เรื่องงานจัดการความรู้ในใบลานเครือข่ายหมอพื้นบ้าน ตำบลจอมศรี
19 เมษายน 2552 ผมได้รับการชักชวนแกมบังคับจากพ่อบุญไทย ประธานชมรมหมอพื้นบ้าน ต.จอมศรี อ.เพ็ญ ซึ่งขอคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการความรู้ในใบลาน ซึ่งคณะกรรมการชมรมเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าทำ และได้นัดหมายกันมาพูดคุยกันในวันนี้ ทั้งที่เป็นวันอาทิตย์ และก็ค่อนข้างกังวลว่าผมจะสามารถปลีกตัวไปร่วมได้หรือไม่ ผมเองนั้นอยากบอกว่าขัดไม่ได้ครับ และคิดว่าเป็นเรื่องที่เราไม่ควรรอช้า ไม่น่าจะไปมีเงื่อนไขก็แค่เพราะว่ามันเป็นวันหยุด (ประมาณว่าที่เคยได้รับการสั่งสอนมาว่านักพัฒนาไม่มีวันหยุดนะต้น ชาวบ้านเขาไม่มีแปดโมงเช้า สี่โมงเย็นนะท่าน) ก็ขอยืมรถของพี่สาวไปนะครับ คลำทางไปจนถึงแหละครับ เพราะทุกทีมีคนขับรถหลวงไปส่งก็ไม่เคยจำเส้นทาง ก็เลยต้องคลำทาง ไปถึงประมาณ 9 โมงกว่า ๆ ซึ่งชมรมเขามากันเกือบพร้อมเพรียงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพ่อบุญไทย พี่จำรัส พ่อมี พ่อแหวน ก็เริ่มคุยกันไปสักพัก (เนื้อหาเดี๋ยวจะเล่าต่อไป) พ่อบุญศรีก็ตามมา หมอคำสิงห์ก็มา (คำนำหน้าคนที่เป็นพ่อเนี่ย อายุ 60 ปีขึ้นไป คำนำหน้าที่เป็นหมอเนี่ย อายุไล่เลี่ยกับผม จริง ๆ ก็ไม่เชิงไล่เลี่ยหรอกครับ ประมาณ 50 ปีลงมานั่นแหละ) พี่จำรัสเอานำว่านกาบหอยแครงที่ได้ความรู้มาจากการไปเที่ยวเขาหินซ้อน (ขอเน้นว่าไปเที่ยว คือไปเอง ไม่ได้ไปดูงานนะ) รสชาดดีครับกลมกล่อม จัดว่าเข้าแข่งขันในตลาดได้เลยถ้าราคาใช้ได้เนี่ย
เปิดเวทีผมขอให้พ่อบุญไทยได้ชี้แจงเกี่ยวกับมติคณะกรรมการซึ่งได้พูดคุยกันมาไปการตั้งเรื่องของวันนี้ โดยทราบว่าเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2552 ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการชมรมจากที่อยู่กันมาหลายปี (ไม่รู้ว่ากี่ปีกันแน่ แต่คิดว่ามันคงอิ่มตัวที่ชุมชนคิดกันเองว่าถึงเวลาแล้ว แต่ถ้าเป็นทางการก็จะอ้างอิงระเบียบข้อบังคับชมรมหรือกลุ่มว่าด้วยเรื่องอายุของคณะกรรมการแต่ละชุด) สรุปคือประธานคือพ่อบุญไทย รองประธานเปลี่ยนเป็นพี่จำรัส เลขาคนเดิมคือผู้ใหญ่แสวง รองประธานอีกคนคือพี่คำสิงห์ มีที่ปรึกษาคือพ่อแหวน และที่ผมจดตำแหน่งไม่ทันคือนางสำรวย นอกจากนี้เรื่องเกี่ยวกับงบประมาณของ อบต.นั้นจะเข้าสมัยประชุมประมาณเดือนสิงหาคม 2552 ซึ่งเราต้องเตรียมการให้ทัน “หรือเราก็ควรจะมีโครงการเตรียมเอาไว้ก่อน” (คำพูดของพี่จำรัส)
ประเด็นที่เราพูดคุยเกี่ยวกับใบลานนั้นผมได้ให้ข้อมูลว่าแหล่งทุนอีกแหล่งหนึ่งน่าจะเป็น สกว.ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น เชียงใหม่ (053-944648 , 892662 , 218250 , 218200 ) ในประเด็นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งชมรมอยากรู้ว่าตามที่ชมรมได้ทดลองถอดความรู้จากใบลานออกมานั้นถูกหรือไม่ ช่างเป็นคำถามที่กว้างไกลมาก แต่พอจะประมวลได้ว่าจะทำอย่างไร เราก็คุยกันจนได้รายละเอียดคือน่าจะได้ทำโครงการดดยหมอต้นคือผมจะรับหน้าเสื่อไปเขียนร่างโครงการมา คือ โครงการศึกษาใบลานสืบสานวัฒนธรรม ตำบลจอมศรี อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี หลักการและเหตุผลคือชมรมหมอพื้นบ้านตำบลจอมศรี อำเภอเพ็ญ (เป็นชื่อตามที่ได้จดทะเบียนในวิสาหกิจชุมชน)ได้รวมตัวกันดำเนินงานเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ โดยใช้วิธีดั้งเดิมที่มีในชุมชน , จัดให้บริการชุมชนเกี่ยวกับยาสมุนไพร นวดพื้นบ้านทุกวันศุกร์ที่สถานีอนามัยจอมศรี โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน/ ปี ................................ จนถึงปัจจุบัน มีผลงานการให้บริการแล้วจำนวน...........................คน , ร่วมกับสถานีอนามัยออกให้กำลังใจ ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพแบบพื้นบ้าน แก่ผู้พิการในชุมชน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน/ ปี ................................ จนถึงปัจจุบัน มีผลงานการให้บริการแล้วจำนวน...........................คน นอกจากนี้แล้วชมรมได้จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนเมื่อ.................................................
จากการร่วมกันดำเนินการดังกล่าวและจากการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการชมรมเป็นประจำทุกเดือน คณะกรรมการชมรมมีมติเห็นพ้องร่วมกันว่าคุณค่า พลัง รากฐานทางวัฒนธรรมที่บันทึกไว้ในใบลานกำลังลดหายไปจากชุมชน เนื่องจากตัวอักษรที่มีการบันทึกไว้โดยคนดั้งเดิม ทั้งนี้คนในชมรมซึ่งอยู่ในชุมชนก็มีความสามารถในการอ่าน เช่นจากการทดลองถ่ายถอดความรู้ในใบลานเมื่อวันที่.......เมษายน 2552 โดยพ่อแหวนเป็นผู้อ่าน และหมอสิงห์เป็นผู้ช่วยบันทึก พบว่าใช้เวลา 1 ชั่วโมง ต่อ 1 หน้า ทั้งนี้ชมรมได้สำรวจใบลานในชุมชนพบว่ามีอยู่ในวัด............แห่ง จำนวน....................ผูก จำนวน...................หน้า และอยู่กับบุคคล.....................คน จำนวน......................ผูก จำนวน...................... หน้า ซึ่งเป็นเพียงการสำรวจเบื้องต้น ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ ฟื้นฟูความรู้ที่มีอยู่ในใบลานที่มีในชุมชน เป็นรากเหง้าของชุมชนจึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวนี้ขึ้นและคาดว่าจะทำต่อเนื่องไปเพื่อให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านในตำบล และเป็นต้นแบบให้ชุมชนอื่นได้ร่วมเรียนรู้ต่อไป
ซึ่งข้อความที่...................... ไว้เป็นข้อมูลที่พื้นที่เองต้องหาข้อมูลมาเติม และอาจะเพิ่มเติมอย่างอื่นได้ที่เกี่ยวข้องเช่นใบลานอยู่กับใคร กี่ผูก กี่แผ่น กี่หน้า เป็นเรื่องอะไร ใครจะมาอ่าน ใครจะมาช่วยบันทึก เหล่านี้ต้องระบุให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการดุ่ยทำ โดยวางกระบวนการทำงาน กลวิธีการดำเนินการ
1.กำหนดภารกิจของโครงการได้แก่ สำรวจรวบรวมให้ครบทุกหมู่บ้าน , ให้มีคณะทำงานถอดความรู้ในใบลานแบบคำต่อคำ ตัวอักษรต่อตัวอักษร , ให้มีการถ่ายรูปและบันทึกไว้ในระบบฐานข้อมูลที่ทันสมัย (คอมพิวเตอร์) , ให้มีการจัดทำเอกสารหนังสือที่ได้จากการถ่าย ถอด แปลใบลาน , ให้มีการจัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน
2.ประชุมชี้แจงภารกิจการดำเนินการ , สถานการณ์ สถานภาพของใบลานที่มีในตำบลจอมศรีจากการสำรวจเบื้องต้นของชมรมหมอพื้นบ้านตำบลจอมศรี ให้แก่ผู้นำชุมชน , คนในชุมชน , พี่เลี้ยง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.ประชุมติดตามผลการถอดความรู้ในใบลานและร่วมกันแปลทุก 2 เดือน พร้อมทั้งถ่ายรูปใบลานแต่ละหน้า
4.คณะทำงานถอดความรู้ในใบลานอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำ
5.จัดทำเอกสารที่ได้จากการถ่าย ถอด แปลใบลาน ได้แก่ หนังสือทำมือ (1 ฉบับ / 1 ผูก) , หนังสือรวมความรู้ใบลานของแต่ละหมู่บ้าน เป็นต้น
6.จัดเวทีคืนข้อมูลเกี่ยวกับรากฐานทางวัฒนธรรมที่บันทึกไว้ในใบลาน ปีละ 1 - 2 ครั้ง
ก็น่าที่จะบรรลุ วัตถุประสงค์คือ
1.เพื่อให้มีการรวบรวมความรู้เกี่ยวกับการรักษาอาการเจ็บป่วยของชุมชนดั้งเดิมที่บันทึกไว้ในใบลานที่มีในทุกหมู่บ้าน ในตำบลจอมศรี
2.เพื่อกระตุ้นให้คนในชุมชนตำบลจอมศรีตระหนัก และตื่นรู้ในรากฐานทางวัฒนธรรมที่บันทึกไว้ในใบลานผ่านกระบวนการศึกษารวบรวม ถ่ายถอด และจัดทำเอกสารในรูปแบบต่าง ๆ
ฝันให้ไกลสุด ๆ คือ “ชุมชนตำบลจอมศรีเราน่าจะได้จัดตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาใบลานตำบลจอมศรี เพื่อเป็นการเข้าถึงรากเหง้า เข้าใจรากฐานเดิมของสังคม สร้างคุณค่า พลัง และความสุขให้แก่ชุมชนในที่สุด”
และนำความรู้เกี่ยวกับการบันทึกเรื่องการใช้ยาไปปรับใช้ ไปลองใช้ให้เป็นเรื่องจริงไม่ใช่ตำนาน
อีกปรเด็นที่เราพูดคุยกันวันนั้นก็คือเรื่องเครื่องฝานยา เพราะพ่อบุญไทยมีความหวังดีกับชมรมจะได้มีรายได้เข้า แต่เนื่องจากมติของที่ประชุมไม่เห็นด้วย ก็เลยต้องแขวนเรื่องนี้ไว้ก่อน ก็น่าเห็นใจพ่อบุญไทยครับแกพยายามวิ่งเต้น “บ่อยู่บ่เซา” ขอชื่นชมนะครับ
ไม่มีความเห็น