วันนี้รู้สึกดีใจและปิติที่ได้ทำความดีอย่างนึง จึงอยากบันทึกไว้...
ตอนเช้าไปทำงานประมาณโมงเช้าถึงทีี่ทำงาน ย่างเท้าเข้าไปในward (หอผู้ป่วย) ถามน้องเวรดึกว่าเป็นไงบ้าง ยุ่งมากมั้ย... น้องบอกว่าทำงานทันพี่..แต่มีคุณป้า...อาการไม่ค่อยดี..ถามน้องว่า เคสไหนอะ...น้องบอกว่าคุณป้า....ที่เหนื่อยตั้งกะเมื่อวานหน่ะ.....อ๋อ.พี่จำได้แล้ว เมื่อวานตอนconference ก็ดูท่าทางคุณป้าเหนื่อยแล้วนะ ให้ออกซิเจนแคนูลา พี่ว่าน่าจะไม่พอแต่คุณป้าไม่เอามาสค์ (ครอบจมูก)...ถามน้องว่า แล้วคุณหมอได้คุยบ้างหรือยังว่าตกลงเอาใส่ท่อช่วยหายใจหรือไม่ใส่ถ้าคุณป้ามีอาการมากขึ้นหนะ พี่ว่าจะคุยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ทราบว่ายังคุณหมอยังไม่ได้เกริ่นเลย ดูท่าทางคุณป้าก็ยังไม่ค่อยพร้อม......น้องบอกว่า เพิ่งตกลงกับสามีเมื่ือเช้านี่เองว่าไม่ใส่แล้ว...ถามน้องว่าแล้วทำไมไม่ย้ายเข้าห้องแยกล่ะ..(ในเมื่อผู้ป่วยคงเสียชีวิตที่นี่แน่ๆ การเข้าห้องแยก จะสะดวกต่อญาติในการทำพิธีต่างๆ ตามความเชื่อทางศาสนาถ้าต้องการ) ถามน้องว่าได้ทำอะไรให้ผู้ป่วยบ้างหรือยัง น้องบอกว่าคุณป้ายังมีห่วงใยลูกชายคนเล็ก แต่ตอนนี้มาพร้อมหน้าแล้ว ได้คุยกับแม่แล้ว ลูกและญาติๆร้องไห้มาก ..จะหาเทปเสียงสวดมนต์ไปให้ แต่มันเสียหมดเลยพี่ ทั้ง ซีดีและเครื่องเสียง. เพราะถามญาติแล้ว คุณป้าเคยสวดมนต์เป็นประจำ...................
จึงบอกกะน้องว่า งั้นเอาซีดีมา เดี๋ยวพี่จะsave มือถือแล้วไปเปิดแก้ขัดไปก่อน ก็เดินเข้าห้องทำงาน เปิดคอม ปรากฎว่าซีดีไมใช่ file mp3 ลงมือถือไม่ได้...ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จะconverse เป็นmp3ให้ ขณะนั้นเวลาประมาณโมงครึ่งแล้วปรากฎว่า converse ไม่ได้โปรแกรมมีปัญหา บอกน้องว่า งั้นพี่หาจากเวปเดี๋ยวจะ saveไปให้ประมาณแปดโมง มือสั่นกลัวไม่ทันการ ได้คาถาชินบัญชรจากเวป save ลงมือถือ จึงรีบออกมา ขณะนั้น ผู้ป่วยเข้าไปห้องแยกเรียบร้อยแล้วพร้อมญาติ (ลืมเล่าไป หอผู้ป่วยเป็นเตียงสามัญ) ถามน้องว่าเป็นไงบ้างแล้ว น้องบอกว่า..คุณป้าดูเหมือนยังห่วงไรอยู่ค่ะพี่... ดิฉันเดินเข้าไปหาผู้ป่วยขณะนั้นให้ออกซิเจนครอบจมูกอยู่ จึงบอกกับสามีผู้ป่วยว่า มีเทปคาถาชินบัญชรมานะคะ ทราบว่าคุณป้าเคยสวดมนต์ เด๋ยวจะเปิดให้ฟังข้างหูนะคะ คุณลุงบอกว่า ไม่เป็นไร นิมนต์พระมาแล้ว ...บอกไปว่าไม่เป็นไรฟังไปก่อนระหว่างรอ(นึกในใจพระอาจจะมาไม่ทัน) ......เปิดเสียงชินบัญชร วางไว้ข้างหู กระซิบบอกคุณป้าว่า คุณป้า...คะ ฟังพระสวดนะคะ คุณป้าฟังไปเรื่อยๆนะคะ นึกถึงเวลาคุณป้าไปทำบุญตามที่ต่างๆ.....ระหว่างนั้น ดิฉันจับมือคุณป้าไว้ อีกมือวางบนหน้าผาก ดิฉันพอมีพื้นฐานทางสมาธิบ้างและวันนี้เช้าก่อนมาทำงาน ก็สวดมนต์ ไหว้พระและอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วด้วย ขณะนั้นดิฉันก็ทำสมาธิส่งกระแสจิตระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ หากคุณป้าถึงเวลาที่ต้องไปแล้วขอสิ่งศักดฺ์สิทธิ์ช่วยนำทางส่งวิญญาณคุณป้าไปสู่ สุคติด้วยเถิด ดิฉันสงบนิ่งประมาณ1นาที ...คุณป้าหายใจช้าลงไม่ถึง 5ครั้งก็จากไปอย่างสงบ........เวลา8.20 น............
ดิฉันจึงมีความรู้สึกกว่าวันนี้ได้ทำดีที่สุดแล้ว.. อีก1วัน...ค่ะ
อ่านตั้งแต่วันพฤหัสแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสเขียนชื่นชมพี่ติ๊กค่ะ ขอบคุณที่เก็บมาเล่านะคะ รู้สึกถึงผลบุญที่เผื่อแผ่มาถึงคนอ่านเลยล่ะค่ะ
ดีครับพี่ ชื่นใจจัง
โดยเฉพาะการย้ายผู้ป่วยเข้าห้องแยกในวาระสุดท้ายนั้น เป็นอานิสงฆ์อย่างมาก เพราะญาติๆจะได้มาอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้า จะร้องจะร่ำอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจใคร
ขั้นต่อไปก็น่าจะติดแอร์ในห้องแยกนี้นะครับ
ติด wall paper ให้สวยงามดูสงบ มุมหนึ่งอาจติดเป็นรูปพระ มุมหนึ่งเป็นภาษาของอิสลาม มุมหนึ่งอาจจะเป็นมุมคริสต์ (ตกลงว่าเป็นรูปศาสนราทุกผนังเลยเหรอ เปล่าเลยครับ ใช้เทคนิคกั้นม่านหร่อชักขึ้นลงได้ อาจจะติดรูปป่า ทะเล ภูเขาเลากา อะไรก็ได้คร๊าบบบบบ.....
ไอเดียเยี่ยมค่ะ'จารย์แ็ป๊ะ ขอบคุณนะคะ จะนำไปเสนอค่ะ