วสส.ขอนแก่น
นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า การได้มีชีวิตที่ประสบความสำเร็จมาจนถึงวันนี้ ตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ เพราะจบมาจาก วสส.ขอนแก่น เมื่อ ปี 38 แท้ๆ 
บอกตามตรงว่า เคยท้อเหมือนกัน กับการทำงานที่เหนื่อย แต่ค่าตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า(จากความเป็นจริง) แต่พวกเราชาวหมออนามัยที่เรียนจบจาก วสส.ขอนแก่น เชื่อว่าทุกคนเหนื่อยแต่ไม้ท้อถอย
สังเกตบริเวณหน้า วสส.ขอนแก่นนะคะ ดูเด่นเป็นสง่ามากขึ้น ภายในเนื้อที่บริเวณที่จำกัด แต่สามารถสอนนักศึกษาให้ดูแลสุขภาพประชาชนได้เป็นอย่างดี เป็นพันเป็นหมื่นต่อพื้นที่หนึ่งๆ ถ้าไม่ใช่เลือด วสส.ขอนแก่นที่เข้มข้น คงลำบาก และอำลาไปทำงานเส้นทางอื่นนานแล้ว
สัปดาห์ที่แล้วมี อาจารย์จากวิทยาลัยพยาบาลสรรสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลฯ มาทำวิจัยเรื่องวัณโรคที่ บ้านภูมิศาลาและบ้านระกา ตำบลโคกเพชร อาจารย์ถามว่าไม่ไปเรียนพยาบาลหรือค่ะ? ดิฉันคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็เลยถือโอกาสถามอาจารย์พยาบาลว่า อย่างหนูน่าจะไปเรียนไหมค่ะ เป็นนักวิชาการชำนาญการ เงินเดือน 18,000 บาท มีโอทีใช้บ้าง เดือนละ ประมาณ 6,000 บาท ได้เงินขวัญกำลังใจมา 1,800 บาท (มันอาจจะไม่ค่อยเพียงพอสักเท่าไหร่ เพราะลูก 2 คน สีขวบกับสองขวบ) แต่ก็ไม่ถึงขนาดเดือดร้อนอะไร
ในทางกลับกันถ้าหนูไปเรียน ณ. สถานการณ์ปัจจุบันที่เรียน จบ ปริญญาโทแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ตรงสาขา เพราะจบ ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาผู้นำทางสังคม ธุรกิจและการเมือง จาก มหาวิทยาลัยรังสิต เพราะคิดว่า มีส่วนสำคัญอย่างมากในการนวัตกรรมสังคมที่ดิฉันทำงานอยู่ และทำงานร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่น และคนในสังคมที่มีความหลากหลาย ส่วนความรู้ด้านสาธารณสุข มีการต่อยอดการทำงานอย่างสม่ำเสมอตลอดเวลา ทั้งด้านการอบรมและอืนๆ แต่วิธีการคิดในการทำงานกับคนในสังคม ที่ให้เกิดการยอมรับและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างเหมาะสม มันต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ คนตัวเล็กๆอย่างฉันเปลี่ยนแปลงสังคมได้ คำตอบของอาจารย์ที่ว่า ถ้าพอเพียงแล้วก็ไม่ต้องไปเรียนหรอกค่ะ
แล้วคำว่าพอเพียงมันอยู่ตรงไหนเหรอ เราคาดหวังเงินค่าวิชาชีพ 3,500 ตั้งแต่ 4 - 5 ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบันเราก็ยังไม่ได้ และไม่มีวี่แววว่าจะได้ เพื่อนฉันหลายคนไปสอบเรียนต่อพยาบาลจนเรียนจบมาแล้วก็มี รับเงินเดือนและค่าวิชาชีพ+ค่าโอที+ค่าอื่นๆ มากกว่าฉันตั้งเกือบหมื่น ทั้งๆที่เราเรียนมาด้วยกัน เพียงแต่เขาไปเรียนต่อพยาบาล 2 ปีครึ่ง แล้วกลับมาทำงานต่อ ส่วนฉันสอบได้ นวก.สส.ตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน 12 ปีที่เป็นนักวิชาการมา จนมาถึงชำนาญการ แปลกกลับมีคนบอกว่าทางมันตัน ฉันเป็นได้แค่ นวก.ชำนาญการแค่นั้น นี่หรือคือ ชีวิตจริงของนักวิชาการสาธารณสุข สถานีอนามัย ที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะวางอนาคตของตนเอง ตอนแรกบอกว่าปรับเข้าแท่งแล้วมันดีอย่างนั้นอย่างนี้ จนกระทั่งปรับให้หัวหน้าสถานีอนามัยมาเป็นนักวิชาการสาธารณสุขทั้งๆที่ไม่มีผลสอบ (นอกจากวุฒิปริญญาตรี) ส่วนทีม นวก.เดิม ทีทำงานเป็นหัวปลา ตัวปลาและหางปลามาโดยตลอด ไม่มีคนมองเห็นศักยภาพ เรามักจะเป็นรองสายงานอื่นๆเสมอๆ ทำไม? เพราะเราไม่เข้มแข็ง ไม่ฉลาด หรือขาดการวางแผนที่ดี คงแค่คิดเท่านั้น แต่ไม่สามารถหาคำตอบได้
ประเทศไทยสำคัญในเรื่องของการพัฒนาคน ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกือบทุกแผน เน้นเรื่องของการพัฒนาคนเป็นสำคัญ แล้วทำไม ถึงไม่พัฒนาบุคลากรทุกหน่วยงานทุกสังกัด คนไทยทุกคนน่าจะได้รับโอกาสและการพัฒนาที่เท่าเทียมกันแล้วแต่ใครจะสามารถก้าวไปไหนแค่ไหน อย่างไร ตามกระบวนการ มาตรฐานที่สร้างขึ้นมา และควรค่าแก่การยอมรับ ตอนนี้ หลายคนขาดขวัญกำลังใจ แต่อย่าบอกนะว่า ไม่พอใจก็ลาออกไป เพราะคนที่พูดคำนี้ ต้องหันไปมองตนเองว่า มีเลือดสาธารณสุขมากพอหรือไม่? ท่านนายแพทย์ สสจ.ศรีสะเกษ ให้กำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอ ว่า ถ้าท่านยังไม่พอ ท่านอยู่ไม่ได้ ท่านก็ไปเรียนพยาบาลต่อ ถ้าท่านพอแล้ว ท่านก็ทำงานต่อไป ถ้าท่านไม่พอใจก็ลาออกไปทำอย่างอื่น (หรือจะไปประท้วง ) พวกเราก้อเลยพากันหัวเราะสนุกสนานปนเศร้า
ป้ายต่างๆใน วสส.ขอนแก่นดูสวยงามขึ้นมากกว่าอดีตเยอะเลย ดูแล้วสดใส สบายใจและสดชื่นด้วย 
แต่ป้ายนี้ ดูเหมือนเดิมนะ แต่ไม่ค่อยเก่าเลย วสส.ขอนแก่น ความทรงจำที่มีค่า สร้างคนคุณภาพ ที่มีจิตสำนึกและมีความอดทน
ความเห็น (11)
การสร้างคน ต้องใช้เวลา ปลูกจิตสำนึกให้
หกหนึ่งที่ผ่านมา
สวัสดีค่ะ ไม่เจอกันนานแล้วนะพอดีเข้ามานั่งอ่านที่เพื่อนเขียนแล้วเห็นด้วย ก็เลยอยากส่งกำลังใจให้เพราะเห็นด้วยกับเพื่อนที่บอกว่าพวกเราอาจจะท้อแต่ไม่ถอยเพราะเราเป็นวสส.ขอนแก่น จริงค่ะ อยากเป็นกำลังใจให้เพื่อนอีกคนค่ะ
ผ่านมาเห็นวันนี้เอง ทำงานต่อไปครับ วสส.ขอนแก่นเหมือนกัน ไม่ทอดทิ้ง จริงใจในประชา ปรารถนาให้ทุกคนพ้นโรคภัย พอ.50 ขก.
ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณหมออนามัยทุกๆท่าน ทุกๆรุ่นค่ะที่ไม่คิดจะทิ้งกันไป แม้อุปสรรคจะมากมายเพียงใดก็ตาม พวกเราก็จะฝ่าฟันไปให้ได้ แม้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด............จะยังเข้มข้นไปด้วยเลือดหมออนามัยที่อุทิศตนเพื่อประชาชน ในชนบท คนที่หลายๆฝ่ายมองว่า ไม่ควรจะมีวิชาชีพในการทำงานก็ได้
สุดแดนอีสานใต้
ดั่งเม็ดทรายพรายพร่างห่างวิถี อาจมีบ้างโดนคลื่นซัด พัดหลับหาย
แต่ชายหาดไม่เคยขาดซึ่งเม็ดทราย ยังโถมกายพรายพร่างเป็นทางชน
เปรียบเธอเป็นเทียนน้อยคอยเปล่งแสง ให้เปลวแดงแสงส่องไปทุกแห่งหน.....
......มีต่อครับบ
สวัสดีคับ ผมก็เป็นศิษย์ วสส.ขก.เหมือนกัน ผมเรียนทันตะคับ ผมได้อ่านสิ่งที่พี่เล่ามา
ผมประทับใจมากคับ แต่อย่างว่าคับ เรียนทันตะมันตัน ถ้าไม่เรียนสาสุข หรืออย่างอื่นต่อ
ศิษย์ วสส.ขอนแก่น เปรียบด้วยคุณภาพที่คับแก้ว ภูมิใจมากครับที่ได้เป็นศิษย์ วสส.ขอนแก่น ถึงแม้นจะมาคนละสายงาน แต่ในใจไม่เคยทอดทิ้งสถาบันนี้เลยครับ Dental 30 คิดถึงมากครับ..
คิดดีมากมายๆ เห็นด้วยอย่างยิ่ง พอเพียง เพียงพอ ก่อสุข...
หลายปีผ่านไป คนสาธารณสุขยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้ความสามารถยิ่งเพิ่มมากขึ้น เรียนจบ ดร.มาก็มากมาย หลีกหนีความไม่มี พรบ.วิชาชีพ ไปเป็นอาจารย์ก็มากโข แล้วถ้าเราำไปกันหมดใครเล่าจะอยู่เคียงข้างประชาชน ก็จึงมี ดร.อีกมากมายที่ไม่ทิ้ง ความเป็นหมออนามัยไป แถมยังคงอยู่เป็นกำลังสำคัญให้เกิด พรบ.วิชาชีพ เพื่อพวกเราและเพื่อประชาชน ได้รับการดูแลจากกลุ่มคนที่มีคุณภาพมีมาตรฐาน มีกฏหมายรองรับ
คนสาธารณสุข เป็นคนที่เข้มแข็ง แกร่งและำไม่เคยท้อ ต่ออุปสรรค มุ่งแสวงหาความก้าวหน้าเสมอ แต่ละเส้นทางเราบุกบั่นฝ่าฟันเสมอ จนบางทีลืมไปด้วยซ้ำว่าความเหนื่อยยากมันเป็นอย่างไร เพราะอยู่กับมันจนชาชินแล้วนั่นเอง งานที่มีมากเพิ่มขึ้นตาม นโยบาย และ KPI ที่เราต้องทำให้สำเร็จ เป็นงานที่ท้าทาย ทำให้พวกเราสนุกและไม่เบื่อค่ะ
บ้างครั้งก็ท้อ เบื่อ เหมือนถูกลำเอียง
ประธานทันตะ 17
เราทำบุญมาน้อย เลยต้องเหน่ือนมากหน่อย เป็นกำลังใจชาว วสส.ขอนแก่นทุกคน
เป็นกำลังใจให้ค่ะ พี่จบจากวสส.ยะลา ปี 2537 ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข(หัวหน้าสถานีอนามัย) ดีใจที่ได้เข้ามาอ่าน อย่าท้อค่ะ สู้ สู้ พี่อยากจะบอกว่าพี่ก็ภูมิใจมากที่พี่ได้มีโอกาสเข้ามาเรียนในวสส.เช่นกัน