ศาสนาใหม่ในยุคโลกาภิวัตน์


มนุษย์ทุกชีวิตจึงแสวงหามันอย่างเอาเป็นเอาตาย

         ผมดีใจที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยที่มีแต่ความสงบสุข ดีใจที่เกิดในยุคเทคโนโลยีทันสมัยสุดขีด แต่ผมกลับมีความรู้สึกแปลกๆว่าเกิดมาหลงยุค ยุคผู้คนเดินขวักไขว่อย่างเร่งรีบในชุมชนที่คับคั่งเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ข่าวบางที่ มีการรบราฆ่าฟันแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นซึ่งผมไม่ชอบเลย  ผมเป็นคนดิบเพราะไม่เคยบวช ไม่มีสิทธิถูกคนอื่นเรียกเป็น ทิด เป็น น้อย เป็น หนาน นำหน้าชื่อ แต่ช่วงชีวิตหนึ่งเคยกินข้าวก้นบาตร นอนกุฏิและศาลาวัดเพื่อความอยู่รอด คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งพระสงฆ์เป็นผู้ถ่ายทอดได้ซึมซับสู่ความรู้สึกทำให้เกิดเป็นความเชื่อแล้วคิดเสมอว่าตนเองนับถือศาสนาพุทธ นับถือพุทธ ไม่จำเป็นต้องห้อยพระเครื่องไว้เต็มคอเพราะศาสนาพุทธสอนให้เรา ละเว้นทำชั่ว จงทำดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์  มีสติสัมปชัญญะ ทุกวันนี้ผมสับสน เพราะไม่ทราบว่าเรานับถือศาสนาอะไรกันแน่เนื่องจากแต่ละคนนับถือสิ่งนั้นมากกว่าศาสนาที่ปากบอกว่านับถือ  ที่แน่ๆได้มีความเชื่อแปลกใหม่อุบัติขึ้นแล้วในโลกเบี้ยวๆใบนี้ที่เริ่มร้อนระอุขึ้นทุกวัน  อาจจะกล่าวได้ว่ามันคือ ศาสนาใหม่ ศาสนาที่ไม่มีศาสดาซึ่งเกือบทุกคนในโลกนี้นับถือไปโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ  คำสั่งสอนของศาสนาใหม่นี้ สวนทางกับทุกศาสนาที่เคยมี  สอนให้คนเราเอารัดเอาเปรียบ สอนให้คนมีความเห็นแก่ตัว ใครไม่นับถือก็จะอยู่ได้อย่างยากยิ่ง มนุษย์ทุกชีวิตจึงแสวงหามันอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมทิ้งท้ายตรงนี้ให้ผู้อ่านได้คิดว่า มันเป็นอะไรกันแน่ที่ผมกล้าเขียนว่า ศาสนาใหม่ในยุคโลกาภิวัฒน์

หมายเลขบันทึก: 255518เขียนเมื่อ 14 เมษายน 2009 20:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 13:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • ถ้าศาสนาที่น้องกำลังกล่าวถึง
  • กำลังเข้ามาเมืองไทย
  • คงน่ากลัวมากๆ
  • เพี๊ยง....อย่าได้ก้าวย่างมาเลย

มันมาตั้งนานแล้วครับ พี่มนัญญายังไม่รู้สึกตัวอีกหรือครับเพราะพี่ก็นับถือแบบถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว

ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีค่ะ  มันอยู่ที่จิตใจค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท