โรฮิงยา(Rohingya)
ประเทศไทยได้ตื่นตัวมาอย่างน่าตกใจ เมื่อสำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวทหารไทยทารุณกรรมชาวโรฮิงยา กระแสความรู้สึกของคนไทยที่มีต่อข่าวนี้ค่อนข้างแรง และมีความคลาดเคลื่อนในการแสดงความคิดเห็นต่อข่าวนี้ ทั้งๆที่มีหลายๆคนไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าโรฮิงยาคืออะไร และขณะเดียวกันสื่อต่างๆได้รายงานโรฮิงยากันไปคนละทาง แต่ที่เลวร้ายมีการเชื่อมโยงชาวโรฮิงยาว่าเป็นนักรบรับจ้าง อพยพมาป่วนใต้ ซึ่งมีหลายประเด็นที่คนไทยควรทำความเข้าใจกับชาวโฮริงยาและความเกี่ยวข้องกับชาวไทยมุสลิม
โรฮิงยา(Rohingya)เป็นมุสลิมที่อาศัยอยู่ทางเหนือของประเทศพม่าติดชายแดนประเทศบังกลาเทศ ชาวโรฮิงยาอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของรัฐอารากัน(ยะไข่) มีภาษาเป็นของตัวเองคือ ภาษาอินดิค(Indic)คล้ายกับภาษาเบงกาลีที่ใช้พูดในประเทศบังกลาเทศและอินเดีย ไม่ได้ใช้ภาษามลายูหรือภาษายาวีตามที่สื่อไทยบางส่วนรายงาน ในรัฐอารากันมีประชากรประมาณ3ล้านคน เป็นชาวโรฮิงยาประมาณ 7แสน-1.5ล้านคน
มีรายงานและงานวิจัยหลายส่วนที่ให้ข้อมูลไว้ว่าชาวโรฮิงยาอยู่ในตอนเหนือรัฐอารากันมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 7-12 และได้นับถือศาสนาอิสลามเนื่องจากพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐอารากันมีพ่อค้าชาวอาหรับเข้ามาค้าขายเป็นเวลายาวนาน แต่ในสายตารัฐบาลเผด็จการพม่ามองว่าโรฮิงยาเป็นผู้ลี้ภัยอย่างผิดกฎหมาย และอพยพมาจากประเทศบังกลาเทศในสมัยที่พม่าตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของจักรวรรดินิยมอังกฤษ ทำให้ประชาชนชาวโรฮิงยาไม่ได้รับการรวมเข้าไปในกลุ่มชนพื้นเมือง รวมถึงความแตกต่างในศาสนาและภาษา อีกทั้งด้วยประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางด้านเขตแดนระหว่างบังกลาเทศกับพม่าเลยทำให้ชาวโรฮิงยาถูกมองว่าเป็นอื่นมากกว่าเดิม รัฐบาลเผด็จการพม่าจึงไม่รับรองการมีอยู่ของชาวโรฮิงยา ส่งผลให้ไม่ได้รับสัญชาติพม่า ซ้ำยังละเมิดสิทธิมนุษยชน ตลอดจนกวาดล้างชาวโรฮิงยาและปฏิบัติเหมือนโรฮิงยาไม่ใช่มนุษย์ เพราะโรฮิงยานับถืออิสลาม เป็นมุสลิม รัฐบาลพม่าไม่ยอมรับโรฮิงยาเป็นพลเมือง ชาวโรฮิงยาจึงลุกขึ้นต่อสู้เพื่ออิสรภาพ สิทธิเสรีภาพมาตลอด จนถูกปราบปราม เข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในช่วง 30 กว่าปีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาหลบหนีภัยเข้าไปในบังกลาเทศ ปากีสถาน ซาอุดิอาราเบีย เป็นหลัก โดยที่ประเทศรองลงมา คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรต มาเลเซีย และประเทศไทย
ตามกฎหมายสัญชาติพม่าปี 1982 (Burma Citizenship Law) ชาวโรฮิงยาต้องขออนุญาตจากรัฐบาลทหารถ้าจะออกจากพื้นที่ และต้องจ่ายเงินถ้าจะออกจากพื้นที่ ทำให้ชาวโรฮิงยามีสถานภาพความเป็นอยู่ที่ต่ำมากเนื่องจากไม่สามารถหางานทำหรือค้าขายอย่างต่อเนื่องได้
ชาวโรฮิงยายังถูกละเมิดไม่ให้รับสิทธิที่จะได้รับสัญชาติ ห้ามไม่ให้แต่งงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลทหารพม่า และ นับว่าเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีสถานการณ์ความเป็นอยู่ที่เลวร้ายที่สุดในพม่า ด้วยเหตุนี้ทำให้ชาวโรฮิงยาต้องหนีภัยจากพม่าเป็นจำนวนมาก เมื่อมาพิจารณาชาวโรฮิงยาในไทย ก็จะมีอยู่ประมาณ 10,000 - 15,000 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดระนองและมหาชัย แต่สถานการณ์ไม่ได้มีความเลวร้ายแตกต่างกันเลย เนื่องจากการที่ประเทศพม่าไม่ได้ให้การรับรองว่าเป็นประชาชนของพม่า อีกทั้งรัฐบาลไทยก็ยังไม่ได้มีการสำรวจประชาชนโรฮิงยาอย่างจริงจัง ทำให้หลายๆ ครั้งตกสำรวจ
อีกทั้งความเป็นไปได้ในการให้สถานภาพทางการเมืองกับชาวโรฮิงยายังเป็นไปได้ยากมาก เนื่องจากชาวโรฮิงยาไม่ได้อยู่ในกลุ่มเชื้อชาติที่กระทรวงมหาดไทยจะให้สถานภาพทางการเมือง เช่น แม้ว่าชาวพม่าทั่วไปจำนวนหนึ่งจะสามารถลงทะเบียนเป็นแรงงานต่างด้าวได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ชาวโรฮิงยาไม่สามารถทำได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้มีความรู้ในส่วนนี้และไม่เข้าใจว่าประชาชนชาวโรฮิงยาเป็นคนพม่า และหลายครั้งเข้าใจผิดว่าเป็นคนบังกลาเทศ ด้วยเหตุนี้ทำให้ชาวโรฮิงยาจำนวนหนึ่งถูกกดขี่มากกว่าแรงงานพม่า
รวมถึงการไม่มีความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของประชาชนโรฮิงยาของประชาชนทั่วไป เห็นได้จากการเข้าใจผิดๆ ว่าประชาชนชาวโรฮิงยาพูดภาษามาลายูหรือเป็นกลุ่มนักรบรับจ้างหรือเป็นขบวนการที่เตรียมเข้ามาป่วนใต้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่มีข้อเท็จจริงสนับสนุนแต่อย่างใด
คราวนี้มาดูสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็จะเห็นว่าหลังจากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานออกมา ทหารไทยก็ต้องออกมาชี้แจงกันอย่างละเอียด พร้อมทั้งรัฐบาลเองก็ต้องออมาแถลงเพื่อจะอธิบายให้ทั่วโลกเชื่อว่าทหารไทยไม่ได้ทำการทารุณกรรม เพื่อลดกระแสที่มีต่อกองทัพและเป็นการอธิบายเพื่อให้การประชุมอาเซียนได้รับความยอมรับจากนานาประเทศ ส่วนความจริงเราก็คงพิสูจน์กันอยากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของใคร ทำเพื่ออะไร หากจะวิเคราะห์ก็จะดูได้หลายๆมุม ในมุมที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเราก็รู้กันแล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่าล็อบบี้ยิสต์ใครเป็นคนให้ข่าวหรือไม่ แล้วโรฮิงยาลักลอบเข้าไทยมาทุกๆปี เป็นเวลานับสิบๆปีอยู่แล้ว ทำไมเพิ่งจะมาเป็นข่าวดัง ประกอบกับอยู่ในช่วงที่ไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพประชุมอาเซียน และในช่วงกองทัพกับรัฐบาลดูจะเข้าขากันเหนียวแน่น อย่างไรก็ดีทั้งหมดก็เป็นพระประสงค์ของพระองค์อัลเลาะห์(ซ.บ.) และอัลเลาะห์(ซ.บ.)นั้นได้รู้แล้วทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เราทำได้ก็ช่วยกันของดุอาให้พี่น้องโรฮิงยาได้รับสิทธิเหมือนกับคนบนโลกทั่วไป ได้มีสัญชาติ ได้มีที่อยู่อาศัย ได้หายจากความหิวโหย
สวัสดีคะอาจารย์
ดีใจมากคะที่ได้พบอาจารย์ที่นี่อีกครั้งหนึ่ง
เท่าที่ทราบมาอาจารย์มีงานมาก
อาจารย์เสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์โดยไม่คำนึงถึงฐานะเชื้อชาติจริงๆ
เรื่องราวของโรฮิงยาที่อาจารย์นำมาเสนอดีมาก อ่านแล้วเข้าใจเลยคะ
ดูแบล็กกราวของอาจารย์และดูงานที่นำเสนอสอดคล้องกับอุดมการณ์
ทึ่งมากเลยครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์
พิมเห็นบล๊อกของอาจารย์
น้ำตาซึมเลยค่ะไม่รู้ว่าอาจารย์จะยังจำลูกศิษย์คนนี้ได้ไหม
คนที่พยายาม..พูด(เสียงอยู่ในใจ)
วันนี้มันระเบิดแล้วค่ะ
อยากเรียนเชิญอาจารย์ไปอ่านนิทานของพิมได้..นะคะ คงเป็นบทสุดท้ายของที่นี่จริงๆค่ะ..พิมมาสายไปแล้วค่ะอาจารย์..
พิมยังคงรักนับถืออาจารย์เสมอนะคะ
สิ่งใดที่ทำให้อาจารย์ไม่สบายใจพิมขอโทษด้วยค่ะ
โห.. อาจารย์นภาพรกลับมาแล้วดีใจจังเลย
พวกเราคิดถึงอาจารย์มากที่สุดเลยคะ บรรยากาศเก่าๆจะได้กลับมาอีก
อาจารย์ให้ความอบอุ่นให้กับพวกเรา ให้ความรู้และให้ทักษะในการคิดที่ดีมาก
ที่สำคัญอาจารย์เป็นคนรักความยุติธรรม ก่อนอาจารย์จะตัดสินเรื่องใดอาจารย์
จะไปหาข้อมูลมาแน่นเปรี๊ยะ ซึ่งพวกเราก็ต้องยอมรับทุกคน
อาจารย์คะ ท่านอาจารย์สุวัฒน์ท่านยังเป็นคนเดิมที่ดีในสายตาของอาจารย์
ยังคงเขียนกลอนประจำที่นี่อยู่นะคะ ไปอ่านหรือยังคะ
ท่านอาจารย์สุวัฒน์ก็มีกิจกรรมภาคพลเมืองทำเพื่อประชาชนอยู่คะ
ยินดีต้อนรับการกลับมาของอาจารย์คะ
Human Right และ สิทธิต่างๆ ของความเป็นมนุษย์ ทุกคนควรได้รับ อยากให้ช่วยเหลือกันด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ค่ะ
ดีใจที่ได้พบอาจารย์อีกครั้งคะ ชื่นชมในปณิธานอันแน่วแน่ของอาจารย์คะ
ทองย่อมเป็นทองคะ
ทองแท้ของเรากลับมาแล้วนะคะ
ยินดีมากคะ
มาช่วยให้กำลังใจในกิจกรรมที่อาจารย์นภาพรทำอยู่คะ
ดีใจจัง อาจารย์กลับมาแล้วคะ
เมื่อคราวที่ผ่านมาอาจารย์ก็เป็นที่ปรึกษาคลี่คลายปัญหาให้พวกเรา
แล้วอาจารย์ก็กลับไปทำกิจกรรมของอาจารย์ หายไปนานเชียว
เดือนทราบคะ ถ้าอาจารย์ยังอยู่ อาจารย์จะเข้ามาอ่านที่นีเสมอๆทุกเช้าก่อนออกไปทำงาน
วันสองวันที่ผ่านมมีปัญหาเกิดขึ้นมาใหม่ แต่ปัญหาก็คลี่คลายด้วยตัวของมันเอง
คนเก่งอย่างอาจารย์คงจะติดตามอยู่เหมือนกันใช่ไหมคะ
มาวันนี้บางคนที่ได้เข้ามาทีหลังไม่เข้าใจ อาจารย์หากยังอยู่ในเมืองไทยช่วยอธิบายให้เขาหน่อยได้ไหมคะ
คนเก่งอย่างอาจารย์เก่งเสมอ เดือนเชื่อคะ
สวัสดีคะ คุณเพชรัตน์ หทัยกาญจน์
อาจารย์เองก็ดีใจที่ได้กลับมาแวะอีกครั้ง แต่คงเป็นช่วงเวลาสั้นๆ
ช่วงที่กลับมานี้แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองการตอบแต่ละรายคงเป็นการตอบสั้นๆ ไม่อธิบายมากเหมือนแต่ก่อน เรื่องราวของโรฮิงยาถือเป็นงานในหน้าที่ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด บางคนอาจไม่ทราบรายละเอียดจึงนำเรื่องราวมาลงเพื่อการศึกษาติดตามต่อไป
ขอบคุณนะคะ
สวัสดีคะคุณ โสภณพันธ์
เมื่อคราวที่แล้วมิได้เปิดเผยอะไรนัก มาเที่ยวนี้มาเปิดเผยหน้าที่และสิ่งที่ทำเป็นชีวิตจิตใจ และจะทำเช่นนี้ตลอดไปนะคะ
สวัสดีคะ คุณพิมฯ ลูกศิษย์คนโปรด
จำได้สิคะ มีช่วงหนึ่งอาจารย์เคยเข้ามาอ่านกลอนและเม้นท์ทุกๆเช้า หน้าที่การงานทำให้ต้องห่างเหินจากที่นี่ไป
กลับมาอีกครั้งยังจำได้คะ ลูกศิษย์คนนี้น่ารักและเขียนกลอนเก่งคะ
แม้ว่าวันนี้ลูกศิษย์ไม่อยู่ ก็ยังคิดถึงอยู่นะคะ
คุณรัชนีวรรณ ยังคงสดใสเหมือนเดิมนะคะ
พูดจาเก่ง อาจารย์เขินนะคะ อะไรจะปานนั้น มาชมมายออะไรกันนักหนา
ส่วนงานกลอนและข้อเขียนของอาจารย์สุวัฒน์ไปอ่านมาบ้างแล้วคะ
ในอดีตเคยไปเม้นทักทายสั้นๆครั้งสองครั้ง
เที่ยวนี้ก็คิดว่าจะไปอ่านเหมือนกันคะ
สวัสดีคะคุณน้อยหน่า
เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นหน้าที่ที่ตั้งใจจะดูแลให้ดีที่สุดคะ กำลังทำอยู่และจะทำตลอดไปนะคะ
สวัสดีคะคุณดวงกมล
อาจารย์ยังจำคุณได้ดีคะ ท่าทางกระฉับกระเฉง กระตือรือร้นของคุณประทับใจมากคะ
ขอให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นรางวัลให้กับชีวิตนะคะ
สวัสดีคะคุณเปรมฤดี
ยังจำได้ครั้งก่อนโน้น เป็นคนสวยแต่พูดน้อย
เที่ยวนี้เป็นคนสวยที่พูดพูดจาสนทนาคล่องขึ้นนะคะ
ขอบคุณคุณกาญจนามากนะคะที่ช่วยมาให้กำลังใจ กำลังใจจากชาว GTK มีค่ามากคะ
คุณเพียงเดือนคะเรื่องที่ยกมาน่าจะจบไปตั้งนานแล้วนะคะ
ไม่ต้องพูดถึงอีกนะคะ ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาพเดิมแล้ว
ขอบคุณนะคะ
ขอให้คุณนภาพรมีความสุขมากๆ
ในวันปีใหม่ไทย2552และตลอดไปนะคะ
จาก ครูแป๋ม ค่ะ
ขอขอบคุณ คุณครูแป๋มมากนะคะ
ติดตามอ่านเรื่องราวของคุณครูทุกครั้งที่เข้ามา
แม้จะไม่ได้แสดงความเห็นก็ชื่นชมครูดีมีอุดมการณ์เช่นคุณตลอดมาคะ
สวัสดีค่ะ ดีใจมากที่อาจารย์ไปเยี่ยมที่บันทึกค่ะ
และเมื่อมาอ่านบันทึกนี้ ทำให้เข้าใจเรื่อง ชนกลุ่มน้อยนี้มากขึ้นมาก และจะมาติดตามงานของอาจารย์ต่อไปค่ะ