สุขภาพเท้า


10 วิธีมาดูแลสุขภาพเท้ากันเถอะ

ถ้าพูดถึงแฟชั่นแล้ว ทุกส่วนในร่างกายของเราก็มีสิทธิที่จะอัพเดทแฟชั่นได้เท่า ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นผม ที่ต้องคอยตามเทรนด์สี ทรง หรือจะเป็นร่างกาย ที่มักถวิลหาเสื้อผ้าที่ทันสมัย แบบ สีที่ไม่เอาท์ เท้า ก็ยังต้องการรองเท้าแบบที่ใส่สบาย แต่ไม่ตกเทนด์ หรือแม้กระทั่งเล็บ ก็ยังต้องการการแต่งแต้มสีสัน เพื่อความสวยงาม

และวันนี้เราก็มี 10 วิธีการดูแลมือ เท้า หลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน และเล็บ ที่ไม่ค่อยได้หายใจเมื่อคุณแต่งแต้มสีสันลงไป

เริ่มต้น เราต้องทำความสะอาดมือ เท้า และเล็บ เสียก่อน โดยการใช้แปรงขนนุ่ม กับสบู่อ่อน ๆ ถูเบา ๆ บริเวณมือ เท้า และเล็บ อย่าลืมที่จะถูใต้เล็บด้วยละ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่มีเชื้อโรคเข้าไปสะสมอยุ่มากที่สุด หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

2. ควรตัดเล็บมือเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง ส่วนเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ไม่ควรตัดเล็บจนชิดบริเวณผิวหนังส่วนปลายนิ้วเกินไปเพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเป็นแผลแล้วยังทำให้พื้นที่หน้าเล็บสั้นลงได้ และถ้าตัดชิดขอบลึกลงไปเรื่อยๆ จะดูเหมือนเล็บของคนที่ชอบกัดเล็บซึ่งไม่สวยงาม สำหรับเล็บเท้าควรตัดในแนวตรงเป็นทรงเหลี่ยม ไม่ควรตัดเล็บลงซอกข้างเล็บมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดเล็บขบได้

3. รับประทานที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ เพราะเล็บก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องการสารอาหารเพื่อการเจริญเติบโตเหมือนกัน ส่วนสารอาหารที่เล็บต้องการ เช่น โปรตีน วิตามินเอ ซี และอี รวมถึงแร่ธาตุสังกะสีที่มีอยู่ในอาหารทะเลและเมล็ดธัญพืช

4. นอกจากสารอาหารแล้ว การทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน ยังช่วยป้องกันผิวมือไม่ให้หยาบกระด้าง โดยเฉพาะหลังจากที่มือต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการป้องกันก็คือ ในช่วงที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ก็ให้สวมถุงมือทุกครั้ง

5. นวดนิ้วมือและเท้าด้วยครีมบำรุงหรือน้ำมันบำรุงผิว ประมาณ 3-5 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณมือและเท้า ควรนวดบริเวณปลายนิ้วและเล็บด้วยเพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมสร้างเล็บที่อยู่บริเวณโคนเล็บ ถ้าไม่สะดวกระหว่างวันสามารถทำได้ในช่วงก่อนเข้านอนแล้วสวมถุงมือผ้าและถุงเท้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซึมซาบสู่ใต้ผิวของน้ำมันหรือครีมบำรุง หรือจะใช้สครับสำหรับนวดเท้า เพื่อการไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น ซึงปัจจุบัน สครับสำหรับมือและเท้าก็หาซื้อได้ง่าย และสามารถทำได้เองที่บ้าน เสียเวลาไม่นาน แต่รับรองว่าสบายผิวแน่นอน

6. เนื่องจากธรรมชาติสร้างเล็บให้ออกมาในรูปแบบของแผ่นโปรตีนชนิดแข็ง และให้ทำหน้าที่ปกป้องปลายประสาทที่มีอยู่มากบริเวณปลายสุดของร่างกายไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือน อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยในการหยิบจับ และแกะเกา ส่วนหน้าที่งัดแงะของแข็ง หรือว่าใช้เป็นไขควงในการหมุนนั่นหมุนนี่ ผิดวัตถุประสงค์นะคะ อาจจะทำให้เล็บฉีกได้

7. สำหรับสาว ๆ ที่ชอบทาเล็บเป็นชีวิตจิตใจ เรียกว่าไม่ยอมให้เล็บได้หายใจเลยแล้วละก็ ฟังทางนี้ ควรทาน้ำยารองพื้นเล็บก่อนทาสี เพื่อป้องกันการเกิดสีที่ไม่พึงประสงค์หลังจากการทาเล็บได้ระยะหนึ่ง และควรทาน้ำยาเคลือบเงาเล็บเพื่อความวาวและติดทนนาน แต่ไม่ควรทาเล็บสีเข้มติดต่อกันนานๆ ควรสลับสีอ่อนบ้าง และควรหยุดพักการทาเล็บเมื่อเห็นว่าสภาพเล็บดูแห้งหรือเกิดสีผิดปกติ

8. ในการเลือกซื้อน้ำยาทาเล็บ ควรคำนึงถึงการเลือกสีให้เหมาะสม ทั้งกับสีผิว โอกาสที่ใช้ สีเสื้อผ้า เครื่องสำอางและบุคลิกของตัวเอง

9. ควรศึกษาอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ เช่น วันหมดอายุ หรือสังเกตสภาพของผลิตภัณฑ์ว่ายังมีคุณภาพดีหรือไม่ โดยทั่วไปอายุของเครื่องสำอางเล็บอยู่ที่ประมาณ 3 ปี หรือดูจากลักษณะการแยกตัวของสีหากหมดอายุแล้วไม่ควรใช้เด็ดขาด

10. ในส่วนของเท้าก็ต้องการการดูแลเช่นกัน การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปร่างเท้าของเราก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาเท้าให้มีสุขภาพดี ซึ่งในการเลือกซื้อรองเท้านั้น เราควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่พอดี ไม่คับ หรือหลวมจนเกินไป เพราะการเสียดสีในขณะที่เดินนานๆ จะทำให้ผิวเท้าเกิดหนังที่แข็งด้าน และการใส่รองเท้าที่คับเกินไปบริเวณปลายเท้าอาจเป็นสาเหตุให้เกิดเล็บขบ เวลาที่เหมาะสมในการเลือกซื้อรองเท้าคือช่วงกลางวันที่เท้าได้เดินจนขยายตัวแล้ว และหลังจากที่ใส่รองเท้าส้นสูงมาตลอดทั้งวัน หลังเลิกงาน ลองแช่เท้าในน้ำอุ่นสัก 10-15 นาที จะช่วยผ่อนคลายอาการเมื่อล้าที่เท้าได้ค่ะ

และนี่ก็คือ 10 วิธีการดูแลมือ เท้า และเล็บของคุณ ให้ดูมีสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา...

 

หมายเลขบันทึก: 248300เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2009 00:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

ดีมากๆเลยจ้าพจ

เรายิ่งชอบตัดเล็บใกล้เนื้ออยู่

จะได้ระวังๆๆ

เท้าคู่นี้สำคัญพาเราไปทุกที่ เนอะ ๆๆ ว่ามะๆๆ

ง่า.... ขอโทษด้วยนะคะลืมลงที่มา

แบบว่าเพิ่งเคยทำบล็อคแบบนี้เป็นครั้งแรก

ก็ตั้งมีผิดบ้างอะไรบ้าง

อิอิ ^^

นี่คะที่มาของข้อมูล

http://daowroong.igetweb.com/index.php?mo=3&art=127356

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=healthyservice&date=24-01-2008&group=7&gblog=49

ปล. เม้นกันเยอะๆๆๆนะคะเพื่อเป็นกำลังใจ

บางครั้งสิ่งใกล้ตัว แต่ชอบลืมเป็ประจำ ซึ่งสำคัญมาก ขอบคุณสำหรับความรู้ดีดีค่ะ

ดีดีเลย เปงวิธีที่น่าสนใจมากมาย

จะลองนำไปใช้นะ

เล็บยาวทีไรมีปัญหาทุกที

กลัวเท้าเหม็นด้วย

อิอิ

เราทาโลชั่นนะ

ไม่ค่อยได้ทาที่เท้าเลยอ่ะ

เปนคนละสีกันแล้วตอนนี้

ดีจริงๆ เลย

จะได้สวยจรดเท้า อิอิ

ดีมากๆเลย

อย่างนี้เราต้องกลับมาดูแลเท้า บ้างแล้ว

จะได้มีสุขภาพดีทุกส่วน

อิอิ

โลชั้นทาบำรุงเท้าทาแล้วดีนะ

เท้าหายด้านลงเยอะเลย

แหม ๆ

มีสาระมากมายจริง ๆ

แล้วเอามาให้อ่านอีกนะ

เราลืมส่วนที่สำคัญที่สุดมาตั้งนานนะเนี่ย

ขอบคุณที่ทำให้เราคิดถึงเค้า

ดีมากค่ะ

จะได้นำแนวทางไปดูแลตัวเองบ้าง

ส่วนใหญ่จะชอบแนะนำคนไข้

แต่ไม่ได้นำมาปฎิบัติกับตัวเองเลย

ได้เวลาดูแลเท้าแล้วซิเรา...แค่5นาทีก่อนนอน

สำคัญจริงๆจ้า

เยี่ยมค่ะ

ด้วยวิชาชีพเรา เท้าก็สำคัญจริงๆนะคะ^^

ขอบคุณมากๆเลยนะ

เราไม่เคยรู้วิธีดูแลละเอียดแบบนี้เลย

ดีมากเลย

เพราะเราเป็นพยาบาลก็ต้องล้างมือบ่อยจนบางครั้งก็ทำให้มือแห้ง

จะนำคำแนะนำไปทำดูนะ

ขอบคุณนะคะ

อ่านแล้วทำให้เราได้ประโยชน์มากเลย เดี๋ยวเราจะนำเอาไปใช้นะ

เป็นคนที่ชอบทาเล็บเท้ามากๆๆ(เพราะมือทาไม่ค่อยได้ ต้องขึ้นวอร์ด อิอิ)

ชอบใส่ส้นสูงด้วยค่ะ

อย่างนี้สุขภาพเท้าแย่เลย

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆๆนะคะพจจี้^^

อืม ๆ ดีจังบทความนี้

ทุกคนมักมองข้าวสุขภาพเท้ากันทุกที

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีดีนะคะ หวังว่าจะมีข้อเสนอเรื่องอื่นๆนะคะ รอติดตามอยู่นะคะ

ว้าวๆๆ

จาได้เอาไปใช้บ้าง

ขอบคุณเน้อ

เรื่องของเท้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยละค่ะ  และเล็บมักขบเป็นประจำ  ขนาดว่าดูแลอย่างดีแล้วนะค่ะ ต้องขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับการดูแลเท้าที่ดีๆ

                             

ดีมากเลย

เค้ายังไม่เคยดูวันหมดอายุเลยอ่ะ ซื้ออย่างเดียว

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีดีนะ

เป็นเคล็ดลับที่ดีมากๆ โดยเฉพาะวิชาชีพอย่างเรา

เท้าคือสิ่งที่พาเราไปที่ต่างๆๆ ต้องดูแลเค้าดีดี

อืมดีจังเลย ต้องดูแลให้ดีแล้วหละ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท