กำแพงเมืองจีน (The Great Wall of China) |
|
|
กำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 332 - 339 โดยจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นกำแพงอิฐที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งยาวประมาณ 2400 กิโลเมตร เพื่อป้องกันการรุกรานจากชาวตาตาร์ กำแพงสร้างด้วยดิน หิน และก่ออิฐโดยรอบ มีการสร้างป้อมปราการประมาณ 15,000 แห่ง มีฐานกว้างประมาณ 20 ฟุต ทางเดินกว้างประมาณ 12 ฟุต สูงประมาณ 25 ฟุต มีระฆังบอกเหตุประมาณ 20,000 หอ ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 10 ปี โดยแรงงานของประชาชนนับล้านคนและมีผู้เสียชีวิตในระหว่างการสร้างประมาณหมื่นคน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากพอสมควร ปัจจุบันกำแพงเมืองจีนได้รับการบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุดเสียหาย ซึ่งทำให้กำแพงเมืองจีนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสภาพสมบูรณ์สวยงาม
|
นครวัตเป็นสถาปัตยกรรมที่มหัศจรรย์ยิ่งสร้างขึ้นเมื่อประมาณ ค.ศ. 1643 กษัตริย์เขมร ชื่อชัยวรมันที่ 2 ทรงสร้าง
ขึ้นปราสาทนี้กว้างด้านละ 5 เส้น รอบ ๆ ปราสาทมีคู สร้างเป็น 3 ตอน ทางเข้าปราสาทด้านหน้าปูด้วยหินขนาดใหญ่มีราวกำแพงสลักเป็นพญานาค
ซุ้มประตูสร้างเป็นพระปรางค์ 3 ยอดผ่านประตูเข้าไปข้างในถึงตอนกลางเป็นปราสาทก่อเป็นพระปรางค์มี 5 ยอดมีภาพแกะสลักลงในเนื้อหินอย่างวิจิตร
ทุกส่วนสร้างด้วยศิลาแลง
ครธมเป็นนครโบราณที่ประกอบไปด้วยปราสาทหินเป็นรูปสี่เหลียมจตุรัสมีคูเมืองกำแพง ป้อมปราการอันสวยงามและแน่นหนา สร้างด้วย
ศิลาและหิน เนื้อที่ประมาณ 5500 ไร่
ทัชมาฮาล เป็นสุสานฝังศพตั้งอยู่ที่ตอนโค้งของแม่น้ำยมนาฝั่งขวา เมืองอัคระ ประเทศอินเดีย ชาห์ชะฮานสร้างเป็นศรีสง่า
แก่บริเวณพระราชวัง สำหรับเก็บศพมุมทัชมาฮาลพระมเหสี สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1630-1648 ด้วยหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร
พลอยสีฟ้า หินสีฟ้า โมรา หินทองแดงหินลาย พลอยสีเขียว นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับที่ได้มาจากนานาประเทศที่เป็นมิตรซึ่งได้รับคำรับรองจากสถาปนิกทั่วโลก
ว่าสร้างขึ้นโดยถูกสัดส่วนและวิจิตรงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 39 เมตร ตรงกลางมีโดมสูง 60 เมตร มีผู้ร่วมสร้างเป็นผู้ออกแบบ ช่างเขียนลวดลาย ช่างอิฐ ช่างปูน
ช่างประดับลวดลายด้วยกระเบื้อง ช่างแกะสลัก ช่างตกแต่งภายใน รวม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ภายหลังที่สร้างทัชมาฮาลชาห์ชะฮานใฝ่ฝันที่
จะสร้างที่ฝังศพตัวเองที่ฝั่งแม่น้ำตรงกันข้ามจะเป็นหินอ่อนสีดำล้วนๆแต่ลูกชายเกรงเงินจะหมดจะไม่มีใช้ เมื่อขึ้นครองราชสมบัติจึงจับพ่อขังอยู่ได้ 7 ปีก็สิ้นพระชนม์
ประมาณปี พ.ศ.2209(ค.ศ.1666) แล้วเอาศพไปฝังข้างศพแม่ ส่วนนายช่างผู้ออกแบบถูกสั่งให้ประหาร ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีโอกาสออกแบบสิ่งก่อสร้างใด ๆที่สวยกว่าได้
มหาปิรามิด แห่งอียิปต์ ปิรามิดคือ สถานที่เก็บพระบรมศพของกษัตริย์แห่งอียิปต์โบราณ มีลักษณะเป็นกรวยเหลี่ยมขนาดใหญ่
ตั้งอยู่กลางทะเลทรายอันร้อนระอุ และหนาวเย็นในเวลากลางคืน ปิรามิดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้แก่ ปิรามิดเห่งเมืองกิเซห์
ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมศพของ พระเจ้าคีออปส์(CHEOPS) หรือ คูฟู ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเองเมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ 3,500 ปี
นับอายุจนถึงปัจจุบันก็กว่า 5,000 ปีล่วงมาแล้ว ถือเป็นปิรามิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อยูที่กลางทะเลทรายห่างจากกรุงไคโรเมืองหลวงแห่งอียิปต์
ปัจจุบันประมาณ 4 ไมล์ ปิรามิดแห่งนี้เดิมสูง 481.4 ฟุต แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 450 ฟุต ฐานกว้าง 768 ฟุต ใช้ทรายตัดเป็นแท่งรูปสามเหลี่ยมหนัก
ประมาณก้อนละ 2 ตันครึ่ง บางก้อนหนักถึง 16 ตัน โดยการนำเอามาซ้อนกันขึ้นไปเป็นทรงกรวยปิรามิด ซึ่งต้องใช้หินไม่น้อยกว่า 2,500,000ก้อน
รวมน้ำหนักกว่า 6,000,000 ตัน ฐานกินเนื้อที่ถึง 12 เอเคอร์หรือราว 20 ไร่ เชื่อกันว่าปิรามิดองค์นี้จะทนแดดทนฝนอยู่ได้อีกนานกว่า 5,000 ปี
และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของยุคโบราณสิ่งเดียวเท่านั้นที่มีอายุยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวมาจากทุกมุมโลกเดินทางไปอียิปต์เพื่อมาชมปิรามิด
แห่งนี้เป็นจำนวนมากทุกปี
สวนลอยบาบิโลน เป็นสวนที่สร้างอยู่เหนือพื้นดินบนพิ้นที่กึ่งทะเลทราย สร้างโดย พระเจ้าเนบูชาด์เนซซาร์ เมื่อประมาณ 600 ปีก่อนคริสตกาลเพื่อเป็น
สวนที่ประทับของพระองค์และพระมเหสี โดยก่อเป็นเนินสูงซ้อนเป็นชั้น ๆ สูงถึง 100 ฟุต แต่ละชั้นสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และปลูกพืชพันธุ์ต่าง ๆไว้จำนวนมาก
มีระบบชลประทาน ชักน้ำตกเบื้องล่างขึ้นไปสู่ชั้นสูงสุดแล้วปล่อยให้ไหลลงสู่ชั้นต่าง ๆ เบื้องล่าง ทุกชั้นมีกำแพงล้อมรอบ และพ่อค้าวณิชที่เดินทางในทะเลทรายมาสู่
เมืองนี้ จะได้เห็นสวนลอยนี้อยู่สูงเด่นเห็นแต่ไกลจนเป็นที่เลื่องลือ ไปทั่วทิศจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏว่า
กรุงบาบิโลนอยู่ในเมืองแบกแดดของประเทศอิรัก ปัจจุบัน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่สิ่งก่อสร้างแห่งนี้พังทลายสูญสิ้นแม้แต่ซากก็ไม่ปรากฏคงมีแต่นิยาย
และคำร่ำลือสืบต่อกันมาเท่านั้น
หอเอนเมืองปิซา เป็นหอคอยหินอ่อนที่สร้างขึ้นในเมืองปิซา ประเทศอิตาลี เริ่มสร้างหอนี้เมื่อ ค.ศ. 1174 และเสร็จเรียบร้อยเมื่อ ค.ศ. 1350
ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 176 ปี สูง 181 ฟุต มีอยู่ 8 ชั้น แต่ละชั้นมีเสาหินอ่อนที่สลักด้วยลวดลายวิจิตรรอบรับไว้โดยรอบ ความน่ามหัศจรรย์นอกจากเป็นสิ่งก่อสร้าง
ที่ใช้เวลานานที่สุดในโลกแล้ว ยังไม่หมดความน่ามหัศจรรย์เพียงแค่นั้น เพราะตั้งแต่เริ่มสร้างได้ 4-5 ขั้น หอนี้เริ่มเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 14 ฟุต แต่ก็ยังไม่ล้ม
คงยืนหยัดเอียงอยู่ได้อย่างน่ามหัศจรรย์จนถึงทุกวันนี้ ที่หอเอนนี้เอง กาลิเลโอใช้เป็นสถานที่ทดลองเรื่องอัตราเร็วของเทห์ที่ตกลงมาจากที่สูง ด้วยแรงดึงดูดของโลก
โดยอาศัยความจริงของทฤษฎีที่พิสูจน์ได้ว่า “ เทห์วัตถุชนิดเนื้อเดียวกันแม้จะมีขนาดและน้ำหนักต่างกันก็จะตกจากที่สูงถึงพื้นดินพร้อมกัน หากว่าปล่อยให้ตกลงมาพร้อม
กันเป็นการอธิบายว่าแรงโน้มถ่วงของโลก จะกระทำต่อเทห์วัตถุชนิดเนื้อเดียวกันเท่ากันเสมอ
ประวัติศาสตร์ชาติอเมริกาได้ถือกำเนิด สถานที่ที่บุคคลสำคัญเคยยืนตรงจุดนี้ ที่ที่พวกเขาได้ป่าวประกาศอิสรภาพอย่างสมบูรณ์
ตามทางเดินที่มุ่งตรงสู่ อินดีเพนเดนซ์ฮอล รอยเท้าของเบนจามิน แฟรงคลิน และจอร์จ วอชิงตัน ที่เคยเดิน ศูนย์กลางความมั่นคง
ทุกอย่างของอเมริกา เสียงที่ก้องกังวานของระฆังแห่งเสรีภาพ หลักเชิดชูอุดมคติในอิสรภาพ และความเสมอภาคอย่างแน่วแน่
ณ สถานที่แห่งนี้ทุกสิ่งได้เกิดขึ้น ประชาธิปไตยของชาติ ประวัติศาสตร์ของอเมริกา
แวะมาทักทายค่ะ