ผมค้นพบความจริงเกี่ยวกับชีวิตของตนเอง อีกหนึ่งอย่างเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา...ในช่วงเวลาที่ผมอยู่ในระหว่างการเดินทาง ผมมักค้นพบข้อคิดสำหรับชีวิตอยู่เสมอๆ สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ที่วิเศษจริงๆ ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่มีวันหยุดต่อเนื่องกันอยู่หลายวัน ทุกๆ ครั้งเมื่อมีโอกาศหยุดยาวผมมักจะเลือกที่จะเดินทางออกไปที่ไหนสักแห่ง
ผมออกเดินทางจากเชียงใหม่ตั้งแต่ เวลา 17:30 น. ของวันศุกร์ที่ 4 กค. 2009 มาถึงหมอชิตราวตี 3 ครึ่งนั่งรถตู้ต่อไปเมืองกาญจนบุรีอีก 2 ชั่วโมงก็ถึงปลายทางที่หมาย ศูนย์พัฒนาเด็กคริสตจักรนานาชาติแสนตอ ตั้งอยู่ใกล้ๆ โรงงานไวต้า เขตอำเภอท่ามะกา ตำบลท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ผมใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับเด็กที่ทั้งหมดเป็น เด็กลูกหลานของพี่น้องชาวพม่าที่มาขายแรงอยู่ที่นี่ ตั้งแต่วันอังคาร ถึงวันเสาร์เด็กจะมาเรียน กับคุณครูที่อุทิศตน มาสอนเสมือนเด็กเหล่านี้เป็นบุตรหลาน ผมมีโอกาสพูดคุยกับคุณครูที่นี่ว่าเหตุอันใดที่เขาถึง "ยอม" มาสอน ที่นี่ คำตอบมิใช่ผลประโยชน์ที่เขาได้รับ แต่คำตอบก็คือ การที่ได้ทำตามสิ่งที่พระเยซูคริสต์ เคยสอนเอาไว้ว่า " การให้นั้น ย่อมเป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ "
เด็กๆ มา ก่อนเวลาเรียนตั้งแต่เช้า โดยไม่มีใครบังคับ เด็กที่นี่มีระเบียบมากจริงๆ คือว่า เขาจะไม่เขามาในอาคารเรียนจนกว่าจะได้รับอนุญาติ เขาจะไม่เข้าไปในสถานที่ครูห้าม เขาจะไม่ขาดเรียนหากไม่ป่วย พอได้ยินเสียงคุณครูอนุญาติให้เข้ามาบริเวณอาคาร เด็กๆ จะกรูกันเข้ามาอย่างสนุกสนาน และดีใจที่ได้พบกับเพื่อนๆ เมื่อถึงเวลาเคารพธงชาติ จะมีเด็กคนหนึ่งขึ้นมานำร้องเพลงชาติ(ไทย) ผมขนลุกที่เห็นเด็กพม่าร้องเพลงชาติไทย เหมือนกับว่าที่นี่เป็นประเทศบ้านเกิดของเขา น่ารักมาก หลังจากนั้นก็จะมีการร้องเพลง และอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน และที่เด็กๆ ไม่เคยลืมอธิษฐานก็คือการ ได้อธิษฐานเผื่อผู้ที่มีส่วนอุปการะเขา ถึงแม้เขาเองจะไม่เคยเห็นหน้าคนใจดีเหล่านี้ที่สนับสนุนอุปกรณ์การเรียนให้กับเขา
เสร็จกิจกรรมแล้ว เด็กๆ ต่างแยกย้ายเข้าเรียนตามชั้นที่แบ่งตามระดับช่วงอายุแบ่งออกเป็น 4 ชั้นเรียน แต่คุณครูมี 3 คนนะครับ ที่นี่ยังขาดคุณครูคนที่ 4 คุณครูต้องผลัดเปลี่ยนวนเวียนกันสอน วิชาเรียนที่นี่น่าสนใจจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นวิชาภาษาพม่า,ภาษาไทย,ภาษาอังกฤษ,คอมพิวเตอร์,คณิตศาสตร์,ศิลปะ และกิจกรรมสันทนาการ
พอพักเที่ยงเด็กๆ จะมานั่งกินข้าวด้วยกัน กินข้าวเสร็จจึงมาเล่นกันตามประสาเด็ก เด็กที่นี่เคารพกันไม่ค่อยมีเรื่องมีราวให้เห็น น่ารักจริงๆ ถึงเวลาบ่ายโมงก็เข้าเรียนต่อ
ก่อนจะจากเด็กๆ ที่นี้มีภาพหนึ่งเกิดขึ้นในความคิดของผมก็คือว่า ใครนะที่จะใจดีมาเป็นครูคนที่ 4 ของที่แห่งนี้.................................................. ใครนะที่จะมีใจอยากอุปถัมม์เด็กๆ เหล่านี้โดยไม่หวังสิ่งๆ ใดตอบแทน เหมือนหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ใครนะที่ชอบเป็นผู้พิชิต ใครนะที่ชอบเรื่องสิทธิและ เสรีภาพ ใครนะที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดี ใครนะจะทำให้เป็นรูปธรรมซะที.....คำตอบอยู่ที่คุณครูคนที่ 4 คือเราทุกๆ คน
ที่นี่กำลังรอคุณครูพีอยู่ครับ...ขอยืมเรื่องนี้ไปขยายนะครับ..
สวัสดีครับคุณพี
ทำไมไปไม่เห็นมาบอกกันเลย...ยังนึกว่าอยู่พายัพอยู่นะเนี่ย
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้พีทำดีเพื่อสังคมต่อไปค่ะ
โชคดี มีสุข
ขอพระเจ้าคุ้มครองพีและภรรยาเจ้า
อยากไปนะ ขอพระเจ้าว่า วันหนึ่ง จะได้เริ่มต้นรับใช้ร่วมกันอีก อาเมน
เด็กที่นั้นน่ารักดีนะค๋ะ เด็กที่นั้นดูมีระเบียบดีนะค๋ะ
ครูเป็นคนที่เสียสระมากเลยค่ะ