Archanwell
รศ.ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร

หลิ่ง นายเก๋ง : แรงงานต่างด้าวเชื้อสายไทยใหญ่ไร้สัญชาติใน ท.ร.๓๘/๑ ที่ถูกเมียทิ้งให้เลี้ยงลูก ๒ คนเพียงลำพัง


นักเรียนคนที่ ๒๐ ในห้องเรียนที่ ๕ โครงการต่อยอดองค์ความรู้แม่อาย

นักเรียนในห้องเรียนที่ ๕ ซึ่งยอมตนเป็นกรณีศึกษาคนนี้มี ๒ ชื่อ เขาอ้างว่า  (๑) เขามีชื่อว่า “นายหลิ่ง นายเก๋ง” ดังปรากฏตาม ท.ร.๓๘/๑[1] และ (๒) เขามีชื่อว่า “นายวิหลิ่ง นายออ” ดังปรากฏตาม สูติบัตร (ท.ร.๓) ของ ด.ญ.กาญจนา ซึ่งเป็นบุตรสาว

เขาให้ปากคำว่า เขาเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗[2] ในส่วนที่เกี่ยวกับสถานที่เกิดของหลิ่งหรือวิหลิ่งนั้น เขาให้ปากคำว่า บ้านเมืองยอน ประเทศพม่าเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗  แต่เอกสารราชการฉบับหนึ่ง[3]กลับระบุว่า วิหลิ่งเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

ปรากฏตาม ท.ร.๓๘/๑ ที่ออกแก่หลิ่งว่า หลิ่งมีบิดาชื่อ “นายออ นายเก๋ง” แต่ใน ท.ร.๓๘/๑ ที่ออกให้แก่ออ กลับระบุว่า ออมีชื่อว่า  “นายออ ลุงคำ”

หลิ่งเล่าว่า นายออ นายเก๋ง หรือนายออ ลุงคำ  ซึ่งเป็นบิดาของนายหลิ่ง เป็นคนชาติพันธุ์ไทยใหญ่  ออเกิดเมื่อวันที่ ๑ มกราคมพ.ศ.๒๔๙๖  ณ เมืองยอน ประเทศพม่า บิดาเข้ามาในประเทศไทยพร้อมกับหลิ่งเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๑ และได้รับการบันทึกชื่อใน ท.ร.๓๘/๑ พร้อมกับหลิ่ง โดยออได้รับเลขประจำตัว ๐๐-๕๐๑๐-๑๐๒๕๔๘-

เราทราบว่า หลิ่งมีมารดาชื่อ “นางมาด นายเก๋ง” เอกสารที่รัฐไทยออกให้แก่นายหลิ่งมิได้ระบุสัญชาติของนางมาด เราทราบจากหลิ่งว่า มาดเสียชีวิตแล้วในประเทศพม่า

หลิ่งหรือวิหลิ่งให้ปากคำว่า เขาย้ายมาจากเมืองยอนเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๑ โดยเข้ามาอยู่ที่บ้านท่าตอนก่อน แล้วย้ายไปอยู่บ้านห้วยมะเฟืองหนึ่งปี แล้วย้ายกลับมาอยู่ท่าตอน ปัจจุบัน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ ๒๐/๒ บ้านท่าตอน อำเภอแม่อาย  จังหวัดเชียงใหม่

แต่การบันทึกชื่อของหลิ่งและออใน ท.ร.๓๘/๑ เกิดขึ้นใน พ.ศ.๒๕๔๗ และการบันทึกโดยรัฐไทยนี้เองที่ทำให้หลิ่งได้รับการออกบัตรประจำตัวตามกฎหมายไทยว่าด้วยการทะเบียนราษฎรที่ชื่อว่า “บัตรประจำตัวบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย”[4]  ซึ่งบัตรนี้จึงเป็นการรับรองครั้งแรกของรัฐต่อตัวตนของหลิ่ง  หลิ่งเคยมีใบอนุญาตทำงาน แต่หมดอายุแล้ว หลิ่งไม่ได้ทำการต่อใบอนุญาตทำงาน เนื่องจากไม่มีเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อใบอนุญาตทำงาน

เขาบอกเราว่า เขามีชาติพันธุ์ไทยใหญ่  และเอกสารราชการของรัฐไทยอีกฉบับหนึ่งก็ระบุว่า เขามีสัญชาติไทยใหญ่[5]

หลิ่งหรือวิหลิ่งบอกว่า เขาไม่เคยได้รับบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกโดยรัฐบาลพม่า แต่ ท.ร.๓๘/๑ ข้างต้นที่ออกโดยรัฐไทยก็ระบุว่า เขามีสัญชาติพม่า

หลิ่งเคยอยู่กินฉันสามีภริยากับนางสาวเหมย นายเก๋ง ผู้หญิงชาวไทยใหญ่ซึ่งมาจากเมืองยอนด้วยกัน หลิ่งเล่าให้เราทราบว่า เหมยเกิด ณ เมืองยอน เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๙   เหมยเข้ามาในประเทศไทยพร้อมหลิ่งเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๑  และเหมยได้รับการบันทึกชื่อใน ท.ร.๓๘/๑ ใน พ.ศ.๒๕๔๗ พร้อมกับหลิ่ง โดยเหมยได้รับเลขประจำตัว ๑๓ หลักตามกฎหมายการทะเบียนราษฎรเช่นกัน[6]  หลิ่งและเหมยมีบุตรด้วยกันจำนวน ๒ คน ซึ่งทั้งสองคนเกิดในประเทศไทย กล่าวคือ (๑) ด.ญ.กาญจนา  นายออ  และ (๒) ด.ช.กฤตนัย  นายออ 

กาญจนาเกิด ณ โรงพยาบาลแม่อายวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๖   ดังปรากฏตามสูติบัตร (ท.ร.๓) และมีเลขประชาชน ๗-๕๐๘๖-๐๐๐๓๕-๒๖-๕ ลงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๖  ออกตามหนังสือรับรองการเกิดที่ ๓๖๑/๔๖  ลงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๖  ออกโดยสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่  แต่ที่น่าสังเกต สูติบัตรนี้ระบุชื่อบิดาว่าเป็น “นายวิหลิ่ง นายออ สัญชาติไทยใหญ่ เกิดที่ จ.เชียงใหม่ ประเทศไทย”  และระบุชื่อมารดาว่าเป็น “นางสาวเหมย นายคำ  สัญชาติไทยใหญ่  เกิดที่ประเทศพม่า”   เราพบว่า มีการร้องขอเพิ่มชื่อกาญจนาเข้าทะเบียนบ้านกลางคนอยู่ชั่วคราว (ท.ร.๑๓) [7] โดยมีนางสาวเหมย นายคำ มารดาเป็นผู้แจ้งการเกิด

ส่วนกฤตนัยนั้นเกิด ณ โรงพยาบาลแม่อายเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๗ ดังปรากฏตามหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.๑/๑ ตอนที่ ๑) ซึ่งออกโดยโรงพยาบาลแม่อาย เลขที่ ๑๒๘/๔๘  ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๗  โดยระบุชื่อบิดาว่า “นายหริ่ง นายออ”  และระบุชื่อมารดาว่า “นางเหมย นายออ

ในวันนี้ เหมยได้ทิ้งหลิ่งและบุตรทั้งสองคนกลับไปยังเมืองยอน ประเทศพม่า

หลิ่งได้บอกเราตั้งแต่วันแรกในห้องเรียนว่า “กลัวว่าจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ ตอนนี้ เป็นห่วงลูกทั้งสองคน แม่มันก็ทิ้งไปแล้ว เวลาไปทำงานก็ต้องปล่อยให้ลูกอยู่กับเพื่อนบ้านช่วยดูแลให้แทน ตอนนี้ก็เช่าบ้านอยู่เดือนละ ๒๐๐ เป็นกระท่อมเล็กๆ  ที่เข้ามาเรียน ก็เพราะอยากรู้ว่า จะมีทางช่วยลูกให้มีสัญชาติไทยไหม  เพราะลูกเกิดในประเทศไทย และก็กลัวว่าจะอยู่ทำงานในประเทศไทยเลี้ยงลูกไม่ได้ ก็จะพยายามที่จะหาทางอยู่ว่า จะมีเงินจ่ายค่าใบอนุญาตทำงานหรือเปล่า ตอนนี้ ก็รู้ว่าตนเองเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย”



[1] อันได้แก่ แบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ท.ร.๓๘/๑) ซึ่งออกให้แก่นายหลิ่ง นายเก๋ง และกำหนดให้มีเลขประจำตัวคนต่างด้าว   ๐๐-๕๐๑๐-๑๐๖๔๒-๗ ปรับปรุง ๙ มี.ค.๒๕๔๘ รับรองรายการ ๒๗ มิ.ย.๒๕๔๘ ออกโดย สำนักงานทะเบียนราษฎร อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

[2] สรุปการสอบปากคำเมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๒ โดย นางบุญ พงษ์มา ทนายความตีนเปล่าแห่งคลินิกแม่อาย

[3] สูติบัตร (ท.ร.๓) ของ ด.ญ.กาญจนา นายออ ซึ่งเป็นบุตรสาว

[4] วันออกบัตร ๑๔ ก.ย.๒๕๔๗  บัตรหมดอายุ ๓๐ มิ.ย.๒๕๔๙

[5] สูติบัตร (ท.ร.๓) ของ ด.ญ.กาญจนา นายออ ซึ่งเป็นบุตรสาว

[6] เลขประจำตัวคนต่างด้าว  ๐๐-๕๐๑๐-๑๐๖๔๓๐-๖  รับรองรายการจากฐานข้อมูล ลว.๑๓ ต.ค.๒๕๔๘

[7] เราคงต้องไปตรวจสอบว่า กาญจนายังคงมีชื่ออยู่ในระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์อยู่หรือไม่ ? แต่ก็เป็นไปได้ที่จะถูกจำหน่ายแล้วก็ได้

หมายเลขบันทึก: 261618เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2009 02:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 14:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท