สงกรานต์ปี 2549 เล่นน้ำแล้ว นึกถึงพระคุณในหลวงท่าน
ผ่านไปเสมือนปีใหม่ของไทยผ่านไป แต่ไม่สนุกจนลืม มาร่วมแรงร่วมใจเทิดไท้ในหลวงของเราที่มีพระชนมายุยืนนาน และครองราชย์ครบ 60 ปี ซึ่งท่านทำประโยชน์มากเหลือเกิน มิใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่ให้พวกเราทุกคนที่เป็นคนไทย ได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ไม่เหมือนชาติอื่นๆที่มีแต่ความขัแย้ง รบราฆ่าฟันกัน จะทำอะไรให้ชาติวิบัติ คิดถึงความเสียสละขององค์ในหลวงท่านสักนิดเถอะ เพื่อเอ๋ย ลูกหลานเอ๋ย อย่ามัวแต่มัวเมาอำนาจ ไม่คิดถึงคนอื่น ตายไปก็เอาไป บ่ ได้ดอก อย่ามัวแต่คิดแค้น แก้แค้น ฆ่าฟันกันเพราะเพียงคำพูด ยึดว่า ของตัวกูไม่ยอมให้ใครมาดูถูก สุดท้าย ไม่เหลือสักตัวตน ทำอย่างไร ใน ชีวิตมนุษย์นี้ที่สั้นนัก จะมาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และใช้ชีวิตอย่างเกื้อกูลเอื้ออาทร ไมมีคำว่า ศาสนาใครศาสนามัน ประเทศใครประเทศมัน ตัวใครตัวมัน มีแต่เพียงคำว่า เพื่อนร่วมโลกที่พร้อมจะช่วยกัน เพื่อชีวิตที่มีอยู่อย่างคุณค่า
คิดถึงทุกคน แต่ที่ผ่านมาไม่อยู่ ติดประชุม เป็นวิทยากร ติดงาน ไม่มีลูกน้องพิมพ์ให้ เลยไม่ได้เข้ามาคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
เกร็ดสมุนไพรวันนี้ น้ำที่ใช่สาดกันวันสงกรานต์ สมัยก่อน นอกจากใช้น้ำอบไทย ทางอีสานเขาจะใส่หัวว่านชนิดหนึ่ง มีสีขาว ลักษณะนิ่มชุ่มน้ำน้อย ใบแผ่เป็นสองใบแนบติดดิน ที่เรียกว่า เปราะหอม บางคนเรียก กระแจะ บางคนบอกว่า ว่านตูบหมูบ (ภาษาอีสาน) มีหลายพันธุ์ หัวใหญ่บ้าง หัวเล็กบ้าง ใบเขียวบ้าง หรือเขียวออกม่วงบ้าง ใช้ได้ทุกหัว อยู่ใต้ดิน นำมาหั่น หรือคั้นน้ำใส่น้ำรดสงกรานต์ กลิ่นหอมนุ่มนวล เป็นธรรมชาติ กลิ่นอย่างไทย และยังทาแป้งกระแจะ ดินสอพอง ว่านนางคำ ทัดไว้ที่หูด้วยดอกมหาหงส์ หรือสะเลเต ทางอีสานนิยมเก็บดอกสะเลเตไปไหว้พระ สีขาวเป็นพวงช่อ หอมรัญจวนใจมาก เขาเล่าว่า แม่ม่ายชอบทัดดอกไม้นี้ หนุ่มๆคนใดได้กลิ่นก็หลงรัก
เมืองไทยนี้ดี มีดอกไม้หอมมากมาย ไม่ต้องใช้น้ำหอมที่สังเคราะห์ขึ้น มีอีกใบที่อยากให้รู้จักคือใบเนียมอ้ม หอมเหลือเกิน เก็บใบทับกับเงินแบ๊งค์ ใช้แล้วหอม คนโบราณใช้ใบนี้ มาอบให้เสื้อผ้าหอม ยายแก่ๆเอาใบนี้มาเสียบหู และยังเคี้ยวหมากใส่ใบนี้ ก็หมากหอมนุ่ม ปากหอมใครชอบกินวิสกี้หรือสุรา เอาใบนี้ขยี้ใส่เข้าไป เขาว่านุ่มนักเชียว