ตามหลักฐานพงศาวดารลาว ฉบับกระซวงสึกสาทิกานลาว พิมพ์เมื่อ พ.ศ.2505 ได้กล่าวถึงเจ้าชายมุยครองเมืองเวียงจันทน์ เมื่อครั้งสมัยพระเจ้าไชยจักรพรรดิ์ผ่านแผ้วครองเมืองเวียงจันทน์ (พ.ศ. 1999-2021) ครองเมืองหลวงพระบาง เจ้าชายมุยเป็นโอรสของเจ้าเมืองปากห้วยหลวง และสืบเชื้อสายสัมพันธ์กับราชวงค์ของอาณาจักรล้านช้างด้วย จากพงศาวดารลาว กล่าวว่า เมื่อท้าววังบุรี ผู้ครองเมืองเวียงจันทน์ได้ราชสมบัติไปครองเมืองหลวงพระบาง เมื่อ พ.ศ.1999 ทรงพระนามว่า พระเจ้าไชยจักรพรรดิ์ผ่านแผ้ว ก็โปรดให้เจ้าชายมุย โอรสเจ้าเมืองปากห้วยหลวง ซึ่งได้เป็นเจ้าเมืองปากหลวงต่อจากบิดาไปครองเมืองเวียงจันทน์ อันเป็นหัวเมืองสำคัญรองลงมาจากเมืองหลวงพระบางในสมันนั้น เหตุการณ์ดังปรากฏในศิลาจารึกวัดแดนเมือง 2 (สร้างเมื่อ พ.ศ.2078) พระเจ้าโพธิสาลราช(ครองราชย์พ.ศ. 2063-2093) โปรดเกล้าให้สร้าง ในศิลาจารึกได้กล่าวถึงเจ้าชายมุยในศิลาจารึกของพระองค์ว่า "...ข้อยกับวัดกับพระ แต่ชายมุย ลุลุงพระยาจันทน์ ได้หยาดน้ำไว้ว่า ว่าไผได้ถอนออกไปหาขุนให้เอาคืนดังเก่า..." ตามลำดับกาลเวลา พระเจ้าโพธิสาลราชเป็นคนรุ่นหลังเจ้าชายมุยประมาณ 1 ชั่วอายุ หรือ 2 ชัวอายุ (คือรุ่นลูกรุ่นหลานยังจำกันได้) ครั้นเมือเสด็จมาอุทิศที่ดินและสิ่งของให้กับวัดแดนเมือง ยังได้กล่าวถึงเจ้าชายมุยและลุงพระยาจันทน์ซึ่งเป็นเจ้าเมืองปากห้วยหลวงอยู่ก่อน เคยอุทิศที่ดินและข้าวัดแก่วัดแดนเมือง แสดงว่าเจ้าชายมุยนั้นเป็นญาติรุ่นปู่หรือลุงของพระเจ้าโพธิสาลราช เจ้าชายมุยได้เลื่อนตำแหน่งมาครองเมืองเวียงจันทน์นานเท่าไหร่ไม่ปรากฏ ภายหลังพบหลักฐานพงศาวดารลาว ว่าเจ้าชายมุยเป็นกบฏและถูกปลงพระชนม์ในสมัยพระเจ้าไชยจักรพรรดิ์ผ่านแผ้วนั่นเอง
ไม่มีความเห็น