...ขอให้ดาบเล่มนี้ตีขึ้นด้วยเหล็กดีจริง


นายกใหม่ สาธุๆ ขอให้เป็นคมในฝักที

          ไม่เคยชื่นชม คุณอภิสิทธ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย ไม่ว่าในสมัยที่เป็นผู้นำ-หรือผู้ตาม เมื่อครั้งท่านทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา  ไม่ใช่เพราะอิจฉาหน้าตาอันหล่อเหลาของท่าน แต่เพราะลีลา การพูดจา ที่แฝงนัยะกระแหนะกระแหน ประชดประชัน ฝ่ายตรงข้ามอยู่บ่อยครั้งเมื่อผมได้ฟังท่านพูด
          เคยสนทนากับคนรู้จักและเพื่อนฝูงอยู่บ่อยครั้งว่า ไฉนพรรคการเมืองเก่าแก่ ไม่ยอมเปลี่ยนหัวขบวนอีกสักครั้งเพื่อให้คนไทยมีโอกาสเลือกมากขึ้น ทำไมพรรคการเมืองเก่าแก่จึงยังไว้วางใจบุรุษที่คนจำนวนหนึ่ง ปรามาสว่า ไม่มีอะไรเพระโดดเด่นนอกจากหน้าตาและภาพพจน์ที่คนในพรรคช่วยกันสร้างให้  แถมยังมีลีลาการใช้สำบัดสำนวนที่หลายคนหมั่นไส้
          แต่แล้ววันนี้ผมกลับได้ท่านมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นนายกคนใหม่ ในห้วงปัจจุบันของไทยที่ไม่ต้องให้ กูรู ของแท้หรือตูรู้ในสภากาแฟท่านใดมาฟันธง เราหลายคนก็ตระหนักได้ด้วยความรู้สึกว่า ประเทศเรากำลังดำดิ่ง เลื่อนถลำเข้าไปใกล้ปากหุบเหวที่มืดมิดและน่ากลัว นักการเมืองปลุกระดมให้คนในชาติแตกแยกเป็นฝักฝ่าย  บางคนไปไกลขนาดพูดถึงไทยเหนือ-ไทยใต้ สถาบันหลักถูกดึงมาอยู่ในวังวนการเมืองและโดนบ่อนเซาะเพื่อลดความน่าเชื่อถือ  หลายฝ่ายแสดงออกถึงการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมด้วยท่าทีที่แตกต่างกัน  ความแตกแยกและความรุนแรงทำให้ภาพสยามเมืองยิ้มเลือนหายไป ซ้ำร้ายเศรษฐกิจหลายประเทศยักษ์ใหญ่ที่เป็นตลาดส่งออกก็อยู่ในภาวะวิกฤติ  ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจท่องเที่ยวและภาคส่งออก สองภาคธุรกิจที่เป็นรายได้หลักของประเทศ
          เมื่อท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้รับตำแหน่ง ผมพยายามค้นหาผลงาน ที่จะยืนยันถึงศักยภาพทางธุรกิจของท่านนายกคนใหม่ แต่ผมยังมองไม่เห็น ผมจึงหวั่นวิตกกังวลอยู่ลึกๆ
          สำหรับผมแล้ว แม้ว่าเศรษฐกิจดีมีเงินใช้จะเป็นเรื่องสำคัญแต่ก็ ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด
          เพราะผมคิดว่า ภาวะเศรษฐกิจดีสามารถสร้างได้อีกหลายครั้งในช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่ง แต่ประเทศไทยที่เป็นปึกแผ่นร่มเย็นใช้เวลาสร้างมาหลายชั่วอายุคน ถ้าให้เลือก ผมเลือกที่จะอยู่อย่างยากจนแต่คนในชาติรักสามัคคี เอื้อเฟื้อและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 
          แต่ในความเป็นจริง
          เศรษฐกิจดี กำลังเป็นเงื่อนไขสำคัญของการก้าวข้ามวิกฤติความแตกแยกของคนในชาติ ซึ่งรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วงอายุที่ผมจำความได้  
          ในห้วงความปริวิตกนั้น พลันผมก็ได้เห็นถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่เผยแพร่บนโลกอินเทอร์เน็ต
          เมื่ออ่านดู ผมรู้สึกแปลกใจ และคล้ายเห็นแสงเล็กๆ ภายในใจ
          เนื่องจากถ้อยแถลงครั้งนี้มีท่วงทำนองผิดไปจากภาพติดตาของผม
          ถ้อยแถลงที่บางคนบอกว่าท่านผู้นำร่างขึ้นเองด้วยเวลาจำกัด เป็นสุนทรพจน์ ที่ไม่ได้มีแต่สำบัดสำนวนที่หรูหราอย่างที่ผมคิด  ตรงกันข้าม ข้อความนั้นเป็นสารที่ส่งถึงประชนทั้งประเทศได้อย่าง จับใจ  มีพลัง สมกับเป็นถ้อยแถลงของผู้นำประเทศ
          ในขณะที่การตอบคำถามนักข่าว ท่านนายกคนใหม่ก็ตอบได้ชัดเจน ฉะฉาน ไม่บ่ายเบี่ยง หลีกเลี่ยงหรือสงวนท่าทีจนน่ารำคาญ
          แถลงการณ์และการตอบคำถามที่แสดงถึง วิสัยทัศน์ สติปัญญาในการวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของปัญหารวมถึงปฏิกิริยาโต้ตอบกับสถานการณ์ช่วงนี้อย่างชาญฉลาด  ทำให้ผมคาดหวังลึกๆว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่อาจจะสามารถวิเคราะห์สั่งการและจัดการกับปัญหาที่รุมเร้าด้วยความเฉียบคมเช่นเดียวกัน
          ตอนนี้ภาพที่เห็นนายกคนใหม่ชักดาบออกมาแล้ว เมื่อแลดูดาบของท่านก็คล้ายไม่ใช่ประเภทคมในฝักที่ชักออกมาสนิมร่วงกราวแต่เป็นคมในฝักที่ชักออกมาแล้วแลดูน่าเกรงขาม ผมเพียงแต่หวังว่าดาบเล่มนี้จะตีขึ้นด้วยเหล็กดี คมจริงและเก็บคมไว้ได้นาน
          เพราะปัญหาที่ท่านจะต้องสั่งการและตัดสินใจ นั้นยังมีเข้ามาอีกมากมาย ถ้าดาบที่เหมือนจะคมกริบนั้นมิใช่ตีขึ้นด้วยเหล็กกล้าก็คงสิ้นคม ก่อนที่จะพาประเทศไทยจะก้าวข้ามพ้นวิกฤติ
          ผมไม่คาดหวังอะไรมากมาย
          ผมคาดหวังว่าท่านจะเก่งกว่าภาพที่ผมเคยเห็นสักเล็กน้อย
          ผมหวังเพียงว่าหลังจากการทำงานไประยะเวลาหนึ่ง...ประเทศไทยจะก้าวข้ามพ้นปัญหา ความแตกแยกและปัญหาเศรษฐกิจ
          ผมหวังเพียงว่า อีกไม่นานประเทศไทยจะมีหน้าตาเช่นเดียวกับ คณะรัฐมนตรีในตอนนี้คือ ไม่ต้องหรูเลิศไร้ที่ติ แต่ก็ไม่ถึงขนาดใจหายทุกครั้งที่มอง
          เป็นครั้งแรกที่ผมเอาใจช่วยนักการเมืองทำงาน
          ไม่เพียง พรรคเก่าแก่ที่วางเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ไว้ที่หัวหน้าพรรคที่ดูแล้วไม่มีความโดดเด่นท่านนี้
          คนธรรมดาอย่างผม ก็ฝากความหวังไว้ที่นายกรัฐมนตรีที่ดูเหมือนไม่โดดเด่นคนนี้เช่นกัน
          หวังว่าภาพพจน์ของท่านที่เหมือนไม่มีอะไรโดดเด่นนอกจากหน้าตาจะเป็นเพียงเปลือกนอก
          แท้จริงแล้วท่านเป็นคนประเภทคมในฝัก
          เป็นดาบดีที่ตีขึ้นด้วยเหล็กกล้า...จะได้หวังถึงวันเวลาที่สยามประเทศจะกลับมายิ้มเสียที

คำสำคัญ (Tags): #นายกคนที่ 27
หมายเลขบันทึก: 230905เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2008 17:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ดาบที่ดีตีเหล็กกล้ามาขึ้นรูป...           ความร้อนสูบเผาไฟให้อ่อนไหล

อภิสิทธิ์ดาบเล่มนี้ที่ว่าไป...               เป็นรูปได้ด้วยขี้เหล็กเฉกเช่นเป็น

หากจริงจังดั่งเช่นคุณวิโรจน์ว่า           คงถึงคราชะตาเมืองมีเรื่องร้อน
คู่แดงเหลืองคงต่อรบรุกรานรอญ         เป็นไฟฟอนเผาไหม้ไทยอีกนาน


...พยายามตอบเต็มที่เลยครับนี่ ^^ กับนายกคนนี้ผมก็ได้แต่หวังและภาวนาครับ ...ขอให้ คุณวิโรจน์ มีความสุขสวัสดีในปีใหม่ที่จะมาถึงนี้นะครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท