ตอนที่ ๑๐ ชวนชมโบสถ์ในหลวง อ่านหนังสือธรรมะ ตักบาตร และทำวัตร
ตอนนี้มาดูว่าเมื่อถึงวัดพระราม ๙ แล้ว มีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมานะครับ ขอแนะนำเป็นจุดๆ ไป
@ โบสถ์ หรือพระอุโบสถ ออกแบบโดยเน้นความเรียบง่ายตามแนวพระราชดำริ โดยได้ต้นแบบมาจากพระอุโบสถของวัดราชาธิวาส สังเกตที่หน้าบันจะมีตราพระราชลัญจกรประจำพระองค์รัชกาลที่ ๙
พอมองดูระยะไกลกันแล้ว ก็ขอให้เดินขึ้นบันไดไปตรงประตูทางเข้าโบสถ์ มองขึ้นไปเหนือประตูจะเห็นตัวอักษรแปลกประหลาด ไม่รู้ว่าภาษาอะไร ตอนบวชเคยสงสัยอยู่ สุดท้ายมาค้นเจอในหนังสือบอกว่าเป็นอักษรอริยกะ ซึ่งรัชกาลที่ ๔ ประดิษฐ์ขึ้น ส่วนคำที่เขียนไว้นี้ คือ คาถา เย ธมฺมา เป็นคาถาโบราณพบในโบราณวัตถุสมัยทวารวดี (ก่อนสมัยสุโขทัยหลายร้อยปี) หลายชิ้น สมเด็จพระเทพฯ โปรดให้จารึกไว้ที่เหนือประตูโบสถ์นี้ เพราะฉะนั้นใครมาถึงวัดแล้ว ก็ไม่อยากให้พลาดชม
จารึกบนเหนือประตูโบสถ์
(สองภาพนี้มาจากหนังสือ พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย)
บรรทัดแรก แปลว่า พระมหาสมณเจ้าทรงมีพระวาทะอย่างนี้ คือ
บรรทัดสอง แปลว่า ตรัสธรรมที่มีเหตุเป็นแดนเกิด
บรรทัดสาม แปลว่า อนึ่ง ตรัสเหตุของธรรมเหล่านั้น
บรรทัดสี่ แปลว่า ตรัสความดับของธรรมเหล่านั้น และตรัสอุบายเป็นเหตุดับ
@ พระประธาน ถึงหน้าประตูโบสถ์แล้วก็ควรเข้าไปไหว้พระประธาน ซึ่งมีนามว่า พระพุทธกาญจนธรรมสถิต เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพระอัครสาวก คือพระโมคคัลลานะอยู่เบื้องซ้าย พระสารีบุตร อยู่เบื้องขวา จุดที่จะแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ของพระประธานองค์นี้ คือพระเกตุมาลาบนพระเศียร ทำเป็นลักษณะกลีบบัวบาน พระประธานองค์นี้ ในหลวงมีพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยตลอดการสร้าง
@ บึงน้ำและกังหันน้ำชัยพัฒนา บริเวณนี้มักมีคนนิยมมานั่งพักผ่อนและให้อาหารปลา ตอนเย็นๆ ก็เงียบสงบและร่มรื่นดี มีกังหันน้ำชัยพัฒนากำลังทำงานรักษาสภาพน้ำในบึงให้ดูด้วย
@ หนังสือธรรมะดีๆ ซีดีเพราะๆ ใกล้ๆ กับศาลาสองชั้นมีห้องสำนักงาน ลองเข้าไปข้างในนะครับ มีหนังสือธรรมะน่าอ่านหลายเล่ม ส่วนใหญ่เป็นงานประพันธ์ของท่าน “ปิยโสภณ” นามปากกาของท่านเจ้าคุณศรี หรือพระศรีญาณโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙
เล่มน่าอ่านมีหลายเล่มครับ แนะนำเล่ม “แผ่เมตตาให้ศัตรู” (ขออภัยไม่มีปกให้ชม) “พุทธวิธีคลายเครียด” “ชีวาของชีวิต” “ปรัชญามดแดง” และอื่นๆ เลือกได้ตามใจชอบ แล้วช่วยบริจาคเงินค่าหนังสือลงในหีบใส่เงิน
แผ่นซีดีก็มี แนะนำแผ่น “จิตตสปา” เป็นบทสวดพระคาถาต่างๆ ที่ไพเราะ เสียงของท่านปิยโสภณเอง เปิดฟังแล้วจะสบายใจมาก ถือเป็นการสวดมนต์ไปในตัว แผ่นนี้ผมขอแนะนำจริงๆ ครับ แค่ฟังบทชุมนุมเทวดาเพลงแรก ก็สะกดจิตได้แล้วครับ ตามด้วยบทโพชฌังคปริตรที่เป็นเวอร์ชันที่เพราะมากในความคิดผม ผมใช้วิธีแปลงเข้า MP4 ฟังทุกเช้าเวลาเดินทางนั่งรถไฟฟ้าไปที่ทำงาน ช่วยให้จิตสงบดีมาก ส่วนแผ่นบทสวดมนต์ก็ดีครับ เสียงนำสวดโดยหลวงพ่อเจ้าอาวาสครับ
@ ตักบาตร ใครสนใจจะมาตักบาตรตอนเช้า ที่วัดพระราม๙ จะเป็นตักบาตรข้าวเปล่า ส่วนอาหารและกับจะจัดเป็นจานถวาย ควรมาให้ถึงก่อน 7 โมงเช้าเล็กน้อย บางคนมาเอาเกือบแปดโมง พระฉันไปจนจะอิ่มแล้ว
@ ทำวัตร สวดมนต์ทำวัตรเช้าประมาณ ๘ โมงครึ่งบนศาลาชั้นสอง ประมาณครึ่งชั่วโมง ส่วนทำวัตรเย็นจะทำที่พระอุโบสถ เริ่มประมาณ ๕ โมงเย็น วัตรเย็นจะใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง เสร็จแล้วทางวัดจะเปิดเสียงบรรยายธรรมะของสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งจะแนะนำเรื่องการปฏิบัติสมาธิภาวนา เพราะสวดมนต์เสร็จแล้ว ก็จะให้นั่งสมาธิต่ออีกประมาณครึ่งชั่วโมง ฟังบรรยายไปด้วย ได้ความรู้ดี มีโยมที่มาประจำเกือบทุกวันหลายคนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเหงา มีคนนั่งเป็นเพื่อนแน่นอน
ก็ขอเชิญชวนให้มาปฏิบัติธรรมที่วัดพระราม๙ กันนะครับ ถ้าไม่ได้มาตักบาตรหรือถวายเพล ก็มาให้ถึงสักสี่โมงเย็น ไม่ร้อนเกินไป แวะดูหนังสือธรรมะและซีดี แล้วไปให้อาหารปลาในบึง จากนั้นไปที่โบสถ์ดูตัวอักษรอริยกะ เข้าโบสถ์ไหว้พระแล้วร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเย็น นั่งสมาธิ เสร็จพอดีมืด กลับบ้านอย่างสบายใจที่สุด
ความเห็น (1)
อยากมีวัดแบบนี้อยู๋ใกล้ๆบ้านค่ะ
ครูต้อยใช้บ้านเป็นวัดค่ะ
และใช้เสียงสวดมนต์ เสียงเทศน์ในวิทยุเป็นครูอาจารย์ค่ะ
ขอบคุณี่นำเรื่องราวดีๆ มาฝากค่ะ