ข้อคิด...กำแพงอิฐ 1000 ก้อน

สร้างกำลังใจด้วยความคิดแง่บวก

            วันก่อนนอนดึกได้ดูรายการตีสิบ เล่าเรื่องก่อนนอนซึ่งให้แง่คิดในด้านบวกได้ดีทีเดียว เรื่องมีอยู่ว่า มีวัดแห่งหนึ่งกำลังก่อสร้างอยู่และมีพระอยู่รูปหนึ่งได้ก่อกำแพงอย่างตั้งอกตั้งใจจนเสร็จ คิดว่าวันนี้อย่างไรเสียหลวงพ่อต้องชื่นชมผลงานของเราแน่นอน

          แต่พอท่านลองถอยหลังออกมามองกำแพงแล้วก็พบว่ามีอิฐอยู่ 2 ก้อนที่ก่อล้ำหน้าออกมาไม่เท่าก้อนอื่นๆ ทำให้พอใครผ่านไปผ่านมาก็จะมาติจุดนี้ทุกที ทำให้พระรูปนี้เกิดความไม่สบายใจจะทุบก็ทุบไม่ได้เพราะทำจนเสร็จแล้ว จึงวิตกกังวลว่าต้องโดนหลวงพ่อต่อว่าแน่เลย...

                                         

          พอตอนเย็นหลวงพ่อกลับมาถึงวัด ได้มองเห็นกำแพงวัดสร้างเสร็จแล้ว จึงเอ่ยปากชมพระว่า ทำได้สวยงามดี ทำให้พระลูกวัดแปลกใจว่าใครๆก็ติว่าอิฐ 2 ก้อนนี้ก่อล้ำหน้าออกมาไม่เท่ากัน หลวงพ่อไม่เห็นหรือครับ?

          หลวงพ่อถามว่า...กำแพงนี้สร้างด้วยอิฐจำนวนกี่ก้อน พระตอบว่ากำแพงนี้ก่อด้วยอิฐจำนวนพันก้อนครับ หลวงพ่อจึงบอกว่าคุณไม่เห็นหรือว่ามีอิฐทีก่อได้สวยงามตั้ง 998 ก้อน ทำไม?คุณถึงมองข้ามไป....ไปติดใจแค่อิฐ 2 ก้อนทำไม?

          หลวงพ่อจึงสอนว่าเรื่องนี้เปรียบเหมือน คนที่ทำความดีมาทั้งชีวิตแต่มาผิดพลาดเพียงครั้งสองครั้ง จะมาเหมาว่าเขาล้มเหลวในชีวิตไม่ถูก ความดีที่ทำมานับครั้งไม่ถ้วนทำไมจึงมองข้ามไปแล้วมาโจมตีข้อเสียเล่า? ควรมองในแง่บวกว่า ความล้มเหลวเก็บไว้เป็นบทเรียนส่วนความดีที่ผ่านมาก็เป็นประดุจกำลังใจให้เข้มแข็งว่า เราก็ผ่านความสำเร็จมามากมาย จะล้มเหลวบ้างครั้งสองครั้งก็ไม่แปลกอะไร ดีซะอีกจะทำให้เราได้ระมัดระวังในคราวต่อไป ไม่ให้เกิดความผิดพลาดอีก

          เรื่องราวที่เป็นแง่คิดในด้านบวกอย่างนี้ ผึ้งงานเลยอดที่จะเก็บมาเล่าสู่กันฟังไม่ได้ การคิดในแง่บวกอย่างนี้ส่งผลให้เราก้าวข้ามปัญหาหรือความยากลำบาก ไปสู่การพัฒนาจิตใจตนเองให้เข้มแข็งและรู้จักสัจธรรมของมนุษย์ที่ชอบจี้จุดด้อยหรือเห็นจุดด้อยของคนอื่น(เปรียบเหมือนอิฐ 2 ก้อนที่เล่าให้ฟัง)แล้วนำมาตอกย้ำให้หมดกำลังใจ ทั้งๆที่เรื่องที่ดีๆที่เขาทำมามากมายไม่นำมายกย่อง พูดชมเชยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เรามาร่วมกันสร้างวัฒนธรรมการมองโลกในแง่บวกกันเถอะ...

[ธนิตย์ สุวรรณเจริญ]

• อ่านบันทึกนี้แล้ว นึกถึงกลอนของท่านพุทธทาสบทหนึ่ง ซึ่งเราคุ้นเคยกันดี
• ลองค้นในgoogle พอดีพบ จึงนำมาเตือนใจตัวเองอีกที..
• ขอบคุณสาระดีๆ และขอบคุณที่เข้าไปอ่าน/ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ

[ผึ้งงาน_SDU]

สวัสดีค่ะครูธนิตย์

·       ดีใจที่อาจารย์แวะมาเยี่ยมค่ะ และยังได้นำกลอนของท่านพุทธทาสมาฝากด้วย

·       ธรรมะของท่านพุทธทาส อ่านแล้วเตือนใจได้เสมอค่ะ

·       ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

                                              

[Sila Phu-Chaya]

• เป็นวิธีคิดที่น่าสนใจมากค่ะ เรื่องอิฐกับคิดบวก
• เวลาที่เห็นสัจธรรม ... ธรรมชาติรอบตัวอธิบายวิถีชีวิตได้หมดเลยจริง ๆ นะคะ
• ขอร่วมสมาคมคนคิดบวกด้วยคนค่ะ

[ผึ้งงาน_SDU]

สวัสดีค่ะคุณ Sila Phu-Chaya

·       ดีใจจัง....ที่มีแนวร่วมในการคิดเชิงบวกเพิ่มขึ้นอีกคนค่ะ

·       ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

                                                     

[ลีลาวดี]

• เปรียบเทียบได้ดีจริงๆค่ะ
• ขอบคุณมาก

[ผึ้งงาน_SDU]

สวัสดีค่ะคุณลีลาวดี

·       มีคนจำนวนมากมาย...ที่คิดน้อยใจหรือเสียใจเพราะ...อิฐสองก้อน...ที่มองเห็น

·       จนลืมความสำเร็จมากมายที่ตัวเองเคยได้รับ

·       เพราะลืมไปว่า...คนเราก็สามารถเกิดความผิดพลาดได้ทุกคน...

·       อยู่ที่ว่าเราจะมองประโยชน์นั้นในแง่ไหน?.....ก็เท่านั้น....

·       ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

                                                 

[ลีลาวดี]

• ขอบคุณจ้าสำหรับคำอธิบายเพิ่มเติม
• มีความสุขมากๆนะคะ

[ธรรมฐิต]

แต่แล้วสังคมปัจจุบันก็ยังทำตัวเป็นอิฐสองก้อนอยู่ร่ไปว่าใหมผึ้งงาน..

[ผึ้งงาน_SDU]

 

นมัสการค่ะพระคุณเจ้าธรรมฐิต

·       เป็นจริงดังพระคุณเจ้ากล่าวค่ะ

·       สังคมปัจจุบันมักจะเน้นวัตถุมักกว่าจิตใจ ดังนั้น อิฐสองก้อนนั้นจึงลอยเด่นใน จิตใจเขาเสมอ

·       การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้น ทำให้เกิดปัญหามากมายซึ่งล้วนแต่แต่เกิดจากการมองหาแต่ความผิดพลาดของคนอื่นหรือมองแต่ข้างนอก (อิฐสองก้อน) และการมองในแง่ลบ

·       น้อยคนนักที่จะหันกลับมามองตน มองตัวเองและแก้ไขตัวเอง เพราะมัวแต่ไปเพ่งมองข้อผิดพลาดคนอื่นร่ำไป

·       การที่ได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมและมีกัลยาณมิตรที่ดี ก็ทำให้จิตใจเบิกบาน และมองตัวเองมากขึ้น

·       บอบคุณที่ท่านเมตตามาเยี่ยมค่ะ.