แนวคิดพื้นฐานเรื่องของบุคคลผ่านตำรากฎหมายเรื่องบุคคลในยุคต่างๆ


ในการจัดกระบวนความรู้ในการศึกษาเรื่อง แนวคิดพื้นฐานทางกฎหมายในการจัดการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ประเด็นแรกของการศึกษาที่ต้องลงไปค้นแนวคิดก็คือ เรื่องของ การจัดสรรเอกชนในทางระหว่างประเทศ ต่างประเทศ และ ภายในประเทศไทย

จุดตั้งต้นของเรื่อง ได้ลงไปค้นแนวคิดพื้นฐานของ "บุคคล"

ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยโรมัน ได้อ่านตำราของอาจารย์ประชุม โฉมฉาย กล่าวว่า " สถานภาพทางกฎหมายของคนในสมัยโรมันย่อมขึ้นอยู่กับสถานภาพของเขาในสังคมและครอบครัว เพื่อจะได้เป็นบุคคลโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย บุคคลสมบูรณ์แบบในสมัยโรมันตามกฎหมายโรมันนั้เนจะต้องประกอบด้วย ๓ ส่วน (tria capita) คือ (๑) เสรีภาพ (Libertas) คือ การไม่เป็นทาส (๒) ความเป็นราษฎรโรมัน (Civitas) คือไม่ใช่คนต่างด้าว และ (๓) การมีครอบครัว (Familia) คือเป็นสมาชิกของครอบครัวในโรมัน การสูญเสียองค์ประกอบอันใดอันหนึ่งหรือทั้งหมดเป็นการสูญเสียสถานะ (Capitis  deminutio) การสูญเสียสถานะสูงสุดก็คือ การสูญเสียเสรีภาพ เพราะหมายถึงการสูญเสียความเป็นราษฎรและครอบครัว ยังมีการเปลี่ยนสถานะปานกลาง หมายถึง การสูญเสียความเป็นราษฎร แต่ไม่สูญเสียเสรีภาพ โดยปกติแล้ว การสูญเสียความเป็นราษฎร หมายถึง การสูญเสียครอบครัวด้วย

สภาพบุคคลในกฎหมายโรมันนั้น ถือว่า มนุษย์ทุกคนไม่ถือว่าเป็นบุคคลตามกฎหมาย (Persona) เสมอไป เพราะตามทัศนะบุคคลนั้นต้องสามารถมีสิทธิและพันธกรณี และ สามารถมีบทบาทในชีวิตทางกฎหมายได้ ในยุคทองของกฎหมายโรมัน กฎหมายได้มอบความสามารถให้กับนิติบุคคลซึ่งเป็นคณะหรือชุมชน เช่น นคร บริษัท ซึ่งสามารถมิสิทธิบางอย่างตามกฎหมายได้

กฎหมายบุคคลโรมัน ให้ความหมายของบุคคลอย่างกว้างว่าหมายถึง "มนุษย์" ทั้งหมด อาจารย์ประชุมได้ให้ความเห็นว่า เพราะคนโรมันมิได้มองบุคคลใน "สภาวะหยุดนิ่ง" (static) แต่มองในลักษณะของ "พลวัตร" (dynamic) ตลอดเวลา

ในสมัยโรมัน ได้มีการจำแนกบุคคลระหว่าง "คนชาติ" (National) ซึ่งหมายถึง บุคคลที่มีเชื้อสายโรมัน ในสมัยนี้ใช้หลักสืบสายโลหิต (Jus Sanguinis) เป็นส่งผูกพันกับคนชาติเป็นสำคัญ กับ "คนต่างด้าว" (Alien) สำหรับบุคคลที่ไม่ใช่คนชาติ และ ไม่เป็นคนต่างด้าว บุคคลนั้น ตกอยู่ในสถานะคนไร้สัญชาติ (Stateless person)

ทางด้านอาจารย์ ประสิทธิ์ โฆวิไลกูล  ได้ให้คำอธิบายความหมายของคำว่า บุคคล ว่า ตามสภาพธรรมชาติและตามความหมายของธรรมชาติวิทยา ย่อมหมายถึง คน หรือ มนุษย์  โดยปกติทั่วไปหมายถึง ส่งมีชีวิตซึ่งเกิดจากการปฏิสนธิของมนุษย์เพศชายและหญิง

ตามหลักกฎหมายคอมมอนลอว์ หรือ หลักกฎหมายอังกฤษ ดั้งเดิมนั้น ถือว่า พลเมือง (Citizen) ทกุคนเป็น "บุคคล"  (Person) และมีสถานภาพเป็นบุคคลตามกฎหมาย แต่คนบางคนอาจไม่เป็นพลเมือง และ คนบางคนอาจไม่มีสถานะเป็นพลเมือง เพราะไม่อาจมีสิทธิตามกฎหมาย เช่น พวกทาส

ในยุคต่อมาเมื่อสังคมมีความเจริญขึ้น กฎหมายให้การยอมรับสถานะทางกฎหมายของกลุ่มบุคคล ที่เรียกว่า "นิติบุคคล"

จึงกล่าวได้ว่า "บุคคล" ในปัจจุบันแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ บุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล หลังจากที่เป็นบุคคลแล้วย่อมมีสิทธิ และ หน้าที่ตามกฎหมายติดมาด้วย ดังที่ ศ.ฮอล์แลนด์ กล่าวว่า การทรงไว้ซึ่งสิทธิย่อมเป็นสิ่งที่ติดกับบุคล และ บุคคลก็ต้องควรอยู่ภายใต้หน้าที่ต่างๆด้วย

ในทางกฎหมายไทยนั้น ได้กำหนดการเริ่มต้นและสิ้นสุดของสภาพบุคคลไว้ใน มาตรา ๑๕ ประมวลบกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่า ความเป็นสภาพบุคคลเริ่มต้นเมื่อ "คลอดและอยู่รอดเป็นทารก" สิ้นสุดลงเมื่อ "ตาย"

นั่นเรากำลังกล่าวถึง บุคคลธรรมดาที่เป็นบุคคลจริงๆ ตามนัยของธรรมชาติวิทยา ปัญหาที่สงสัยก็คือ บุคคลเสมือนจริง เป็นบุคคลหรือไม่

หากเป็นบุคคล สภาพบุคคลจะเร่มต้นเมื่อไหร่ ??? และ สิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ???

ยังมีปัญหาเรื่องสัญชาติ

เพราะเมื่อเป็นบุคคล ย่อมต้องถูกกำหนดสัญชาติ การจัดสรรเอกชนโดยสัญชาติบุคคลเสมือนจริงทำอย่างไร???

หมายเลขบันทึก: 281152เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2009 09:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 15:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อย่าติงว่า ในสมัยกรีกโรมัน ไม่มีแนวคิดของ "สัญชาติ (nationality)"

การปกครองเป็นเรื่องของ city state มิใช่ nation state

ความเป็นราษฎร (civilian) ปรากฏ

แต่การเป็นคนชาติ (nation) ไม่น่าปรากฏ

ความเป็นต่างด้าว (alien or etranger or stranger or foreigner) ปรากฏ แต่ไม่มีความหมายดังที่เป็นอยู่ในยุคนี้ที่มี nation state แล้ว 

คนต่างด้าวในยุคกรีกโรมัน ก็คือ คนนอกรัฐเมือง มิใช่คนนอกรัฐชาติ

คนต่างด้าวในโรม แปลว่า คนที่ไม่มีภูมิลำเนาในโรม มิใช่คนที่ไม่มีสัญชาติโรมัน เพราะโรมมิใช่รัฐชาติ โรมเป็นแค่รัฐเมือง

โต้แย้งการใช้แนวคิดของรัฐสมัยใหม่ (Modern State) ไปอธิบายรัฐในสมัยโบราณ (Ancient State) ไม่น่าถูกต้อง

และอยากจะท้าทายว่า Virtual State or E-State อาจมี แต่ไม่มีความสามารถที่จะแสดงอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนและประชากร  ในวันนี้ รัฐชาติยังคิดวิธีการแสดงอำนาจอธิปไตยใน e-society ไม่ได้เลย

อย่าติงว่า ในสมัยกรีกโรมัน ไม่มีแนวคิดของ "สัญชาติ (nationality)"

การปกครองเป็นเรื่องของ city state มิใช่ nation state

ความเป็นราษฎร (civilian) ปรากฏ

แต่การเป็นคนชาติ (nation) ไม่น่าปรากฏ

ความเป็นต่างด้าว (alien or etranger or stranger or foreigner) ปรากฏ แต่ไม่มีความหมายดังที่เป็นอยู่ในยุคนี้ที่มี nation state แล้ว 

คนต่างด้าวในยุคกรีกโรมัน ก็คือ คนนอกรัฐเมือง มิใช่คนนอกรัฐชาติ

คนต่างด้าวในโรม แปลว่า คนที่ไม่มีภูมิลำเนาในโรม มิใช่คนที่ไม่มีสัญชาติโรมัน เพราะโรมมิใช่รัฐชาติ โรมเป็นแค่รัฐเมือง

โต้แย้งการใช้แนวคิดของรัฐสมัยใหม่ (Modern State) ไปอธิบายรัฐในสมัยโบราณ (Ancient State) ไม่น่าถูกต้อง

และอยากจะท้าทายว่า Virtual State or E-State อาจมี แต่ไม่มีความสามารถที่จะแสดงอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนและประชากร  ในวันนี้ รัฐชาติยังคิดวิธีการแสดงอำนาจอธิปไตยใน e-society ไม่ได้เลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท