ข้าราชการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ขอเปลี่ยนสถานะภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย (ภายใน 1ปี กำหนด 3 รอบ คือวันที่ 4 ก.ค.51 วันที่ 2 ต.ค.51 และวันที่ 6 มี.ค.52 โดยไม่ต้องประเมิน) จำนวนทั้งสิ้น1,954 คน และในจำนวนนี้ไม่ต่อกองทุน กบข. จำนวน 1,755 คน และมีผู้ที่ต่อกองทุน กบข. จำนวน 97 คน
จากหนังสือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ด่วนที่สุด ที่ นร 0901/1379 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2551 ถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรณีที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ขอหารือเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการของข้าราชการซึ่งเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย และต่อกองทุน กบข.นั้น
กรณีที่เป็นสมาชิก กบข. และมีความประสงค์ที่จะเป็นสมาชิก กบข. ต่อไป แม้จะออกจากราชการแล้ว ให้ถือว่าเป็นข้าราชการบำนาญและมีสิทธิได้รับสวัสดิการจากราชการ เช่นเดียวกับผู้ได้รับบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
และตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ.2251
มาตรา 78 วรรคสอง " ข้าราชการซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการอยู่แล้ว ให้มีสิทธิขอเป็นสมาชิกต่อไปได้ แม้จะออกจากราชการแล้ว ในกรณีเช่นนี้ให้ถือว่าเป็นข้าราชการและมีสิทธิได้รับสวัสดิการจากทางราชการเช่นเดียวกับผู้ได้รับบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ"
สภาพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำหนังสือที่ ศธ 6392(14)/051 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2552 ถึง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง ขอทราบเกี่ยวกับแนวนโยบายในเรื่องสิทธิสวัสดิการของข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ในกรณีที่ต่อ กบข. (อันเนื่องมาจากยังไม่สามารถใช้สิทธิสวัสดิการในการเบิกค่ารักษาพยาบาลให้กับตนเอง/ญาติสายตรงได้)
สำนักงานมหาวิทยาลัย กองบริหารงานบุคคล ได้ทำหนังสือที่ ศธ 6392(4)/02303 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2552 ถึงประธานสภาพนักงาน มีรายละเอียดดังนี้
1.ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ในกรณีที่ต่อ กบข. รุ่นที่1 และรุ่นที่2 มีจำนวน 39 คน
2.ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ในกรณีที่ต่อ กบข. รุ่นที่3 มีจำนวน 58 คน
3.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้มีหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง ลงวันที่2 กุมภาพันธ์ 2552 เพื่อพิจารณาและดำเนินการเพื่อให้สามารถรองรับการใช้สิทธิขอรับสวัสดิการของข้าราชการ ซึ่งเปลี่ยนสถานะภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย และประสงค์จะเป็นสมาชิก กบข.ต่อไป
และได้มอบหมายให้กองคลังไปพิจารณาหาแนวทางในการช่วยเหลือพนักงานมหาวิทยาลัยที่เปลี่ยนสภานภาพจากข้าราชการ และเป็นสมาชิ กบข.ต่อ ที่ยังไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิได้ในขณะนี้
และในวันที่24 เมษายน 2552 หน่วยการเงินสำนักหอสมุด มช.ได้แจ้งให้พนักงานมหาวิทยาลัยที่ต่อ กบข. เขียนใบเบิกสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร และอื่นๆ เพื่อส่งให้มหาวิทยาลัยดำเนินการต่อไป
ทั้งหมดนี้เป็นความก้าวหน้าในกรณีที่พนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ต่อ กบข.จะได้รับการแก้ไข และช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัย และรัฐบาลต่อไป
เรียน ท่าน ฅ ฅน โสต เสียดาย หลายๆ ม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง นิ
สวัสดีครับท่านอาจารย์JJ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นมหาวิทยาลัยหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงต้องดำเนินการไปสักช่วงเวลาหนึ่ง และคงมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงไปจนเหมาะสมกับชาว มช. ครับ
หน่วยการเงินของคณะแพทย์ศาตร์
ยังไม่ได้ดำเนินการเลยครับ
หน่วยการเงินสำนักหอสมุด น่าจะแจ้งให้คณะแพทย์ทรบบ้าง
สวัสดีครับคุณไม่แสดงตน
ผมได้นำเรื่องที่เขียนนี้ใส่ไว้ในเว็ปบอร์ด"พ.ร.บ. มช." เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขอบอกเวลาเขียนใบเบิกอย่าลืมถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นหลักฐาน ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับที่เข้ามาทักทาย
ขอบคุณความรู้ ข้อมูลดี ๆ นะคะ
...
แวะไป รักษาสุขภาพด้วยกันที่นี่นะคะ
จะทำสถิติ กรุ๊ปชาวบล็อก ค่ะ
ที่นี่นะคะ....
สวัสดีครับคุณ°o.O ปลายฟ้า O.o°
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย เดี๋ยวผมตามไปครับ
มข. กะลังจะออกนอกระบบ ถามว่า. จะออกเป้นพนีกงานและไม่ต่อกบข.(23ปี) จะได้เงินก้อนจากกบข.ตอนไหนค่ะ ถามเพราะเห้นว่ามีประสบการณมาแล้