ท.ณเมืองกาฬ
นาย ทรงศักดิ์ พิราบขาว ภูเก้าแก้ว

คำสันธาน


หลักภาษาไทย

         

                คำสันธาน

 คำสันธาน คือ คำที่ทำหน้าที่เชื่อมคำกับคำ ประโยคกับประโยค ข้อความกับข้อความ เพื่อแสดงความคล้อยตาม ความขัดแย้งเหตุผล หรือเชื่อมความให้สละสลวย

หน้าที่ของคำสันธาน

      1.   เชื่อมคำกับคำ

  •  
    • ผักกาดและหัวหอมเป็นพืชสวนครัว

    • เธอชอบสีแดงหรือสีส้ม

      2.    เชื่อมข้อความกับข้อความ

  •  
    • การส่งเสียงดังในห้องสมุดเป็นการกระทำที่ไม่ดีรบกวนผู้อื่นเพราะฉะนั้นจึงต้องมีกฎห้ามส่งเสียงดังติดประกาศไว้

    • คนเราต้องการอาหาร เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรคด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องประกอบอาชีพเพื่อให้ได้เงินมาซื้อสิ่งจำเป็นเหล่านี้

      3.    เชื่อมประโยคกับประโยค

  •  
    • พี่เป็นคนขยันแต่น้องเกียจคร้านมาก

    • เราหวงแหนแผ่นดินไทยอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเรา

      4.    เชื่อมความให้สละสลวย

  •  
    • คนเราก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้างเป็นธรรมดา

    • ฉันก็เป็นคนจริงคนหนึ่งเหมือนกัน

ชนิดของคำสันธาน

      1. เชื่อมใจความที่คล้อยตามกัน ได้แก่คำว่า กับ , และ , ทั้งและ ,ทั้งก็ , ครั้นจึง , พอก็ ฯลฯ

  •  
    • ภราดรและแทมมี่เป็นนักกีฬาที่มีความสามารถ

    • พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าฝูงนกก็บินกลับรัง

    • ภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งผู้กำกับและนักแสดงได้รับค่าตอบแทนสูง

      2.     เชื่อมใจความที่เป็นเหตุเป็นผลกัน ได้แก่คำว่า จึง , ครั้นจึง , พอก็ ฯลฯ

  •  
    • พอเขากล่าวปาฐกถาทุกคนก็ตั้งใจฟัง

    • ป่าไม้หมดไปโลกจึงเกิดความแห้งแล้ง

    • เขาพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง เนื่องจากฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ

      3.   เชื่อมใจความที่ขัดแย้งกัน ได้แก่คำว่า แต่ , ถึงก็ , กว่าก็ , แต่ทว่า , แม้ก็ ฯลฯ

  •  
    • สังคมมุ่งพัฒนาด้านวัตถุแต่ด้านจิตใจขาดการสนใจ

    • ถึงฉันจะลำบาก ฉันก็ไม่ยอมทำชั่วเป็นอันขาด

    • แม้เขาจะมีร่างกายไม่แข็งแรง เขาก็มีจิตใจแข็งแกร่ง

     4.    เชื่อมใจความที่ให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่คำว่า หรือ , หรือไม่ก็ , ไม่เช่นนั้น , มิฉะนั้นก็ , ไม่ก็ ฯลฯ

  •  
    • โรงเรียนในเมืองหรือในชนบทต้องการอาจารย์ผู้มีความรู้

    • ง่วงก็นอนเสียหรือไม่ก็ลุกขึ้นไปล้างหน้า

    • ไม่วันเสาร์ก็วันอาทิตย์เจนจะมาบ้านเรา

ข้อสังเกต

      1.   คำสันธานบางคำใช้เข้าคู่กัน เช่น ไม่ก็ , กว่าก็ , เพราะจึง , ถึงก็ , แม้ก็ เป็นต้น

      2.    คำสันธานอาจอยู่ในตำแหน่งต่างๆในประโยคก็ได้ เช่น

  •  
    • อยู่ระหว่างคำ : อีฟชอบสีม่วงและสีขาว

    • อยู่หลังคำ : คนก็ดี สัตว์ก็ดี รักชีวิตด้วยกันทั้งนั้น

    • อยู่คร่อมคำ : ถึงเป็นเพื่อนก็อย่าวางใจ

    • อยู่ระหว่างประโยค : ตูนจะดื่มน้ำส้มหรือดื่มนม

    • อยู่หลังประโยค : เราจะทำบุญก็ตาม บาปก็ตาม ควรคิดถึงผลกรรม

    • อยู่คร่อมประโยค : แม้เต้จะกินมากแต่เต้ก็ไม่อ้วน

      3.    ประโยคที่มีคำสันธานนั้นจะแยกออกเป็นประโยคย่อยได้ตั้งแต่ 2 ประโยคขึ้นไป

      4.    คำบางคำเป็นได้ทั้งคำสันธานและคำบุพบท เช่น คำว่า เมื่อให้พิจารณาว่าถ้าสามารถแยกเป็น 2 ประโยคได้ก็เป็นคำสันธาน เช่น เมื่อ 16 นาฬิกา อาร์ทได้ออกจากโรงเรียนไปแล้ว” ( เป็นคำบุพบท ) เมื่อเราได้ยินเสียงระฆัง หมวยได้ออกจากโรงเรียนไปแล้ว” ( เป็นคำสันธาน )

เป็นต้น

      5.    คำว่า ให้เมื่อนำมาใช้เชื่อมประโยคก็จัดเป็นคำสันธาน เช่น เขาทำท่าตลกให้เด็กหยุดร้องไห้เป็นต้น

      6.    คำว่า ว่าเมื่อนำมาใช้เชื่อมระหว่างประโยคก็จัดเป็นคำสันธาน เช่น หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่ามีการกวาดล้างพวกมิจฉาชีพครั้งใหญ่เป็นต้น

      7.    คำประพันธสรรพนามหรือคำสรรพนามเชื่อมประโยค คือ คำว่า ผู้ ที่ ซึ่ง อันจัดเป็นคำสันธานด้วย

  •  
    • สตรีผู้มีความงามย่อมเป็นที่สนใจของคนทั่วไป

    • คนที่กำลังเล่นกีตาร์นั่นเป็นพี่ชายของวี

    • ฝ้ายอยู่ในตลาดซึ่งมีคนพลุกพล่าน

คำสำคัญ (Tags): #ภาษาไทย
หมายเลขบันทึก: 260689เขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2009 14:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท