สุขภาพดีด้วยมวยไทย


มวยไทยเพื่อสุขภาวะ

วิจัยพบท่ามวยไทย "หมัด-เข่า-ศอก" ช่วยหุ่นฟิต

หัวใจ-ปอด-หลอดเลือดทำงานดีขึ้น 

 

วิจัยพบท่ามวยไทย "หมัด-เข่า-ศอก" ช่วยหุ่นฟิต

หัวใจ-ปอด-หลอดเลือดทำงานดีขึ้น 

 

       สธ.นำศิลปะมวยไทยเป็นท่าออกกำลังกาย พบได้ผลร่างกายฟิต ปอด - หัวใจทำงานดีขึ้น มอบกรมอนามัยประสานสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ และครูภูมิปัญญาไทยของสภาการศึกษาแห่งชาติ เป็นวิทยากรอบรม สร้างผู้นำการออกกำลังกายให้มีความรู้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ

      

       วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ศูนย์อนามัยที่ 4 จ.ราชบุรี นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้นำการออกกำลังกายมวยไทยเพื่อสุขภาพ โดยมีผู้นำการออกกำลังกายจากชมรมสร้างสุขภาพ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และครูจากโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดราชบุรี เข้ารับการอบรม จำนวน 135 คน

      

       นายมานิต กล่าวว่า จากรายงานองค์การอนามัยโลกในปี 2551 พบว่า โรคอ้วนลงพุง ที่เกิดจากการสะสมอาหารในร่างกายในรูปของไขมัน โดยเฉพาะบริเวณรอบเอว เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ได้แก่ โรคเบาหวาน ร้อยละ 58 โรคหัวใจขาดเลือด ร้อยละ 21 และโรคมะเร็งบางชนิด ร้อยละ 8 - 42 ทั้งนี้ จากการสำรวจมาตรฐานเส้นรอบเอวของคนไทย ซึ่งผู้ชายไม่ควรเกิน 90 เซนติเมตร และหญิงไม่เกิน 80 เซนติเมตร พบว่ามีผู้ที่มีเส้นรอบเอวเกินมาตรฐานมากถึง 9 ล้านคน ในจำนวนนี้กลายเป็นคนอ้วนลงพุงไปแล้วกว่า 6 ล้านคน

 

       ซึ่งเส้นรอบเอวที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 5 เซนติเมตร จะเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคเบาหวาน 3 - 5 เท่า และเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้ประมาณ 5 เท่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เร่งส่งเสริมให้คนไทยออกกำลังกายมากขึ้น โดยสร้างทางเลือกในการออกกำลังกายที่หลากหลาย เช่น การเต้นแอโรบิก การเดินเพื่อสุขภาพ การเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ การขี่จักรยาน หรือการทำงานบ้านงานสวน เป็นต้น

      

       ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวคิดในการสร้างรูปแบบการออกกำลังกายทางเลือก โดยนำภูมิปัญญามวยไทย คือ การใช้หมัด เท้า เข่า ศอก มาเป็นท่าในการออกกำลังกาย ซึ่งจากการวิจัยในกลุ่มเด็ก กลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มผู้สูงอายุ ทำสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 - 40 นาที เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าทำให้ทุกกลุ่มมีสมรรถภาพร่างกายดีขึ้น

 

       นอกจากนี้ ยังเป็นการฝึกฝนจิตใจให้มีความมั่นคง เข้มแข็ง อดทน รวมทั้งมีความภาคภูมิใจและรักความเป็นไทยมากขึ้นด้วย ได้มอบนโยบายให้กรมอนามัยประสานสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และครูภูมิปัญญาไทยของสภาการศึกษาแห่งชาติ เป็นวิทยากรอบรม เพื่อสร้างผู้นำการออกกำลังกายให้มีความรู้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ

      

       ด้าน นายแพทย์สุวัช เซียศิริวัฒนา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การออกกำลังกายด้วยท่ามวยไทย เป็นการออกกำลังกายที่สามารถประยุกต์ให้เหมาะสมกับคนทุกเพศ ทุกวัย มีผลให้ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบหายใจ หัวใจ ปอดและหลอดเลือด ทำงานดีขึ้น

 

       ในปีนี้ กรมอนามัยได้เริ่มนำร่องสร้างผู้นำการออกกำลังกายมวยไทยเพื่อสุขภาพที่จังหวัดราชบุรีเป็นแห่งแรก เป้าหมายเป็นครูและผู้นำออกกำลังกายของชมรมสร้างสุขภาพ ประมาณ 100 คน และจัดให้มีการแข่งขันในประเภททีมนักเรียนและประชาชนทั่วไป ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายผลทั้งในโรงเรียนและชมรมสร้างสุขภาพต่างๆ อย่างรวดเร็ว จากนั้นจะทำการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อขยายไปจังหวัดอื่นๆ

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ

       สธ.นำศิลปะมวยไทยเป็นท่าออกกำลังกาย พบได้ผลร่างกายฟิต ปอด - หัวใจทำงานดีขึ้น มอบกรมอนามัยประสานสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ และครูภูมิปัญญาไทยของสภาการศึกษาแห่งชาติ เป็นวิทยากรอบรม สร้างผู้นำการออกกำลังกายให้มีความรู้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ

      

       วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ศูนย์อนามัยที่ 4 จ.ราชบุรี นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้นำการออกกำลังกายมวยไทยเพื่อสุขภาพ โดยมีผู้นำการออกกำลังกายจากชมรมสร้างสุขภาพ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และครูจากโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดราชบุรี เข้ารับการอบรม จำนวน 135 คน

      

       นายมานิต กล่าวว่า จากรายงานองค์การอนามัยโลกในปี 2551 พบว่า โรคอ้วนลงพุง ที่เกิดจากการสะสมอาหารในร่างกายในรูปของไขมัน โดยเฉพาะบริเวณรอบเอว เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ได้แก่ โรคเบาหวาน ร้อยละ 58 โรคหัวใจขาดเลือด ร้อยละ 21 และโรคมะเร็งบางชนิด ร้อยละ 8 - 42 ทั้งนี้ จากการสำรวจมาตรฐานเส้นรอบเอวของคนไทย ซึ่งผู้ชายไม่ควรเกิน 90 เซนติเมตร และหญิงไม่เกิน 80 เซนติเมตร พบว่ามีผู้ที่มีเส้นรอบเอวเกินมาตรฐานมากถึง 9 ล้านคน ในจำนวนนี้กลายเป็นคนอ้วนลงพุงไปแล้วกว่า 6 ล้านคน

 

       ซึ่งเส้นรอบเอวที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 5 เซนติเมตร จะเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคเบาหวาน 3 - 5 เท่า และเพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้ประมาณ 5 เท่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เร่งส่งเสริมให้คนไทยออกกำลังกายมากขึ้น โดยสร้างทางเลือกในการออกกำลังกายที่หลากหลาย เช่น การเต้นแอโรบิก การเดินเพื่อสุขภาพ การเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ การขี่จักรยาน หรือการทำงานบ้านงานสวน เป็นต้น

      

       ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวคิดในการสร้างรูปแบบการออกกำลังกายทางเลือก โดยนำภูมิปัญญามวยไทย คือ การใช้หมัด เท้า เข่า ศอก มาเป็นท่าในการออกกำลังกาย ซึ่งจากการวิจัยในกลุ่มเด็ก กลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มผู้สูงอายุ ทำสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 - 40 นาที เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าทำให้ทุกกลุ่มมีสมรรถภาพร่างกายดีขึ้น

 

       นอกจากนี้ ยังเป็นการฝึกฝนจิตใจให้มีความมั่นคง เข้มแข็ง อดทน รวมทั้งมีความภาคภูมิใจและรักความเป็นไทยมากขึ้นด้วย ได้มอบนโยบายให้กรมอนามัยประสานสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และครูภูมิปัญญาไทยของสภาการศึกษาแห่งชาติ เป็นวิทยากรอบรม เพื่อสร้างผู้นำการออกกำลังกายให้มีความรู้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ

      

       ด้าน นายแพทย์สุวัช เซียศิริวัฒนา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การออกกำลังกายด้วยท่ามวยไทย เป็นการออกกำลังกายที่สามารถประยุกต์ให้เหมาะสมกับคนทุกเพศ ทุกวัย มีผลให้ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบหายใจ หัวใจ ปอดและหลอดเลือด ทำงานดีขึ้น

 

       ในปีนี้ กรมอนามัยได้เริ่มนำร่องสร้างผู้นำการออกกำลังกายมวยไทยเพื่อสุขภาพที่จังหวัดราชบุรีเป็นแห่งแรก เป้าหมายเป็นครูและผู้นำออกกำลังกายของชมรมสร้างสุขภาพ ประมาณ 100 คน และจัดให้มีการแข่งขันในประเภททีมนักเรียนและประชาชนทั่วไป ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายผลทั้งในโรงเรียนและชมรมสร้างสุขภาพต่างๆ อย่างรวดเร็ว จากนั้นจะทำการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อขยายไปจังหวัดอื่นๆ

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ

คำสำคัญ (Tags): #health
หมายเลขบันทึก: 273239เขียนเมื่อ 3 กรกฎาคม 2009 17:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม 2012 21:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท