ธุรกิจเว็บไซต์เผยแพร่สื่อล่อแหลม (129)


การใช้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงครองอันดับหนึ่งในปัจจุบันจนประโยชน์ด้านการศึกษามิใช่คู่แข่งอย่างที่ควรจะเป็น เพราะสถิติการเข้าเว็บไซต์ของคนไทยมีรายงานออกมาว่าเข้าเว็บไซต์ด้านบันเทิงถึงร้อยละ 40 แต่เข้าเว็บไซต์ด้านการศึกษาไม่ถึงร้อยละ 2

 

การใช้บริการอินเทอร์เน็ตของแต่ละคนมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป การใช้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงครองอันดับหนึ่งในปัจจุบันจนประโยชน์ด้านการศึกษามิใช่คู่แข่งอย่างที่ควรจะเป็น เพราะสถิติการเข้าเว็บไซต์ของคนไทยมีรายงานออกมาว่าเข้าเว็บไซต์ด้านบันเทิงถึงร้อยละ 40 แต่เข้าเว็บไซต์ด้านการศึกษาไม่ถึงร้อยละ 2 เว็บไซต์เพื่อความบันเทิงส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากค่าโฆษณา ซึ่งมาจากหลายแหล่งและมีการทำงานประสานกันกับผู้ให้บริการหลายราย เช่น ผู้ให้บริการเก็บแฟ้มออนไลน์ (Free File Hosting) และผู้รับโฆษณาออนไลน์ (Online Advertising)
มีเว็บไซต์ที่จดโดเมนใหม่ แต่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการนำเสนอเนื้อหาที่ล่อใจเยาวชน ล่อแหลมไปทางสื่อลามก นำเสนอสื่อมัลติมีเดียละเมิดลิขสิทธิ์หรือผิดต่อศีลธรรมที่เว็บไซต์ทั่วไปไม่กล้านำเสนอ เช่น ภาพเซ็กซี่ ภาพยนต์ชนโรงทั้งเรื่อง ภาพยนต์คาราโอเกะ หรือแฟ้มเพลงทั้งอัลบั้ม มักอาศัยเว็บไซต์พันธมิตรที่ให้บริการเก็บแฟ้มออนไล์จัดเก็บสื่อเหล่านั้น เพราะเว็บไซต์เหล่านี้ทำหน้าที่เชื่อมโยงไปยังสื่อเหล่านั้นแต่มิได้จัดเก็บในเว็บไซต์ของตน ซึ่งเว็บไซต์ที่รับฝากสื่อสามารถรับแฟ้มได้นับร้อยเมกะไบท์ต่อแฟ้ม และทุกเว็บไซต์มีเหตุผลในการปฏิเสธความรับผิดชอบ เช่น มิใช่คนเก็บแฟ้มแต่ให้บริการเชื่อมโยงแก่สมาชิก หรือรับเก็บแฟ้มแต่มิใช่คนนำแฟ้มเข้า เป็นต้น
การทำงานเป็นทีมอย่างบูรณาการมักทำให้มีจำนวนคนเข้าเว็บไซต์สูงกว่าทำงานเพียงลำพัง นักพัฒนาเว็บไซต์มีรายได้จากค่าโฆษณาในหลายรูปแบบ อาทิ จำหน่ายดีวีดีหรือวีซีดีสำหรับผู้ใหญ่ ชวนทำงานอยู่กับบ้านแต่รายได้ดีกว่าแสนต่อเดือน หรือขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จากการสืบค้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่สื่อสำหรับผู้ใหญ่หรือส่อไปในทางละเมิดลิขสิทธิ์หนังและเพลง พบว่ามีอยู่จำนวนไม่น้อยและน่าจะเพิ่มขึ้น เพราะป้ายโฆษณาในแต่ละเว็บไซต์มีมาก นั่นหมายถึงผลตอบแทนที่คุ้มกับการลงทุน แม้จะรู้ว่าผิดทั้งกฎหมายและคุณธรรม แต่ผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนทำให้คนดีกลายเป็นคนชั่วมานักต่อนัก มนุษย์ที่มีส่วนเผยแพร่สื่อสำหรับผู้ใหญ่ในปัจจุบันอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ทำนั้นผิดต่อใครหรือไม่ เพราะมีรายได้สูง และมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น คงต้องรอให้ทั้งสังคมตื่นตัวกว่านี้ และผู้เสียผลประโยชน์ออกมาตีอกชกลม และผู้รักษากฎหมายเอาจริงเอาจังกับมาตรการที่จะระงับไม่ให้พฤติกรรมแบบนั้นเป็นเยี่ยงอย่างเหมือนที่เคยปราบแคมฟร็อก (Camfrog) อย่างได้ผลมาแล้ว

หมายเลขบันทึก: 240431เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2009 08:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน 2012 14:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท