บันทึกการเดินทางในอินเดียวันที่ 4-5: ท่องเมืองสาวัตถี


สาวัตถี:เมืองแห่งตำนานพระพุทธศาสนาที่สำคัญอีกเมืองหนึ่ง

8พค.52

 

คณะเราเดินทางด้วยรถไฟจากสถานี NJP ถึงวัดเบงกอลอีกครั้ง ในตอนเช้า ประมาณ 6.00น จากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัย ตกบ่าย ชายหนุ่ม 3 คนแวะไปเที่ยวชมตลาดใหม่ (New market) ซึ่งก็เป็นตลาดคล้ายตลาดคลองถม ในบ้านเรา ตัวผู้เขียนไม่ได้ไปด้วย แอบได้ยินมาว่าไปหาซื้อยา ไวอากรา ซึ่งมีขายเกลื่อนกลาดอยู่ตามร้านขายยา ไม่มีการควบคุมแต่อย่างใด และราคาถูกมากๆๆ ประมาณ 50 บาทเอง  แต่ได้รับการยืนยันจากชายหนุ่มทั้ง 3 ว่าจะเอาไปฝากเพื่อนหรือไม่ก็เอาไปขายจริงๆ นะจ้ะไม่ได้เอาไปใช้เอง  ตกบ่าย  ประมาณ 16.00 น คณะเรา ก็นั่งแท็กซี่เหลือง ไปสถานีรถไฟเพื่อขึ้นรถไฟไปรัฐวิหารเพื่อมุ่งหน้าไปยังวัดไทยมคธพุทธวิปัสสนา คยา ที่พระอาจารย์สุเทพ เป็นผู้นำสำคัญในการระดมทุนก่อสร้าง เนื่องจากวันนี้เป็นวันวิสาขบูชา ถ้าอยู่เมืองไทยผู้เขียนคงมีโอกาสไปเวียนเทียน ไหว้พระ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคณะเรามากับพระ ดังนั้นตกตอนเย็นขณะนั่งอยู่บนรถไฟ พระอาจารย์สุเทพ จึงได้พาพวกเราสวดมนตร์ไหว้พระ และเจริญสติบนรถไฟ  แขกเดินผ่านไปมาก็มอง บางรายก็ยิ้มๆ จึงถือว่าเป็นโชคดีของคณะเราเป็นอย่างยิ่งแม้จะอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ก็ยังได้มีโอกาสสวดมนต์ ไหว้พระ เจริญสติบนรถ คณะเราเดินทางถึงเมือง คยาประมาณ 22.00น. และเช่ารถต่อมาพักที่วัดไทยมคธ พุทธวิปัสนา มาถึงวัดอากาศร้อนมาก อุณหภูมิ ประมาณ 42-43 C ผู้เขียนและคณะต้องรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางตั้งแต่เช้าไปเมือง สาวัตถี  คืนนี้แม้อากาศจะร้อนเพียงใดก็ตามแต่ด้วยเดินทางไกลและเหน็ดเหนื่อยผู้เขียน ก็ยังอุตส่าห์หลับได้ ตั้ง 3-4 ชั่วโมง

 

9 พค.52

           ผู้เขียนถูกปลุกตั้งแต่ 05.00 น. ให้อาบน้ำ และเตรียมข้าวของที่จำเป็น เพื่อเดินทางต่อไปเมืองพาสาวัตถี ระหว่างทางจะเห็นกองถ่านหินที่เขากองไว้ขาย และมูลควายแห้ง (เอาไว้ใส่พืชผัก ไร่นา)  เป็นระยะ สำหรับอาหารระหว่างทางที่เห็นวางขายก็คือ แตงโมและองุ่นมีวางขายบนรถเข็นให้เห็นเป็นระยะ คณะเราพักรับประทานอาหารมื้อเที่ยง ที่แม่ชีทำอาหารและจัดเตรียมให้ นับเป็นวันแรกที่ได้รับประทานอาหารไทย โดยฝีมือคนไทย อร่อยมาก  แล้วเดินทางต่อถึงเมืองสาวัตถี    16.00 น. จุดแรกที่ไปคือไปดูที่ที่พระอาจารย์สุเทพซื้อไว้เพื่อเตรียมสร้างวัดไทยที่เมืองสาวัตถี ซึ่งมีพื้นที่ 4 ไร่      และอยู่ใกล้ๆกับวัดของเกาหลี และวัดอื่นๆของแถบเอเชีย จากนั้นก็แวะไปดูดินแดนที่เรียกว่า แดนมหามงคล ซึ่งเจ้าของเป็นคนไทย ชื่อว่ามหาอุบาสิกาดร. บงกต สิทธิพล  ได้รวบรวมเงินจากผู้ศรัทธา มาซื้อที่ดิน ซึ่งกว้างขวางมาก  และก่อสร้างพระพุทธรูป เสร็จแล้วชื่อว่า พระพุทธมหามงคลชัย และ กำลังก่อสร้างพระเจดีย์ที่ใหญ่มาก ว่ากันว่า มีวิศวกรจากเมืองไทยขอเสนอตัวมาช่วยคุมคุมงานก่อสร้างเป็น 100-200 คน ภายในดินแดนแห่งนี้กว้างขวางมากปลูกต้นไทรและต้นไม้อย่างร่มรื่น มีสถานที่ให้คนมานั่งวิปัสสนา  มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่นับถือศาสนาพุทธไปเที่ยวมากมาย จากนั้น  นอกจากนี้มหาอุบาสิกาดร. บงกต สิทธิพล  ท่านยังได้รับเกียรติบัตร จากเลขาธิการ องค์การสหประชาชาติ นายโคฟี อันนัน ในฐานะเป็นผู้ให้การสนับสนุนการศึกษานอกระบบ แก่มวลมนุษย์ อุทิศเพื่อสันติภาพโลก เมื่อ วันที่ 20 พฤศจิกายน2549ที่ผ่านมา  หลังจากคณะเราไปกราบพระพุทธรูปและเยี่ยมชมดินแดนมหามงคลแล้ว  ก็เดินทางต่อที่วัดเชตวันซึ่งเป็นสังเวชนียสถานที่สำคัญอีกแห่งและอยู่ไม่ไกลจากแดนมหามงคล ภายในบริเวณวัดมีต้นโพธิ์ที่มีตำนานว่าพระโมกข์คัลลานะไปนำเมล็ดจากพุทธคยามาปลูกไว้ อายุมากกว่า 2000 ปี พระอาจารย์พาเราสวดมนภาวนาอยู่ใต้ต้นโพธิ์ และจากนั้นก็พา มาดูกุฎิ 3 ฤดู ประกอบด้วย กุฎิฤดูร้อน หนาว และฤดูฝน ซึ่งกุฎฏิฤดูฝนเป็นสถานที่ที่พระพทธเจ้าจำพรรษาอยู่นานที่สุดถึง 19 พรรษาพระอาจารย์พาพวกเราสวดมนต์ เจริญสติอยู่ที่นี่ประมาณ 10 นาที จากนั้นก็กลับมาพักค้างคืนที่วัดเกาหลีซึ่งอยู่ติดกับที่ที่พระอาจารย์จะสร้างวัดใหม่ วัดนี้ค่อนข้างสะอาด ถึงแม้ว่าทั้งวันผู้เขียนและคณะจะเดินทางไกล และเหน็ดเหนื่อยแต่การได้มากราบไหว้สังเวชนียสถานที่ศักดิ์ศิทธิ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งในตำนวนพระพทธศษสนา กอปรกับได้สวดมนตร์และเจริญสติภาวนากับพระอาจารย์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ผู้เขียนรู้สึกอิ่มใจ และปลื้มปิติยิ่งนัก คิดว่าคณะผู้ร่วมเดินทางก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ตกกลางคืนคืนผู้เขียนหลับด้วยความเหนื่อยเพลีย แต่อากาศก็ร้อนมาก ตอนกลางคืนที่หลับไปแล้วโดนปลุกเพื่อขอยากันยุง เพราะ พระอาจารย์ และชายหนุ่ม 2 คนโดนยุงกัด โชคดีที่ผู้เขียนไม่โดนยุงกัดก็หลับได้พอสมควรถึงแม้อากาศจะร้อนมากๆ อาศัยเปิดพัดลมทั้งคืน เป็นอันเสร็จสิ้นการเดินทางอีก 1 วัน

     

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 263325เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2009 19:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอ ข้อมูลที่ว่า """จุดแรกที่ไปคือไปดูที่ที่พระอาจารย์สุเทพซื้อไว้เพื่อเตรียมสร้างวัดไทยที่เมืองสาวัตถี ซึ่งมีพื้นที่ 4 ไร่ และอยู่ใกล้ๆกับวัดของเกาหลี "" เพ่ิมเติมหน่อยนะ พอดี ตอนนี้ อยู่สาวัตถี อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมจ๊ะ

สวัสดีค่ะคุณชัยรัตน์

ต้องขออภัยด้วยค่ะ ที่ไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ เพราะทราบเท่านี้จริงๆ ต้องเรียนตามตรงว่าดิฉันไม่มีเบอร์โทรของพระอาจารย์สุเทพ และกับพี่วิศกรที่จะช่วยออกแบบก่อสร้างก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว จึงไม่มีตัวช่วยที่พอจะขอข้อมูลมาเพิ่มเติมได้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท