หางาน สัมภาษ์งาน - ตอน2


เตรียมตัวให้พร้อม

เมื่อกรอกใบสมัครและทำข้อสอบเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาสัมภาษณ์ ก่อนไปก็หาข้อมูลไปคร่าวว่าบริษัทเขาทำอะไร ไม่ต้องละเอียดมากแค่พอรู้ก็ยังดี เคยมีคนมาสัมภาษณ์แล้วโดนถามว่ารู้มั้ยว่าที่นี่ทำอะไร เขาตอบว่าไม่รู้ คนถามก็อาจจะรูสึกแย่นิดๆนะ จะมาทำงานกับเขายังไม่รู้เลยว่าเขาทำอะไร

 

โดยทั่วๆไปการสัมภาษณ์เขาก็จะเริ่มถามเราก่อน แต่ก็มีเหมือนกันที่เริ่มต้นด้วยการให้เราถามว่า เราอยากรู้อะไรจากบริษัทเขาบ้าง ถ้าแบบนี้อยากรู้อะไรก็ถามเลย เรื่องตำแหน่งงานที่สมัคร ลักษณะงานที่จะต้องทำ หน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ หรือคุณสมบัติของคนที่เขาต้องการ และอื่นที่เราอยากรู้ การสัมภาษณ์ส่วนมากเขาจะเริ่มต้นแนะนำตัวก่อน เราก็จะได้รู้ว่าเขาเป็นใคร เป็นฝ่ายบุคคล หรือแผนกที่เราสมัคร จากนั้นก็จะให้เราแนะนำตัวเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็แล้วแต่ผู้สัมภาษณ์ ถ้าผู้สัมภาษณ์เป็นชาวต่างชาติก็แน่นอนว่าต้องเป็นภาษาอังกฤษ รวมทั้งการสัมภาษณ์ด้วย แต่อาจมีฝ่ายบุคคลคอยช่วยเราแปลในกรณีที่สื่อสารกันไม่เข้าใจเล็กๆน้อย แต่ถ้าไม่สามารถสื่อสารกันได้เลย ก็ต้องเข้าใจนะว่าเราอาจจะไม่เหมาะกับตำแหน่งนั้นแล้วแหละ

 

อันนี้ถ้าว่างๆก็ลองคิดว่าจะบอกอะไรเขาบ้าง ทั่วๆไปก็บอกชื่อ อายุ จบการศึกษาที่ไหน เอกอะไร เป็นต้น ถ้ามีความสารถอะไรจะบอกเขาก็บอกตอนนี้ ได้แต่ไม่ต้องเยอะ ถ้าเขาอยากรู้เดี๋ยวเขาก็ถามเอง สำหรับคำถามบางที ก็เป็นเรื่องทั่วไป เขาอยากดูทัศนะคติของเราต่อสิ่งต่างๆที่เราตอบมา เพราะการทำงานสำหรับคนที่ยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน เรื่องงานสามารถเรียนรู้และสอนกันได้ แต่ทัศนคติมันเปลี่ยนค่อนข้างยากและใช้เวลานาน จากนั้นอาจจะถามว่าเราชอบงานลักษณะไหน เพราะงานบางอย่างอาจต้องการคนที่มีลักษณะพิเศษกว่าคนอื่น

 

เคยมีเพื่อนไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งวิศวกรฝ่ายเทคนิคและบริการลูกค้า พอเข้าไปสัมภาษณ์คนสัมภาษณ์ก็พูดเสียงดัง แบบกำลังโมโห แถมยังถามคำถามกวนๆอีกต่างหาก เพื่อนเราก็งงไป แต่ก็พยายามตอบคำถามเขา สักพักเขาก็กลับมาเป็นปกติ แล้วบอกว่านี่แหละเป็นสิ่งที่คุณอาจจะต้องเจอ ถ้าคุณทำงานตำแหน่งที่ว่านี้ ลักษณะของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะต้องการความสงบ เรียบง่าย ไม่ชอบที่จะต้องไปพบปะผู้คนแปลกหน้า ก็อาจจะไม่เหมาะกับงานทางด้านการขาย หรือฝ่ายบริการลูกค้าต่างๆ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจก็ลองก่อน เพราะถ้าเขาเลือกเราแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็เวลาดูกันทั้งสองฝ่าย

 

ในช่วงการทดลองงาน ถ้าคิดว่าไม่ใช่ก็ต้องหางานใหม่ต่อไป คำถามอื่นๆก็อาจะเป็นประสบการณ์ต่าง ถ้าจบใหม่ก็อาจเป็นเรื่องวิทยานิพนธ์ที่ทำ ถ้าถามว่าทำอะไรบ้างแล้วยังตอบไม่ได้ก็แย่หน่อย เพราะเพิ่งจะจบมายังไม่รู้เลยว่าทำอะไรลงไป แต่ถ้าทำงานแล้วก็อาจจะเป็นเรื่องงานที่ทำอยู่ ว่าทำอะไรบ้าง  ข้อสำคัญ ส่วนมากชอบถามว่า ทำไมถึงออกจากที่เก่า ถ้าตอบว่าเข้ากับหัวหน้าไม่ได้ หรือหัวหน้าเดิมไม่ดีอย่างโน่น อย่างนี้ เขาก็อาจจะคิดว่าแล้วถ้ามาอยู่ที่เราจะเข้ากับเขาได้ไหม หรือจะเอาเขามาว่าให้คนอื่นฟังไหมเนี๊ยะ เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่า มีคนหนึ่งมาสัมภาษณ์งาน คุณสมบัติตรงตามที่เขาต้องการทุกอย่าง เขาชวนคนที่มาสัมภาษณ์คุยไปเรื่อยๆ จนรู้สึกผ่อนคลาย และเป็นกันเอง จนเกือบจะสัมภาษณ์เสร็จแล้ว เขาก็ถามว่าทำไมถึงอยากออกจากที่เก่า เขาก็ตอบว่า ไม่ชอบหัวหน้า เขาเสนออะไรไป หรือทำงานอะไรไปไม่เคยไปถึงหัวหน้าใหญ่ หัวหน้าเขาเอาความดีไปหมด แล้วพอถามว่า แล้วเขาทำอย่างไร เขาก็บอกว่า พอหัวหน้าของเขาทำงานผิดพลาด  เขาเลยเอาเรื่องไปฟ้องหัวหน้าใหญ่ เรื่องของเขาเป็นไงต่อเราไม่รู้ แต่คนที่สัมภาษณ์เขาก็บอกว่า ถึงคุณสมบัติของเขาจะตรงตามที่ต้องการทุกอย่าง แต่ก็ไม่รับเขาเข้าทำงาน กลัวโดนฟ้องบ้างอ่ะ เรื่องจริงพวกนี้บางทีก็เป็นดาบสองคมนะ ถ้าเลี่ยงที่จะไม่พูดได้ หรือพูดเรื่องอื่นได้ก็จะดีกว่านะ

 

ถึงหัวหน้าอาจจะทำเรื่องนั้นจริงๆ แต่การที่เราเอาเรื่องไปฟ้องมันก็ไม่รู้ถูกหรือเปล่านะ อย่างที่ว่า การสัมภาษณ์แค่ชั่วโมงเดียวมันไม่ได้ทำให้เรารู้อะไรได้หมด แต่เราก็ต้องตัดสินใจจากสิ่งที่เราได้จากเวลาช่วงนี้แหละ คำถามอื่นๆ ก็เหมือนที่มีในหนังสือสมัครงานทั่วไป จุดอ่อน จุดแข็ง ทำไมถึงมาสมัครบริษัทนี้ มีความสมารถอะไรที่จะทำให้บริษัทได้บ้าง อีกเรื่องที่สำคัญก็คือ เรื่องเชื่อชาติ การเมือง ถ้าไม่จำเป้ก็ไม่ต้องพูดถึง รอให้ได้งานก่อน มีคนหนึ่งบอกว่าอยู่บริษัทที่เจ้าของเป็นคนประเทศหนึ่ง และไม่ดีอย่างโน่นไม่ดีอย่างนี้ จะแน่ใจได้ไงเขาไม่ได้เป็นคนประเทศนั้น (กรณีที่ดูจากหน้าตาไม่ออก)

 

ส่วนมากถ้าสัมภาษณ์จบแล้ว เขาจะถามว่ามีอะไรจะถามไหม ถ้ามีอะไรก็ถามไปเถอะ นอกจากว่าในการสัมภาษณ์ถามไปเยอะแล้วก็ไม่เป็นไร เสร็จแล้วก็กล่าวคำขอบคุณ จากนั้นก็กลับบ้านรอผลการสัมภาษณ์ ส่วนน้อยนะที่จะแจ้งผลให้ทราบเลย ยังไงเขาคงต้องไปปรึกษากันก่อน


การแจ้งผลการสัมภาษณ์ ส่วนมากบอกว่าจะแจ้งให้ทราบภายหลัง ภายในอาทิตย์สองอาทิตย์ แต่เท่าที่เราสัมภาษณ์มา ไม่เคยมีบริษัทไหนโทรมาบอกเราเลยว่าไม่ได้งาน นอกจากบริษัทที่เป็นพวกจัดหางานนะ ปล่อยให้รอไปเรื่อยๆจนรู้เอง...ว่าเงียบๆแบบนี่ไม่ได้แล้วแหละ เพราะถ้าเขาเลือกเรานะ ภายในอาทิตย์ หรืออย่างมากก็สองอาทิตย์เท่านั้นแหละโทรมาตามให้ไปสัมภาษณ์รอบสองหรือไม่ก็ไปตรวจสุขภาพ แล้วก็เซ็นสัญญาจ้างงาน ของเราออกจากบริษัทเขายังไม่ทันถึงบ้านเลย โทรมาแล้ว เพราะเขาเองถ้าเจอคนที่คิดว่าใช่ก็ต้องรีบคว้าตัวเอาไว้เหมือนกัน ไม่งั้นเดี๋ยวเราไปได้ที่อื่นก่อนก็ต้องหากันไปเรื่อยไม่จบสักที

 

หางาน สมัครงาน สัมภาษณ์งาน เหนื่อยนะ แต่เวลาทำงานเหนื่อยกว่าอีก แต่ยังไงเราก็ต้องทำงาน ทำงานได้เงิน อยู่เฉยๆก็ไม่มีเงินใช้ (หมายถึงเรานะ) ยังไงคนที่จบใหม่ ยังไม่ได้งาน หรือคนที่กำลังจะหางานใหม่

...........................ก็สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ / จากคนทำงาน.................................

 

 

คำสำคัญ (Tags): #หางาน
หมายเลขบันทึก: 279855เขียนเมื่อ 24 กรกฎาคม 2009 21:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท