... ท่านอาจารย์มาร์ซิน วอจนาร์ และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐฯ ทำการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยแพทย์โปแลนด์ ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 5,692 คน ผลการศึกษาพบว่า คนที่มีปัญหาการนอน เช่น นอนหลับแล้วตื่น ตื่นแล้วนอนไม่หลับอีก, หลับยาก, นอนไม่หลับทั้งคืน ฯลฯ ตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไปเพิ่มความเสี่ยง (โอกาส) ฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น 2.6 เท่า ... ลักษณะการนอนหลับที่เพิ่มเสี่ยงการฆ่าตัวตายชัดเจนคือ หลับง่าย-ตื่นง่าย-ตื่นแล้วหลับยาก (terminal insomnia) คนที่มีปัญหาการนอนหลับแบบนี้มีความเสี่ยงที่จะคิดฆ่าตัวตายเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือวางแผนการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังเสี่ยงที่จะพยายามฆ่าตัวตายเพิ่มเกือบ 3 เท่า ... องค์การอนามัยโลกรายงานว่า โลกเบี้ยวๆ ใบนี้ (6,790 ล้านคนในเดือนมกราคม 2552) มีคนฆ่าตัวตายสำเร็จประมาณปีละ 877,000 คน (0.0129%) [ UScensus ] คนที่พยายามฆ่าตัวตาย (suicide attempts) ไม่ได้ตายทุกครั้ง สถิติที่ผ่านมาพบว่า ถ้าพยายาม 10-40 ครั้ง (เฉลี่ย 20 ครั้ง) จะถึงตาย 1 ครั้ง ... นั่นคือ คนบนโลกเรา 10,000 คน มีคนที่พยายามฆ่าตัวตายปีละ 25.8 คน และฆ่าตัวตายสำเร็จ (ตายจริง) 1.29 คน สรุปง่ายๆ คือ คน 10,000 คนจะตายจากการฆ่าตัวตายประมาณ 1 คนต่อปี กลไกที่เป็นไปได้คือ การนอนไม่พออาจทำให้ความสามารถในการคิดอ่านลดลง ความยับยั้งชั่งใจลดลง การตัดสินใจตกลง และความรู้สึกสิ้นหวัง (hopelessness) เพิ่มขึ้น ... สมองคนเรามีระบบการคิด 2 ระดับใหญ่ๆ ได้แก่ ระดับสันดานดิบ ซึ่งมีแต่ความต้องการหรือความอยากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใช้แต่อารมณ์ และระบบสมองใหญ่ ซึ่งมีเหตุผล-จริยธรรม มีการยับยั้งชั่งใจ การนอนหลับอาจทำให้สมองใหญ่ทำงานได้น้อยลง ทำให้ความสามารถในการคิดอ่าน ตัดสินใจ และการยับยั้งชั่งใจลดลง ... อาจารย์โวจนาร์กล่าวว่า การศึกษานี้อาจนำไปสู่การตรวจคัดกรองหาคนที่นอนไม่หลับ หรือนอนไม่พอ... แล้วหาทางแก้ปัญหาตั้งแต่เริ่มแรกก่อนที่จะเกิดความคิดฆ่าตัวตาย ว่าแต่ว่า คืนนี้พวกเรานอนพอแล้วหรือยัง ... ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ ที่มา >
ไม่มีความเห็น