วันหนึ่ง ขณะเคนซึ่งเป็นเด็กใหม่กำลังกวาดลานวัด เขาก็พบกับพระสูงอายุตาบอดรูปหนึ่งยืนอยู่ ตาของท่านเปิดให้เห็นเป็นเม็ดขาวแข็งดูน่ากลัวทั้งสองข้าง
เคนถามพระรูปนั้นว่า : You can not see. (ท่านมองไม่เห็น)
พระบอด : You think I can not see. (เธอ “คิด” ว่าฉันมองไม่เห็น)
เคนพูดอย่างกลัวๆ ว่า : Of all things to living in darkness must be the worst. (การอยู่ในโลกแห่งความมืดเป็นสิ่งแย่ที่สุดในการมีชีวิต)
พระบอด : Fear is the only darkness. (ความกลัวต่างหากคือความมืดมิดที่สุด)
พระบอด : Strike me. (ตีฉันสิ พระบอดให้เคนเอาไม้กวาดตีตนเอง แต่ท่านรับมือเคนได้ทุกท่า และทำให้เคนล้มขมำคลุกฝุ่นเลยทีเดียว)
พระบอด : Never assume that the man with no eyes, he can not see (อย่าทึกทีกเอาว่าคนตาบอด มองไม่เห็น)
พระบอด : Close your eyes. What do you hear? (หลับตาสิ เธอได้ยินเสียงอะไรบ้าง)
เคน : I hear the water. I hear the bird. (ผมได้ยินเสียงน้ำไหล เสียงนกร้องครับ)
พระบอด : Do you hear your own heartbeat. (เธอได้ยินเสียงหัวใจของเธอเองเต้นไหม)
เคน : No. (ไม่ครับ)
พระบอด : Do you hear the grasshopper which is at your feet. (เธอได้ยินเสียงตั๊กแตนที่อยู่ที่เท้าเธอไหม ด้วยความตกใจ เคนรีบเปิดตาขึ้นมอง เขาเห็นตั๊กแตนอยู่ที่เท้าเขาจริงๆ)
เคน : Old man, How is it that you hear this thing. (ตาครับ ท่านได้ยินเสียงเหล่านี้ได้อย่างไรครับ)
พระบอด : Young man, How is it that you do not. (หนุ่มน้อย แล้วเธอไม่ได้ยินเสียงนั้นได้อย่างไรละ)
ไม่มีความเห็น