เด็กชายเอส วัย 3 ขวบ คุณหมอแนะนำให้คุณแม่พาน้องมาประเมินศักยภาพ และรับโปรแกรมกับสถาบันไพดี้ หลังจากได้ไปพบคุณหมอพัฒนาการเด็กมาระยะหนึ่งแล้ว
น้องเอส เป็นเด็กตัวเล็ก รูปหล่อ ผิวพรรณสะอาด คล่องแคล่ว พูดจาฉะฉาน โต้ตอบได้ดี ฉลาด ไม่ตื่นกลัว เข้ากับคนได้ดี ปัญหาที่คุณแม่เป็นกังวล เพราะ น้องไม่ค่อยมีสมาธิในห้องเรียน ทำงาน/การบ้านไม่ค่อยเสร็จ เดินงุ่มง่าม ซุ่มซ่ามเดินชนของบ่อย ไม่ค่อยทำในสิ่งที่มอบหมายให้ทำ ปฏิเสธการทำกิจกรรมบางอย่างอยู่เรื่อยๆ
ผู้ประเมินได้ทำการประเมินน้อง ทั้งด้านการมีสมาธิ ประเมินพัฒนาการของกล้ามเนื้อทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ น้องเอส ให้ความร่วมมืออย่างดี โดยมีคุณแม่นั่งสังเกตุการณือยู่ห่างๆ เมื่อการประเมินสิ้นสุด ผู้ประเมินได้สรุปผลการประเมินให้คุณแม่ทราบ และอธิบายเป้าหมาย ในการจัดโปรแกรมให้กับน้อง คุณแม่เห็นด้วยและพึงพอใจกับผลการประเมิน (ครั้งแรก) และเป้าหมายในการฝึก
สิ่งที่คุณแม่ได้พูดกับผมหลังจากให้น้องได้รับการประเมินศักยภาพครั้งนี้ คือ ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าลูกชายทำอะไรไม่ได้บ้าง เพราะเห็นเค้าแข็งแรงดี ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าที่ลูกชายปฏิเสธสิ่งที่แม่ขอให้ทำนั้นเป็นเพราะเค้าทำไม่ได้ ดิฉันต้องช่วยลูกให้มากกว่านี้ ผมได้พูดให้คุณแม่ท่านนี้ให้คลายกังวล ว่าน้องเค้ามีศักยภาพและมีความสามารถที่ดีหลายอย่าง สิ่งเล็กน้อยที่เป็นปัญหานั้นไม่หนักหนาครับ
จากกรณีคุณแม่รายนี้ ผมได้ข้อคิดที่นำมาย้ำกับทีมงานของสถาบัน ว่าต้องให้ความสนใจครอบครัวของเด็กให้มากขึ้น ให้ความรู้ ให้ข้อมูล ให้คำปรึกษา แนะนำ และสร้างทัศนคติที่ดีในการช่วยเหลือและดูแลลูก เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดของเด็ก เพื่อที่จะไม่ทำให้เด็กเสียโอกาส เพราะถ้าแม่-พ่อไม่รู้ ไม่เข้าใจลูกว่าเป็นอะไร มีปัญหาอะไรบ้าง การดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสมคงเกิดขึ้นไม่ได้.....
ไม่มีความเห็น