ศาสนาก็เหมือน "เรือ" ที่ต้องใช้ให้เป็น....
พายไม่เป็นก็ไม่ไปไหน...นั่งไม่ดีก็ล่ม...)
และเมื่อถึง "ฝั่ง" ก็ต้อง "ขึ้นฝั่ง"... อย่ามัวเสียดาย "เรือ"...
...ส่วนที่ว่า ศาสนาเป็นยาเสพติดนั้น ก็ขอให้พิจารณาเรื่องมอร์ฟีน มอร์ฟีนนั้นโดยสภาพของมันเป็นวัตถุ เมื่อเอาไปใช้ในฐานะยาเสพติดก็เป็นยาเสพติด แต่ขณะเดียวกันแพทย์ได้นำมอร์ฟีนไปใช้เป็นยาแก้ปวดที่บำบัดทุกข์และช่วยชีวิตผู้ป่วยได้เป็นจำนวนมาก...แสดงให้เห็นว่าของอย่างเดียวกันเป็นเครื่องเสพติดก็ได้ เป็นเครื่องแก้ปัญหาก็ได้...
สถานปฏิบัติธรรมบางที่ ผู้คนติดกันงอมแงมครับ เพราะเขามีวิธีการทำให้คนมาปฏิบัติธรรมรู้สึกมีความสุข (แต่ไม่ได้แก้ปัญหาชีวิตนะครับ)
ขออนุญาติแลกเปลี่ยนนะครับ..
ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วมีสองโลก คือ โลกทางธรรม และ โลกปกติก็อาจนับว่าเป็นสิ่งเสพย์ติดได้ครับ รวมถึงปฏิบัติเพื่อมุ่งหวังจะบรรลุธรรมโดยมีลาภสักการะ
ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วทุกข์น้อยลง ปล่อยวางมากขึ้น เข้าใจหลักไตรสิกขา ไตรลักษณ์ ใช้ชีวิตอยู่กับโลกตามปกติ แต่ใจสูงขึ้น ไม่มองคนอื่นแย่กว่าเราเพราะไม่ปฏิบัติธรรม อันนี้เป็นการน้อมนำธรรมะมาสู่ใจครับ
สวัสดีครับ ท่าน
สวัสดีครับ ท่าน
ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วทุกข์น้อยลง ปล่อยวางมากขึ้น เข้าใจหลักไตรสิกขา ไตรลักษณ์ ใช้ชีวิตอยู่กับโลกตามปกติ แต่ใจสูงขึ้น ไม่มองคนอื่นแย่กว่าเราเพราะไม่ปฏิบัติธรรม อันนี้เป็นการน้อมนำธรรมะมาสู่ใจครับ
ศาสนาก็เหมือน "เรือ" ที่ต้องใช้ให้เป็น....
พายไม่เป็นก็ไม่ไปไหน...นั่งไม่ดีก็ล่ม...)
และเมื่อถึง "ฝั่ง" ก็ต้อง "ขึ้นฝั่ง"... อย่ามัวเสียดาย "เรือ"...
สวัสดีครับ
ศาสนาก็เหมือน "เรือ" ที่ต้องใช้ให้เป็น....
พายไม่เป็นก็ไม่ไปไหน...นั่งไม่ดีก็ล่ม...)
และเมื่อถึง "ฝั่ง" ก็ต้อง "ขึ้นฝั่ง"... อย่ามัวเสียดาย "เรือ"...
สวัสดีครับ ท่านทั้งหลาย