ในแต่ละสัปดาห์ นอกเหนือจากการฝึกท่าการออกกำลังกายต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่เรียนรู้ร่วมด้วยเสมอก็คือ ความรู้เรื่องของอาหาร ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็จะเน้นที่อาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น การดื่มนมสด นมเปรี้ยว หรือโยเกิร์ต และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม อย่างน้อยวันละ 1 แก้ว มีข้อแนะนำว่าควรดื่มนมจืดและพร่องมันเนยเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักเกิน กรณีบางท่านมีปัญหาท้องเสียจากการดื่มนมสด อาจเปลี่ยนมาดื่มนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ร่วมกับการรับประทานอาหารพวก ปลาตัวเล็กตัวน้อย (ที่รับประทานทั้งตัว) ถั่วต่าง ๆ รวมทั้งผักใบเขียวเข้ม เพื่อให้ได้แคลเซียมอย่างพอเพียง
การที่เน้นอาหารที่มีแคลเซียมสูงเนื่องจากผู้สูงอายุมักมีปัญหาเรื่องโรคกระดูกพรุน (เพราะขาดแคลเซี่ยม) การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง บวกกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูกได้
อาหารอีกกลุ่มที่มีความสำคัญต่อผู้สูงวัยก็คือ อาหารที่มีเส้นใยสูง การรับประทานอาหารเส้นใยสูงเป็นประจำทุกวัน จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และลดอาการท้องผูก อาหารเส้นใยสูงที่เรารู้จักกันดีก็คือ ผักและผลไม้ชนิดต่าง ๆ รวมทั้ง ข้าวกล้อง เมล็ดถั่วต่าง ๆ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นเมื่อรับประทานอาหารเส้นใยสูง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เรื่องที่มีการแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้สูงอายุในการเดินออกกำลังด้วย ก็คือ ท่าของการเดินที่ถูกต้อง โดยการเดินตัวตรง มีการแกว่งแขนตามธรรมชาติ รวมทั้งการเลือกสรวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมอีกด้วย
ท่าทางการยืนเดินที่ถูกต้อง ขึ้นอยู่กับการใส่รองเท้าที่เหมาะสมและขึ้นอยู่กับการยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ ท่วงท่าที่ถูกต้อง ทำให้การเดินและการทำงานต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ป้องกันการบาดเจ็บและทำให้บุคลิกดูดี
อย่าให้สภาพอากาศเป็นปัญหาในการเดินออกกำลัง หาวิธีเดินในสถานที่เหมาะสม เช่นในวันที่ร้อน ฝนตกหรือหนาวเย็น พิจารณาเดินในตัวอาคาร เดินในสวนสาธารณะหรือกลางแจ้งในวันที่อากาศแจ่มใส และควรมีน้ำติดตัวไปด้วย พร้อมดื่มเพื่อทดแทนการเสียเหงื่อ มีแผนการดื่มน้ำให้พอเพียง การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะลดอาการท้องผูก ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยให้หลับง่าย
ผู้สูงอายุ ต้องรับประทาอาหารบำรุงกระดูกและอาหารเส้นใยสูงทุก ๆ วันนะครับ….
ขอบคุณสำหรับความรู้ มีประโยชน์มากๆ