .. ...  .... ..... ..... .... ... .. .

เฉกเช่น ถ้าต้องฟาดฟันกับกิเลส

ทั้งๆที่มีจิตอยู่กับตัว

แต่ก็ไม่เคยตัดกิเลสให้ขาดได้

เพราะเครื่องมือไม่พร้อมใช้งาน

เห็นควรที่เราควรจะฝึกฝนจิตอยู่เป็นประจำวัน

ลับมีดให้คมอยู่เสมอ

จะได้พ้นจากภาวะตัดเท่าไรก็ตัดไม่ขาด

 

.......

รจนา โดย พรพล

 

 

 

 

[นาย เพชร พรหมสูตร์]

ครับ

[Sila Phu-Chaya]

• ดีใจที่ได้แวะมาอ่านค่ะ อ่านเสร็จที่ทื่อ ๆ อยู่บ้างก็คมขึ้นมานิดหนึ่งค่ะ
• ยอมรับว่าไม่ง่ายเลยค่ะ...การเรียนรู้จักรวาลภายในตนเอง
• วันนี้ มีโอกาสไปช่วยสะท้อนลักษณ์น้องคนหนึ่ง...หลังทำให้เขาค้นพบตัวเองแล้ว (รู้ทุกข์จากการพบลักษณ์) ก็ได้แนะนำให้ฟังเทปหลวงพ่อปราโมทย์ค่ะ พี่ศิลา write แจกไปทั่ว ยังมีเหลือพอดี ก็เลยให้น้องเขาไปฟัง
• รู้สึกว่าเส้นทางนี้ มีกัลยาณมิตรร่วมทางมากมายแล้วนะคะ อบอุ่นใจมากเลยค่ะ
• ขอบพระคุณค่ะ

[ธรรมฐิต]

เราก็ต้องฝึกฝนกันต่อไปขอรับ..

[นาย samsun a sammyishappy]

สาธุครับ

[Sila Phu-Chaya]

·     ศิลาขออนุญาตตามมาตอบเรื่อง Enneagram ในบันทึกนี้เลยนะคะ

·     คำถามแรก ที่ถามพี่ศิลาว่าคุณ Phornphon เป็นลักษณ์อะไรนั้น  เป็นจรรยาบรรณของผู้ที่เรียนรู้เรื่องนี้มาก่อนว่าไม่ให้ตัดสินว่าผู้อื่นเป็นลักษณ์อะไรค่ะ แต่สามารถทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนตัวตนของผู้สนใจได้ค่ะ ซึ่งเรียกว่าการสัมภาษณ์ลักษณ์ (Typing Interview)

·     สำหรับแบบทดสอบให้เราตอบแล้วประมวลผลว่าเป็นลักษณ์อะไรเรียงตามลำดับนั้น พี่ศิลามองว่า Enneagram เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและลึกซึ้งมากโดยตัวของตัวเอง  ดังนั้นจึงมีผู้ออกแบบทดสอบด้วยวิธีหลากหลาย และมีการเชื่อมโยงเรื่องนี้กับการบริหารองค์กร จิตวิทยา และมีลักษณะของความเป็นสากล  สรุปได้ว่าแบบทดสอบนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อสันนิษฐานว่าเราเป็นลักษณ์อะไร ซึ่งจะถูกหรือไม่อยู่ที่ตัวเราตอบโดยแยกระหว่างสิ่งที่เราอยากเป็นกับเป็นจริง ๆ ได้หรือไม่  ...บางทีเราไม่ได้หลอกตัวเอง เราคิดว่าเราซื่อตรงต่อตัวเองแล้ว แต่การที่เราไม่ได้สังเกตตัวเองอย่างละเอียดมาก่อน  คำตอบในแบบสอบถามจึงอาจไม่ใช่ข้อยืนยันทึ่กถูกต้องก็ได้ค่ะ

·     ทีนี้ กลับมาที่แนวการศึกษาของตัวพี่ศิลาเองนะคะ พี่ศิลาได้รับการอบรมจากพระอาจารย์สันติกโร (ปัจจุบันท่านสึกแล้วเป็นอาจารย์อยู่ที่ USA) ท่านนำ Enneagram มาอธิบายเพื่อการรู้กิเลส (ทุกข์)  และนำมาซึ่งการละ… ทุกครั้งที่มีการอบรม จะมีการนั่งสมาธิ และการใช้เวลาสังเกตตนเอง แม้ท่านไม่ได้สอนรายละเอียดเกี่ยวกับการดูจิตโดยตรงเหมือนหลวงพ่อปราโมทย์  แต่พี่ศิลาก็ได้รู้วิธีเรียนตัวเองจากการสังเกตภายในจากอาจารย์สันติกโร นำมาช่วยในการปฏิบัติเกี่ยวกับดูจิตตามแนวหลวงพ่อปราโมทย์ค่ะ

·     ปัจจุบันนี้ ลูกศิษย์ของอาจารย์สันติกโรเป็นวิทยากรในวงการต่าง ๆ มากมาย บางท่านเป็นจิตแพทย์ บางท่านเป็นนักวิชาการ เป็นอาจารย์ เป็นนักจิตวิทยา หรือออกไปตั้งบริษัทฝึกอบรม ต่างเผยแพร่เรื่อง Enneagram เชื่อมโยงกับพื้นความรู้ วิชาชีพ หรือแนวทางที่ตนถนัด

·     ส่วนพี่ศิลาคิดริเริ่มเองที่จะนำ Enneagram มาเป็นพื้นฐานในการรู้ทุกข์ทางโลก จากนั้น นำเรื่องสร้างธรรมในใจ โดยเน้นเรื่องการดูจิตของหลวงพ่อปราโมทย์มาเป็นแนวทางในการแก้ทุกข์  ซึ่งทุกครั้งหลังการจัดอบรมหรือสัมภาษณ์ลักษณ์ พี่ศิลาจะแจกซีดีที่โหลดและ write ของหลวงพ่อปราโมทย์ให้กับกัลยาณมิตรที่สนใจ

·     เขียนยาวเกินไป ต้องขออภัยด้วยค่ะ ... ขอต่ออีกนิดค่ะ

·     สิ่งที่จะทดสอบว่าตนเป็นลักษณ์ไหนคือ "การสังเกตตนเอง" โดยเรียนรู้วิธีการสังเกตตัวเอง จากการเข้าอบรมหรือถูกสัมภาษณ์ลักษณ์ (Typing Interview) โดยผู้ที่รู้มาก่อน

·     จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พี่ศิลาสัมภาษณ์ลักษณ์ทุกคนแล้ว พวกเขาจะรู้ลักษณ์ตนเองในที่สุดเพราะได้หลักในการสังเกตตนเองไปใช้ค่ะ

·     พี่ศิลาสัมภาษณ์ลักษณ์โดยไม่เคยคิดค่าใช้จ่ายนะคะ ทำเป็นวิทยาทานแล้วยังแจกซีดีด้วย เผื่อจะสนใจ (มีโฆษณาเล็กน้อย)

·     หลังจากผ่านกระบวนการรู้ลักษณ์แล้ว ยังมีบันไดในการพัฒนาตนเองอีก...เรื่องนี้ยาวมาก...หากรู้เรื่องนี้อย่างลึกซึ้งแล้ว จะเป็นพื้นฐานในการดูจิตได้อีกด้วยค่ะ

·     ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมก้นค่ะ  ดีใจมากค่ะที่มีคนสนใจหลายท่านแล้ว แต่พี่ตอบคุณ Phornphon ยาวเป็นพิเศษ เพราะเห็นว่าสนใจการวิปัสสนาการดูจิตเหมือนกันค่ะ จะทำให้มองเห็นเช่นเดียวกับที่พี่ศิลามองเห็นค่ะ